ทะเลสาบ Cahuilla

Lake Cahuilla เป็นทะเลสาบโบราณที่มีมากถึง 1580 ซึ่งตั้งอยู่ระหว่างภาคเหนือของเม็กซิโกและแคลิฟอร์เนีย ( สหรัฐอเมริกา ) ทะเลสาบยุคก่อนประวัติศาสตร์ครอบคลุมหุบเขาอิมพีเรียลและโคเชลลา และครอบคลุมพื้นที่ 5,700 ตารางกิโลเมตร ทะเลสาบได้รับการตั้งชื่อตามชาว Cahuilla ทะเลสาบแห่งนี้ก่อตัวขึ้นในสมัยไพลสโตซีน โดยมีระดับสูงกว่าระดับน้ำทะเลถึง 52 เมตร ในช่วงยุคโฮโลซีน ทะเลสาบได้รับน้ำส่วนใหญ่จากแม่น้ำโคโลราโดและเทลงในอ่าวแคลิฟอร์เนียผ่านทางแม่น้ำริโอ ฮาร์ดี มันแห้งและเติมซ้ำหลายครั้งในช่วงสองศตวรรษที่ผ่านมา และในที่สุดก็หายไปประมาณปี 1580 ทุกวันนี้ทะเล Saltonครอบคลุมส่วนหนึ่งของแอ่งด้านล่างของทะเลสาบ

ภูมิศาสตร์ของทะเลสาบ Cahuilla 

ทะเลสาบ Cahuilla ตั้งอยู่ในทะเลทรายโคโลราโดและครอบคลุมทางตอนใต้สุดของ Coachella Valley, Imperial Valley และ Cerro Prietto ของเม็กซิโก ภูเขาหลายแห่งรายล้อม Cahuilla รวมทั้งภูเขาซานตาโรซาทางตอนเหนือและวัลเลซิโตและเทือกเขาฟิชครีกทางตอนใต้ ชายฝั่งทางใต้ของทะเลสาบตั้งอยู่ทางใต้ของพรมแดนเม็กซิโก-สหรัฐฯ Obsidian Butte และ Bat Caves Butte เป็นเกาะหลักเมื่อระดับน้ำในทะเลสาบสูงขึ้น ถึงแม้ว่าเกาะเดิมจะจมอยู่ใต้น้ำในช่วงบนที่สูง บางเมืองที่ครอบครองพื้นที่ซึ่งก่อนหน้านี้ครอบคลุมโดยทะเลสาบ ได้แก่ เมกกะ เทอร์มอล อินโด อิมพีเรียล บรอว์ลีย์ กาลิปาเตรีย นิแลนด์ และเอลเซ็นโตร

ทะเลสาบ Cahuilla มีความยาว 160 กิโลเมตรและกว้าง 65 กิโลเมตรที่จุดที่กว้างที่สุด ครอบคลุมพื้นที่ผิวประมาณ 5,700 ตารางกิโลเมตร ทำให้เป็นหนึ่งในทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในโฮโลซีนอเมริกาเหนือ ปัจจุบันพื้นที่ทะเลสาบทั้งหมด ยกเว้น 300 ตารางกิโลเมตร ตั้งอยู่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเล Cahuilla มีความลึกประมาณ 91 เมตร สูงจากระดับน้ำทะเล 12 เมตร ที่ระดับสูงสุด ทะเลสาบมีน้ำ 480 ลูกบาศก์กิโลเมตร

แนวชายฝั่งของทะเลสาบตั้งอยู่ที่ระดับความสูง 7.6-18.3 เมตร โดยมีตะกอนชายหาดและคลื่นตัดทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ธรรมชาติของแนวชายฝั่งก็แตกต่างกันไปด้วยหน้าผาคลื่นทางทิศตะวันออกสูงถึง 7.6 เมตร และอีกแห่งหนึ่งอยู่ทางทิศเหนือเพิ่มขึ้น 5.6 กิโลเมตร แนวชายฝั่งสามารถมองเห็นได้ใกล้กับเทือกเขาซานตาโรซา โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่จุดทราเวอร์ไทน์ ซึ่งหินทราเวอร์ทีนตัดกับวานิชหินสีเข้ม 

