เด็กหลอดแก้ว ทางออกของคนยุคใหม่ที่อยากมีลูก
การเลี้ยงดู ฟูมฟักเด็กคนนึงให้มีชีวิตอยู่ได้ในสังคม ต้องใช้ความตั้งใจและใช้ความพร้อมอย่างมาก หลายคู่ชีวิตมีความฐานะ มีความพร้อมที่จะเลี้ยงดูลูกได้แต่กลับไม่สามารถมีลูกได้ เพราะภาวะการมีบุตรยากของฝ่ายชายหรือหญิงที่มีอยู่ด้วยกันหลายปัจจัย ซึ่งเป็นเรื่องน่าเสียดายที่เด็กไม่มีโอกาสได้เกิดมาในครอบครัวที่ให้สภาพแวดล้อมที่พร้อมและเหมาะสมสำหรับการเติบโต ถ้าเป็นคนสมัยก่อนก่อนคงจะแก้ปัญหาด้วยการกินอาหารบำรุงหรือไปบนบานศาลกล่าว แต่จะดีกว่าไหมถ้าจะหาทางออกสามารถแก้ปัญหาได้ดีกว่า นั่นคือ การทำเด็กหลอดแก้ว
รู้ไว้ก่อนลงมือ ข้อมูลเบื้องต้นของการทำเด็กหลอดแก้ว
การทำเด็กหลอดแก้ว คืออะไร ?
การทำเด็กหลอดแก้ว คือ การปฏิสนธิภายนอกร่างกายโดยการนำเซลล์อสุจิที่เก็บจากผู้ชาย และเซลล์ไข่ที่เก็บจากผู้หญิง มาทำการผสมในพื้นที่ปลอดเชื้อ ให้เกิดการปฏิสนธิ เพราะสำหรับผู้ชายมีปัญหาในการแข็งตัวของอวัยวะเพศทำให้ไม่สามารถมีเพศสัมพันธ์ได้ การทำเด็กเด็กหลอดแก้วที่จะนึงเซลล์มาผสมกันภายนอกก็จะช่วยแก้ปัญหาได้
ซึ่งการทำเด็กหลอดแก้วที่เป็นที่รู้จักจะมีอยู่ 2 ชื่อ การทำอิ๊กซี่ (ICSI) และการทำ IVF แต่ทั้ง 2 อย่างนี้มีความแตกต่างกันอย่างไรหละ ?
จุดที่แตกต่างกันของ ICSI และ IVF
ทั้ง 2 อย่างมีหลักการอย่างเดียวกันคือ การปฏิสนธิภายนอกร่างกายของ มีขั้นตอนที่ใกล้เคียงกันแต่ต่างกันคือ วิธีการนำเซลล์ไข่และเซลล์อสุจิมาผสมกัน
- IVIF (In-vitro Fertilization) : จะนำเซลล์ไข่และเซลล์อสุจิมาผสมกันโดยปล่อยให้อสุจิทำการปฏิสนธิกับไข่เองตามธรรมชาติ หรือ ก็คือยังคงมีขั้นตอนที่ให้อสุจิว่ายเข้าไปในไข่เองอยู่
- ICSI (Intracytoplasmic Sperm Injection) จะคัดเลือกเซลล์อสุจิที่แข็งแรงที่สุดและฉีดเข้าไปยังไข่โดยตรง ซึ่งจะตัดกระบวนการที่อสุจิจะว่ายเข้าไปในรังไข่ออก
ICSI หรือ IVF จะทำแบบไหนดี ?
จากที่กล่าวขั้นตอนจะทำให้ภาพชัดขึ้นว่า ICSI และ IVF ต่างกันอย่างไร การทำอิ๊กซี่จะลดขั้นตอนการปฏิสนธิทางธรรมชาติ ที่อสุจิที่แข็งแรงและเร็วที่สุด จะเจาะเข้าไปในรังไข่ก่อนและกลายเป็นตัวอ่อน แต่เร่งกระบวนการด้วยการคัดเลือกอสุจิที่แข็งแรงที่สุดและฉีดไปผสมไข่โดยตรง แต่จะมี 2 ปัจจัยที่ทำให้การปฏิสนธิทางธรรมชาติมโอกาสสำเร็จน้อย
- ผู้ชาย มีปริมาณอสุจิน้อย และไม่แข็งแรง อาจทำให้ไม่มีเซลล์อสุจิที่สามารถว่ายไปถึงไข่ได้
- ผู้หญิง มีเปลือกไข่ที่หนา ต่อให้เซลล์อสุจิสามารถว่ายไปถึงไข่ได้แต่เจาะเข้าไปในเปลือกไข่ไม่ได้
ดังนั้นถ้าสำหรับคู่ที่มีปัญหา 2 ข้อนี้ ควรจะเลือกทำเด็กหลอดแก้วด้วยวิธีการทำอิ๊กซี่มากกว่า
ขั้นตอนการทำเด็กหลอดแก้ว ICSI
ขั้นตอนสำหรับการทำ ICSI มีประมาณ 5 ขั้นตอน ดังนี้
