อุซเบกิสถาน: ประเทศในเอเชียกลางลึกลับพยายามดึงดูดนักท่องเที่ยวตะวันตกอย่างไร?

Registan และ Madrasahs ทั้งสามแห่ง จากซ้ายไปขวา: Ulugh Beg Madrasah, Tilya-Kori Madrasah และ Sher-Dor Madrasah

อุซเบกิสถานที่ห่างไกลและลึกลับซึ่งมีผืนดินเกือบครึ่งปกคลุมไปด้วยทะเลทราย ซึ่งเป็นประเทศที่ไม่มีทางออกสู่ทะเลซึ่งมีประชากร 33 ล้านคนในเอเชียกลาง กำลังเริ่มคลี่คลายความลับของตนต่อผู้มาเยือนชาวตะวันตกอย่างช้าๆ

ในบรรดาเมืองและเมืองที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโกประเทศนี้มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าทึ่งที่สุดในเอเชียกลางตามเส้นทางสายไหม ซึ่งเป็นเครือข่ายเส้นทางการค้าโบราณที่เชื่อมโยงจีนกับยุโรป

ปีนี้เป็นวันครบรอบ 30 ปีของการได้รับเอกราชจากสหภาพโซเวียตของอุซเบกิสถาน โดยมีปฏิทินการเฉลิมฉลองที่เป็นมิตรกับโควิดที่กรุงทาชเคนต์ เมืองหลวง รวมทั้งมรดกโลกซามาร์คันด์ บูคารา และคีวา ซึ่งเป็นมรดกโลกขององค์การยูเนสโก

การเดินทางระหว่างเมืองเหล่านี้ง่ายกว่าที่เคยด้วยเส้นทางรถไฟความเร็วสูงแบบใหม่ที่ลดเวลาการเดินทางจากทาชเคนต์ไปยังบูคาราเป็นสามชั่วโมง 40 นาที สองชั่วโมงไปยังซามาร์คันด์ และจาก 19 เป็นแปดถึงคิวา ระยะทางเกือบ 1,000 กิโลเมตร .

เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติให้กลับมาในช่วงการระบาดของโคโรนาไวรัส รัฐบาลอุซเบกิสถานได้เสนอให้ทุกคนที่ติดเชื้อโควิด-19 ในช่วงวันหยุด 3,000 ดอลลาร์ (2,558) เพื่อครอบคลุมค่ารักษาพยาบาลตราบเท่าที่พวกเขากำลังเดินทางเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มทัวร์

การเข้าประเทศไม่ต้องขอวีซ่าสำหรับการเดินทางที่มีอายุต่ำกว่า 30 วัน และคุณจะต้องตรวจ PCR ที่เป็นลบซึ่งใช้เวลาไม่เกิน 72 ชั่วโมงก่อนเดินทางมาถึง แม้ว่าคุณจะได้รับการฉีดวัคซีนครบถ้วนแล้วก็ตาม

ทาชเคนต์: เมืองหลวงอันร่มรื่นที่เต็มไปด้วยวัฒนธรรม

ทาชเคนต์เมืองหลวงอันร่มรื่นของอุซเบกิสถานจะสร้างความรื่นเริงตลอดเดือนกันยายนและหลังจากนั้น

ด้วยถนนที่มีต้นไม้เรียงรายและสถานีรถไฟใต้ดินที่สวยงามตระการตา ซึ่งสร้างโดยโซเวียตในช่วงต้นทศวรรษ 1970 เมืองที่มีประชากรเกือบสองล้านห้าแสนคนตั้งอยู่ทางชายแดนตะวันออกเฉียงเหนือติดกับคาซัคสถาน ครั้งหนึ่งเคยเป็นเสาการค้าหลักบนเส้นทางสายไหม ซึ่งเป็นเครือข่ายเส้นทางการค้าโบราณที่เชื่อมโยงจีนกับยุโรป

การเฉลิมฉลองวันประกาศอิสรภาพของปีนี้ใน Mustaqillik Maydoni (Independence Square) เมื่อวันที่ 1 กันยายน สะท้อนให้เห็นถึงอุซเบกิสถานใหม่

ประเทศนี้เคยถูกปิดให้บริการสำหรับทุกคนยกเว้นนักท่องเที่ยวที่กล้าหาญที่สุด แต่นับตั้งแต่การเสียชีวิตของประธานาธิบดีอิสลาม คาริมอฟ ผู้นำสายแข็งในปี 2559 การเปลี่ยนแปลงก็กำลังดำเนินอยู่ ขบวนพาเหรดทางทหารแบบดั้งเดิม ไปแทนที่งานกาล่าคอนเสิร์ตและการแสดงพลุ

หนึ่งในงานอีเวนต์ที่ผู้คนรอคอยมากที่สุดในเมืองหลวงคือการกลับมาของเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติทาชเคนต์ตั้งแต่วันที่ 28 กันยายน ถึง 3 ตุลาคม โดยมีรายการภาพยนตร์นานาชาติและภาพยนตร์หายาก

ที่ศูนย์ศิลปะร่วมสมัยสถานีพลังงานช่วงต้นศตวรรษที่ 20 ถูกแปลงโฉมให้กลายเป็นศูนย์กลางศิลปะอย่างสร้างสรรค์และเปิดในปี 2019 พวกเขากำลังจัดงานประจำปีที่เน้นด้านศิลปะ ภาพยนตร์ ดนตรี สถาปัตยกรรม และการแสดง

สนับสนุนโดย : Lucabet  Lavagame ที่มาแรงที่สุด

ในปี พ.ศ. 2565 ผู้รักศิลปะจะได้กลับมาเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ศิลปะแห่งรัฐอีกครั้ง งานเคหะที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นของเจ้าชายนิโคไล โรมานอฟ โดยจิตรกรชาวรัสเซีย เช่น Repin, Bryullov และ Tropinin รวมถึงภาพวาดอีกกว่า 250 ชิ้นโดยศิลปินยุคก่อนปฏิวัติจากเอเชียกลาง

