Overtourism ในเวนิสทำให้คนในท้องถิ่นไม่สามารถซื้อบ้านได้

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เวนิสได้กลายเป็นหัวข้อข่าว เนื่องจากเป็นเมืองแห่งหนึ่งในยุโรปที่การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศได้กลายเป็นความจริงที่หลีกเลี่ยงไม่ได้

น้ำท่วมฉับพลันและระดับน้ำที่เพิ่มสูงขึ้นตามคลองที่มีชื่อเสียงไม่ได้เป็นปัญหาเดียวที่ชาวบ้านกำลังเผชิญอยู่ ตอนนี้ ชาวเวนิสกำลังย้ายออกจากเมืองเพราะค่าครองชีพสูงเกินไป

ต้องขอบคุณทั้งการท่องเที่ยวจำนวนมากและราคาที่เกี่ยวข้องกับโควิดที่เพิ่มสูงขึ้น ชาวเมืองเวนิสจำนวนมากจึงต้องละทิ้งเมืองของตนเพื่อหาทางเลือกที่ถูกกว่า

"เราค้นหาบ้านในเวนิสมา 4 ปีแล้ว มันน่าหงุดหงิด" Giovanni De Ponte ผู้สร้างเรือในท้องถิ่นอธิบาย

“คุณไม่ได้ขอให้พวกเขาให้เงินคุณ คุณไม่ต้องการไปดวงจันทร์ มีเพียงบ้านในเมืองที่คุณเกิด

เราพบอพาร์ตเมนต์บนเกาะอื่น: มูราโน” เขากล่าวเสริม

ฤดูร้อนนี้ จุดท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงได้กลับมาเปิดอีกครั้ง ดึงดูดผู้ชื่นชอบศิลปะ งานรื่นเริง และประวัติศาสตร์จากทั่วโลก ปัจจุบันการใช้ชีวิตในเวนิสมีค่าใช้จ่ายน้อยกว่าการใช้ชีวิตในนิวยอร์กเพียง 20 เปอร์เซ็นต์

เวนิสต่อสู้กับค่าครองชีพที่เพิ่มขึ้นอย่างไร?

เจ้าหน้าที่กำลังหาทางแก้ไขปัญหาที่คนในพื้นที่กำลังเผชิญอยู่

เมื่อเร็ว ๆ นี้ เราได้เห็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลกจำนวนมากที่ตึงเครียดภายใต้การไหลบ่าของผู้เยี่ยมชมหลังการปิดเมือง

ส่งผลให้สถานที่หลายแห่งจำกัดจำนวนผู้เข้าชม และในสถานที่ต่างๆ เช่นประเทศไทยและฮาวาย ก็ห้ามนักท่องเที่ยวโดยสิ้นเชิง

เทศบาลเมืองเวนิสจะเปิดตัวระบบใหม่ในฤดูร้อนหน้า ซึ่งจะรวมถึงขั้นตอนการจองและประตูทางเข้า

5 ปีที่แล้ว เวนิสมีผู้อยู่อาศัยถาวร 67,000 คน วันนี้เหลือเพียง 50,000.