- ฉีดยากระตุ้นไข่ : ทำตรวจอัลตราซาวด์และตรวจเลือดวัดระดับฮอร์โมนของร่างกาย เพื่อประเมินการทำงานของรังไข่และพิจารณาเลือกยากระตุ้นที่เหมาะสมก่อนจะฉีดเข้าไปในรังไข่ โดยการฉีดยากระตุ้นไข่จะมีการฉีดทั้งหมด 3 ครั้ง คือ ฉีดยาตัวแรก (Recombinant FSH) เพื่อกระตุ้นไข่หลายๆใบก่อน ฉีดยาตัวที่สอง (GnRH antagonist) เพื่อไม่ให้ไข่ตกก่อนเวลา และ ฉีดยาตัวที่สาม (hCG) เพื่อให้ไข่สุกพร้อมๆกัน และจะตกในอีก 36 ชั่วโมง
- การเก็บไข่และคัดแยกเซลล์อสุจิ
- การเก็บไข่ : จะเก็บผ่านทางช่องคลอด ก่อนเริ่มขั้นตอนจะให้ยาระงับความรู้สึกทางหลอดเลือด เพื่อให้นอนหลับก่อน จากนั้นค่อยเริ่มโดยใช้หัวตรวจอัลตราซาวด์ขนาดเล็ก เพื่อตรวจหาไข่ จากนั้นค่อยทำการดูดของเหลวออกมา และใช้กล้องจุลทรรศน์ตรวจหาไข่ และจึงค่อยนำมาเพาะเลี้ยงในน้ำยาเลี้ยงไข่ เพื่อเตรียมสำหรับการผสม
- การคัดแยกอสุจิ : การเก็บน้ำเชื้อจากผู้ชายมาใส่ในภาชนะปลอดเชื้อ จากนั้นนำส่งไปคัดแยกเซลล์อสุจิออกจากน้ำอสุจิ ในห้องปลอดเชื้อ
- การทำ ICSI : จะตัดขั้นตอนการปฏิสนธิทางธรรมชาติ โดยจะเลือดคัดเลือกอสุจิที่แข็งแรงที่สุดและฉีดเข้าไปผสมกับไข่โดยตรง
- การเลี้ยงตัวอ่อน : จะทำในตู้เพาะเลี้ยงที่สามารถปรับควบคุมอุณหภูมิ จะเลี้ยงในตู้พิเศษที่สามารถควบคุมอุณหภูมิให้เหมาะสมสำหรับเลี้ยงตัวอ่อน เพื่อเร่งให้เกิดการแบ่งเซลล์ของตัวอ่อน จนตัวอ่อนเข้าสู่ระยะที่พร้อม เพื่อเตรียมตัวเข้าสู่ขั้นต่อไป
- การย้ายตัวอ่อน : เริ่มด้วยการตรวจโพรงมดลูกและทำการตรวจอัลตราซาวด์เพื่อหาตำแหน่งที่เหมาะสมก่อน จากนั้นนำตัวอ่อนไปวางไว้บนเยื่อบุโพรงมดลูก หลังจากนั้นก็มาตรวจตามที่แพทย์นัด เพื่อคอยดูอาการ
เราจำเป็นต้องทำเด็กหลอดแก้วหรือเปล่า ?
สำหรับใครที่มีปัญหาเหล่านี้สามารถเลือกทำได้ทั้ง IVF และ ICSI ก็ได้ แต่ ICSI ก็จะเพิ่มโอกาสสำเร็จมากกว่า แต่ถ้าผู้ที่มีปัญหาเปลือกไข่หนาหรืออสุจิไม่แข็งแรงก็แนะนำให้เลือก ICSI ตามที่บอกไว้ข้างต้น
ฝ่ายหญิง
- มีอายุ 35 ปีขึ้นไป ซึ่งมีแนวโน้มสูงที่ลูกในท้องจะมีความเสี่ยงที่มีความผิดปกติทางพันธุกรรม
- มีท่อนำไข่ตีบ หรือ ตันทั้งสองข้าง
- มีภาวะตกไข่ผิดปกติ
- มีภาวะเยื่อบุมดลูกผิดปกติ และมีพังผืดตรงอุ้งเชิงกราน
ฝ่ายชาย
- ทำหมันไปแล้ว แต่ยังอยากมีลูกอีก
- มีปัญหาเกี่ยวกับการแข็งตัวของอวัยวะเพศ
แต่ถ้าผู้ที่มีปัญหาเปลือกไข่หนาหรืออสุจิไม่แข็งแรงก็แนะนำให้เลือก ICSI เลยตามที่บอกไว้ข้างต้น
การเตรียมตัวก่อนการทำเด็กหลอดแก้ว
การเตรียมตัวของผู้หญิงก่อนทำเด็กหลอดแก้ว
ทั่วๆไปคือ ดูแลสุขภาพตัวเองให้ดี ทั้งนอนหลับให้เพียงพอ ทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย งดเครื่องดื่มเเอลกอฮอล์และคาเฟอีน คอยควบคุมอารมณ์ให้นิ่ง ไม่เครียด ไม่วิตก และออกกำลังกายเบาๆ เพื่อคอยควบคุมน้ำหนัก แต่ที่เพิ่มเติมคือ งดทานขนมหรือผลไม้เย็น เพื่อรักษาช่วงท้องให้อบอุ่นในช่วงเก็บไข่
การเตรียมตัวของผู้ชายก่อนทำเด็กหลอดแก้ว