เริ่มลงทุนกับ Lucabet วันนี้ โปรโมชั่นมากมาย ฝากถอนออโต้

อุทกวิทยา

แม่น้ำโคโลราโดเป็นแหล่งน้ำหลักของทะเลสาบ Cahuilla และคิดเป็นประมาณ 62% ของน้ำในทะเลสาบ ทะเลสาบยังได้รับน้ำจากแหล่งใต้ดินและไหลเข้าจากลำธารเล็กๆ Cahuilla ต้องการการปลดปล่อยแม่น้ำโคโลราโดประมาณครึ่งหนึ่งเพื่อรักษาระดับความสูง 12 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล แม่น้ำได้ฝากตะกอนประมาณ 4,800 กิโลกรัมต่อวินาทีลงในทะเลสาบ Cahuilla นอกจากโคโลราโดแล้ว ลำธารอื่นๆ ที่เลี้ยงทะเลสาบยังรวมถึง Carrizo Creek, San Felipe Creek, Whitewater River, Mammoth Wash, Salt Creek และ Arroyo Salado

ทะเลสาบ Cahuilla มีน้ำจืดในบริเวณที่สูง โดยความเค็มจะเพิ่มขึ้นเมื่อระดับลดลง แหล่งข้อมูลอื่นระบุว่าทะเลสาบมีน้ำกร่อยและระดับความเค็มต่ำที่สุดเมื่อแม่น้ำโคโลราโดไหลลงสู่ทะเลสาบ เนื่องจากน้ำในแม่น้ำโคโลราโดสามารถเติมได้เพียงครึ่งเดียว น้ำที่เหลือจึงไหลลงสู่ริโอ ฮาร์ดีและระบายลงสู่อ่าวแคลิฟอร์เนีย

ประวัติของทะเลสาบ Cahuilla 

ทะเลสาบ Cahuilla ก่อตัวขึ้นในบริเวณที่รอยเลื่อน San Andreas และเขตเปลือกโลกของอ่าวแคลิฟอร์เนียมาบรรจบกัน ก่อตั้งขึ้นเมื่อประมาณ 40,000 ปีที่แล้วและมีอยู่ตั้งแต่ปลายยุค Pleistocene จนถึง Holocene อย่างไรก็ตาม ระดับน้ำในทะเลสาบเปลี่ยนแปลงจากระดับน้ำทะเล 30-52 เมตรในช่วงสมัยไพลสโตซีนถึง 12 เมตรในช่วงโฮโลซีน ทะเลสาบเกิดขึ้นในห้าขั้นตอนที่แยกจากกันและรวมถึงหกสูง อย่างไรก็ตาม มีหลายทฤษฎีเกี่ยวกับเวลาที่จุดสูงเกิดขึ้น

ทะเลสาบ Cahuilla เติบโตและหดตัวอย่างน้อย 12 ครั้งในช่วง 2-3 ศตวรรษที่ผ่านมา ชนเผ่า Cahuilla และ Kemi อาจยึดพื้นที่แห้งแล้งของทะเลสาบและอพยพไปยังภูเขาเมื่อน้ำท่วม ไม่ชัดเจนว่าทะเลสาบมีอยู่จริงหรือไม่เมื่อชาวสเปนมาถึงภูมิภาค แม้ว่าบางแหล่งรายงานว่าแม่น้ำโคโลราโดไหลลงสู่ทะเลสาบคาวียาและอ่าวแคลิฟอร์เนียระหว่างการเดินทางโคโรนาโดในปี ค.ศ. 1540 ทะเลสาบหายไปหลังจากปี ค.ศ. 1580 โดยมีทะเลสาบขนาดเล็กก่อตัวขึ้นใน ลุ่มน้ำเมื่อแม่น้ำโคโลราโดถูกน้ำท่วมในปี พ.ศ. 2434, 2410, 2405, 2395, 2392, 2383 และ 2371