อาคาร Brutalist ของพิพิธภัณฑ์ในยุค 70 ได้รับการจินตนาการใหม่โดยสถาปนิกชาวญี่ปุ่น Tadao เพื่อรวมเอาคอมเพล็กซ์ใหม่ที่โดดเด่นซึ่งจะเพิ่มขนาดของพิพิธภัณฑ์มากกว่าสองเท่า

ยุคกลางพบกับความทันสมัย

บ้านเกิดของนักรบ Turco-Mongol ที่ดุร้ายในศตวรรษที่ 14 Timur (หรือ Tamerlane) อุซเบกิสถานตกอยู่ภายใต้การปกครองของรัสเซียในศตวรรษที่ 19 ก่อนที่จะกลายเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพโซเวียตพร้อมกับ 'stans' อื่น ๆ เช่นคาซัคสถานและคีร์กีซสถาน

ประเพณีในยุคกลางและโซเวียตมีความเกี่ยวพันกับความทันสมัย: ผู้ขายทับทิมริมถนนที่คั้นน้ำผลไม้สดจำนวนหนึ่งแกลลอนจากสื่อโซเวียตเก่า คนทำขนมปังในซามาร์คันด์ทำขนมปังกลมแบนในเตาดินเผาแทนดูร์ด้วยวิธีที่มีอายุหลายศตวรรษ และลาทำงานที่ซุกซนอยู่ใต้กองฝ้ายขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นหนึ่งในพืชผลที่สำคัญที่สุดของอุซเบกิสถาน

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา มีการสร้างถนนสายใหม่และทางเชื่อมรถไฟความเร็วสูง ฮิลตันและไฮแอทส์เริ่มเปิดกว้างและกฎระเบียบที่เข้มงวดผ่อนคลายลง

แม้ว่าศาสนาอิสลาม - ที่ชาวอาหรับนำมาใช้ในศตวรรษที่ 8 และทั้งหมดยกเว้นถูกกดขี่ภายใต้คอมมิวนิสต์ - เป็นศาสนาที่ครอบงำในอุซเบกิสถาน แต่ก็เป็นแบบเสรีนิยมมากกว่าที่ปฏิบัติในตะวันออกกลาง (ผู้หญิงไม่จำเป็นต้องปกปิด ตัวอย่างเช่น). การผสมผสานทางชาติพันธุ์ที่หลากหลายของประเทศนั้นรวมถึงชาวอุซเบกส่วนใหญ่ เช่นเดียวกับพวกตาตาร์ ทาจิกิสถาน และรัสเซีย

สุสานระยิบระยับและมาดราสซัส

Khiva, Bukhara และ Samarkand ซึ่งมีสุสานและ Madrassas ที่ประดับประดาอยู่หน้าแรกโบรชัวร์การเดินทางเป็นสามสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของการเดินทางไปอุซเบกิสถาน

ก่อตั้งขึ้นเมื่อ 2,500 ปีที่แล้ว Khiva ในภาคเหนือของ Xorazm เป็นเหมือนพิพิธภัณฑ์ที่มีชีวิต

สถานที่ท่องเที่ยวส่วนใหญ่ตั้งอยู่ใน Ichon-Qala เช่นเดียวกับแกนกลางที่มีกำแพงอิฐอะโดบี - หอคอย Kalta Minor ซึ่งเป็นหอคอยหินที่ยั่วยวนซึ่งปูด้วยกระเบื้อง Majolica สีฟ้าคราม หรือมัสยิด Juma สมัยศตวรรษที่ 10 ที่มีเสาไม้ 200 ต้นที่มีลวดลายเป็นเอกลักษณ์ และป้อมปราการ Kunya-Ark ซึ่งเคยเป็นที่พำนักของข่าน ซึ่งมีหอสังเกตการณ์ที่มองเห็นทัศนียภาพกว้างไกลของเมืองขนาดกะทัดรัด

ใน Bukhara ซึ่งขึ้นชื่อด้านตลาดกลางและกองคาราวานที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี คุณสามารถเลือกซื้อหมวก Astrakhan และเหรียญและเหรียญของโซเวียตในตลาดสด Taki-Telpak Furushon หรือชมหอคอย Kalyan สมัยศตวรรษที่ 12 ได้ สร้างจากอิฐอบที่มีลวดลายอย่างวิจิตร สูง 47 เมตร และกลายเป็นสถานที่จัดแสดงในตอนกลางคืน เมื่อส่องสว่างด้วยแสงไฟนับร้อย

เมืองสายไหมในตำนานของซามาร์คันด์นำเสนอผลงานชิ้นเอกของศาสนาอิสลามในเอเชียกลางทั้งหมด นั่นคือ Registan จัตุรัสสาธารณะขนาดใหญ่ที่ขนาบข้างด้วยมาดราสซาที่มีกระเบื้องโมเสกสูงตระหง่านสามแห่งหรือโรงเรียนสอนศาสนา

เมืองที่เก่าแก่ที่สุดสร้างขึ้นโดยอูลูกห์ เบก หลานชายของทิมูร์ในปี 1417 เขาเป็นนักดาราศาสตร์และนักคณิตศาสตร์ เขาเชิญนักวิชาการจากทั่วทั้งภูมิภาคมาศึกษาที่นั่น ทำให้ซามาร์คันด์เป็นเมืองหลวงทางปัญญาของเอเชียกลาง เบกไปพบหอดูดาวในเมืองในขณะนั้นถือว่าก้าวหน้าที่สุดในโลกอิสลาม