สาหร่ายเป็นอาหารวัว: ทำไมสวีเดนถึงสร้างโรงงานสาหร่ายที่ใหญ่ที่สุดในโลก?

สตาร์ทอัพสัญชาติสวีเดนกำลังสร้างโรงงานสาหร่ายที่ใหญ่ที่สุดในโลกเพื่อสร้างอาหารสาหร่ายลดการปล่อยสำหรับปศุสัตว์

แต่คุณจะลดก๊าซเรือนกระจกจากสัตว์ที่มีมลพิษมากที่สุดในโลกได้อย่างไร? 4% ของการปล่อยก๊าซมีเทนของโลกในปัจจุบันมาจากวัว ซึ่งมากกว่าอุตสาหกรรมการบินทั้งหมดถึง 2 เท่า

แม้ว่าการลดตดของวัวอาจไม่ใช่วิทยาศาสตร์ที่เซ็กซี่ที่สุด การลดปัญหาดังกล่าวจะทำให้เกิดปัญหาใหญ่ในการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของโลก และช่วยให้การเลี้ยงโคนมและโคมีความยั่งยืนมากขึ้น

“มีวัวมากกว่าหนึ่งพันล้านตัวบนโลก และการปล่อยมลพิษจากสิ่งเหล่านี้ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีวิธีแก้ไขปัญหาในวงกว้างในการลดการปล่อยมลพิษ และการวิจัยในภาคสนามก็ดำเนินไปช้าเกินไป” Fredrik Åkerman ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอกล่าว

แต่จะหยุดวัวส่งแก๊สได้อย่างไร? Volta Greentechเชื่อว่ามีคำตอบ

ดำเนินการโดยกลุ่มนักวิทยาศาสตร์นานาชาติและนักประดิษฐ์ด้านสภาพอากาศ ทีมงานได้สร้าง 'Volta Seafeed' ซึ่งเป็นอาหารเสริมที่ทำจากสาหร่ายสีแดง Asparagopsis taxiformis

เมื่อให้อาหารวัวในปริมาณเพียง 100 กรัมต่อวัน อาหารจะช่วยลดการปล่อยก๊าซมีเทนในลำไส้ (ก๊าซที่หมักในลำไส้ของวัว แกะ และแพะ) ได้มากถึง 80 เปอร์เซ็นต์

อาหารวัวที่ได้จากสาหร่ายทะเลช่วยลดก๊าซมีเทนได้อย่างไร?

การผลิตก๊าซมีเทนโดยกระบวนการหมักตามธรรมชาติเกิดขึ้นในกระเพาะรูเมน ขณะที่พวกมันย่อยอาหาร ไฮโดรเจนและคาร์บอนไดออกไซด์จะถูกปล่อยออกมา จากนั้นเอ็นไซม์ธรรมชาติจะรวมก๊าซทั้งสองเข้าด้วยกัน ทำให้เกิดมีเทนในกระบวนการ

อย่างไรก็ตาม การให้อาหารสาหร่ายแก่วัว 100 กรัม ตามธรรมชาติแล้วจะไปยับยั้งเอนไซม์นี้ และการปล่อยก๊าซมีเทนก็จะลดลงตามไปด้วย

ฟีดได้ผ่านการทดสอบระดับนานาชาติหลายรอบในช่วงหกปีที่ผ่านมา และขณะนี้ Volta Greentech กำลังทำงานร่วมกับบริษัทอาหารที่ใหญ่ที่สุดของสวีเดน Lantmännen

สนับสนุนโดย : Lucabet  Lavagame ที่มาแรงที่สุด

“ผลกระทบจากการลดก๊าซมีเทนได้รับการพิสูจน์อย่างมาก และตอนนี้เราต้องการตรวจสอบว่าสิ่งนี้ส่งผลต่อพารามิเตอร์อื่นๆ อย่างไร เราต้องการทราบว่าวัวกินอาหารในระดับเดียวกันหรือไม่ หากการผลิตนมได้รับผลกระทบในแง่ของผลผลิตและองค์ประกอบ” Cecilia Lindahl ผู้พัฒนาผลิตภัณฑ์ของ Lantmännen กล่าว

“จนถึงตอนนี้ ผลลัพธ์ดูมีแนวโน้มดี”

ขยายขนาดการผลิต

ด้วยจำนวนโคมากกว่าหนึ่งพันล้านตัวในโลก การเพิ่มขนาดการผลิตอาหารสาหร่ายถือเป็นความสำคัญสูงสุดสำหรับบริษัทสวีเดน การลงทุนหลายรอบหมายความว่าสามารถเปิดโรงงานแห่งแรกในชื่อ 'Volta Factory 1' ในเมือง Lysekil ซึ่งจะมีกำหนดตามมาในปี 2022 โดย 'Volta Factory 2' ซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นโรงงานสาหร่ายที่ใหญ่ที่สุดในโลก

บริษัทตั้งเป้าที่จะจัดการกับปศุสัตว์ของสวีเดนก่อน ด้วยความหวังว่าจะสามารถขยายไปสู่ต่างประเทศได้ในอนาคต

การมุ่งเน้นที่วิธีการผลิตที่ยั่งยืนสำหรับสาหร่ายทะเล ซึ่งปลูกในเครื่องปฏิกรณ์ชีวภาพแนวตั้งเพื่อเพิ่มการผลิตสูงสุด ก็มีความสำคัญสูงสุดเช่นกัน

วิธีการผลิตสาหร่ายทะเลอย่างยั่งยืน

“ด้วยการสร้างระบบปิด เรามั่นใจว่าเราจะรักษาการผลิตและคุณภาพที่คงที่ตลอดเวลา โดยไม่คำนึงถึงปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม เช่น คุณภาพน้ำหรือสภาพอากาศ” กล่าว

Åkermanเกี่ยวกับวิธีการผลิตของโรงงาน “วิธีการนี้ยังช่วยให้ประสิทธิภาพและผลผลิตดีขึ้นอย่างมากเมื่อเวลาผ่านไป โดยการทำซ้ำสูตรการเพาะปลูกในห้องปฏิบัติการของเราอย่างต่อเนื่อง”

โรงงานยังใช้พลังงานอย่างยั่งยืนด้วยพลังงานเหลือทิ้งจากอุตสาหกรรมในท้องถิ่นที่ใช้ในการผลิต

ควบคู่ไปกับการทำงานอัตโนมัติของกระบวนการ ช่วยให้มั่นใจได้ว่าการเติบโตของสาหร่ายมีความเสถียร 365 วันต่อปี โดยมีอัตราการเติบโต 10 เปอร์เซ็นต์ต่อวัน