ดูแลสุขภาพเบื้องต้นเช่นเดียวกับผู้หญิง นอนหลับพักผ่อนให้เพียง การเลือกอาหารให้เลือกอาหารที่มีสรรพคุณช่วยบำรุงน้ำเชื้อ และคอยดูแลรักษาความสะอาดของอวัยวะเพศหลีกเลี่ยงการติดเชื้อที่อาจส่งผลต่อปริมาณอสุจิที่ผลิตได้
และทั้งสองฝ่ายควรงดการมีเพศสัมพัธ์ในช่วงกระบวนการทำเด็กหลอดแก้ว
การปฏิบัติตัวหลังจากทำเด็กหลอกแก้ว
หลังจากผ่านกระบวนการทำเด็กหลอดแก้วแล้วก็ให้คอยดูแลรักษาสุขภาพร่างกายตัวเองเหมือนคนตั้งครรภ์ทั่วไป แต่ในช่วงแรกๆ ควรงดการเคลื่อนไหวที่ไม่จำเป็น หรือ การเคลื่อนไหวที่จะส่งผลให้กระทบกระเทือนไปยังส่วนท้องได้
- หลีกเลี่ยงการเคลื่อนไหวที่ไม่จำเป็นที่จะกระเทือนไปยังท้อง เช่น การขึ้นลงบันได
- นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
- งดออกกำลังกายหนักๆ 2 - 3 วัน
- รับประทานอาหารที่ย่อย ดูดซึมได้ง่าย
- รับประทานยาที่ควบคุมฮอร์โมน ตามที่แพทย์ให้มา เพื่อช่วยในการฝังตัวของตัวอ่อน
ต้องเตรียมงบเท่าไหร่ในการทำเด็กหลอดแก้ว
อยู่ที่ประมาณ 150,000 - 300,000 บาท แต่ราคาก็อาจมีการเปลี่ยนได้ในแต่ละบุคคล เพราะแต่ละคนมีสรีระร่างกาย และปัญหาที่ไม่เหมือนกัน ซึ่งส่งผลต่อความยากง่ายในการทำเด็กหลอดแก้ว
เลือกสถานที่ทำเด็กหลอดแก้ว
การทำ เด็กหลอดแก้ว คือ การสร้างชีวิตขึ้นมาชีวิตนึง ซึ่งต้องให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก ต้องใช้ความเชี่ยวชาญและอุปกรณ์ที่ครบครัน การเลือกสถานที่ที่จะทำเด็กหลอดแก้วจึงต้องเลือกให้ดี ซึ่งเราขอแนะนำ ศูนย์รักษาผู้มีบุตรยาก Beyond IVF ศูนย์ให้บริการครบวงจรตั้งแต่ปรึกษาแพทย์ ตรวจสุขภาพ จนไปถึงการทำ ICSI และ IVF ด้วย
คำถามที่คนมักสงสัย
ถ้าทำเด็กหลอดแก้ว เลือกเพศให้ลูกได้ไหม ?
ไม่สามารถเลือกเพศของลูกได้
ถ้าคู่ที่ทำเด็กหลอดแก้วต้องเป็นคู่สมรสกันไหม ?
ควรเป็นคู่สมรสกัน โดยทางสถานพยาบาลจะต้องตรวจเอกสารยืนยันสถานะของผู้เข้ามาทำว่าเป็นคู่สมรสกันหรือไม่ หรือ ต้องได้รับความยินยอมจากทั้งชายและหญิงเท่านั้น
ถ้าทำเด็กหลอดแก้ว ทำเด็กแฝดได้ไหม ?
มีโอกาส 30 - 35% ที่จะได้เด็กแฝด
โอกาสความสำเร็จในการทำเด็กหลอดแก้ว ?
มีโอกาสเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 30 - 35% ที่จะตั้งท้องได้
สรุป
ถึงแม้ในยุคปัจจุบันที่สภาพเศรษฐกิจ ความน่าอยู่ของประเทศจะแย่ลง ทำให้คู่รักหลายคนเลือกที่จะอยู่กินกันโดยไม่มีลูก ทำให้เขาไม่เดือดร้อนเรื่องนี้ แต่บางคู่สมรสที่อยู่กินกันมานานแต่ไม่สามารถมีลูกได้ เพราะมีปัญหาการมีลูกยาก ก็คงทุกข์ใจกับปัญหานี้อยู่เป็นแน่ เราหวังว่าบทความนี้จะช่วยให้เข้าใจถึงความรู้เบื้องต้นของการทำเด็กหลอดแก้วทั้ง IVF และ ICIS เพื่อเป็นข้อมูลในการตัดสินใจของหลายๆคู่ที่กำลังมีปัญหาอยู่นะครับ
โพสตอบ
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเโพสตอบได้