ช่างภาพจับภาพ 'จอกศักดิ์สิทธิ์' ของแสงเหนือเหนือภูเขาไฟที่กำลังปะทุ

 มิสเตอร์มิลลิแกนต้องผูกมัดตัวเองกับทีมค้นหาและกู้ภัยและรอจนกว่าคนอื่นๆ จะถูกกำจัดออกจากพื้นที่ในคืนที่เป็นปัญหา และเขาเป็นช่างภาพเพียงคนเดียวที่เหลืออยู่

หลังจากได้รับอนุญาตให้กลับขึ้นไปบนภูเขาโดยทีม เขาก็สามารถจับภาพที่เขาต้องการได้ในเวลา 2.58 น. เพียงไม่กี่นาทีก่อนที่มันจะเบาเกินไปและโอกาสก็หมดไป

คุณมิลลิแกนกล่าวว่า "มันเป็นจอกศักดิ์สิทธิ์ของฉัน และมันมืดมาก ฉันไม่รู้ว่าจะได้มันมาจนกระทั่งประมาณ 24 ชั่วโมงต่อมาเมื่อฉันอัปโหลดไปยังแล็ปท็อป"

เขารอ เขากล่าวว่า "หกปีสำหรับการปะทุและหกสัปดาห์ [หลังจากมาถึงไอซ์แลนด์] เพื่อชมแสงเหนือ" ซึ่งอาจไม่สมบูรณ์แบบเสมอไปเนื่องจากไกด์นำเที่ยวทำให้คุณคิดและบางครั้งก็ถูกเมฆปกคลุม

ภูมิประเทศในหุบเขาเกลดิงกาลาดูร์ ใกล้กับเมืองหลวงเรคยาวิก เป็นเหมือน "มอร์ดอร์" เขากล่าว

"ฉันถ่ายภาพภูเขาไฟมาห้าลูกในชีวิตและไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อน มันคือมอร์ดอร์

“ก๊าซพิษแขวนอยู่ในกระเป๋า ดังนั้นคุณจึงพกหน้ากากป้องกันแก๊สพิษ แต่โดยทั่วไปแล้วจะอยู่เหนือลมจากลาวา

สนับสนุนโดย : Lucabet  Lavagame ที่มาแรงที่สุด

“ทุกครั้งที่มาเยือนการปะทุ มันเปลี่ยนไป รอยแยกใหม่ปรากฏขึ้น ลาวาไหลหลาก แผ่นดินใหม่ถูกสร้างขึ้นอย่างต่อเนื่อง

"คุณสามารถเข้าใกล้กระแสลาวา เข้าไปใกล้และได้ยินลาวาเย็นลงและกระทบกันราวกับเสียงกระจกแตกนับพันบาน แต่ที่ 1200 องศา แก้มของคุณก็สามารถรับได้เพียง 2 นาทีเท่านั้น

“คุณสามารถไปถึงลาวาได้ภายในระยะประมาณสองเมตร แต่คุณต้องระวังถ้าคุณเริ่มเห็นว่าลาวาเดือดปุด ๆ นั่นหมายความว่ากระแสใหม่กำลังจะปรากฏขึ้นและถึงเวลาต้องเคลื่อนไหว

"ใครสามารถเปิดใต้ฝ่าเท้าของคุณได้ คุณคิดว่า 'ฉันจะวิ่งไปที่ใด'"

แล้วเขาเคยรีบไหม?

"ไม่ ลาวาส่วนใหญ่เคลื่อนที่ช้า ดังนั้นคุณจึงมีเวลา"

ก๊าซมีอันตรายเท่าเทียมกัน เขากล่าวเสริม

"พวกมันอาจทำให้ข้อเสื่อม ปอดไหม้ และอาการที่เรียกว่า 'คอภูเขาไฟ' อาจส่งผลต่อคุณในภายหลัง"