อังกฤษส่งเรืออพยพกลับฝรั่งเศส "ไร้มนุษยธรรม" และ "ใช้การไม่ได้" ของฝรั่งเศส

กลุ่มผู้ลี้ภัยในสหราชอาณาจักรและต่างประเทศได้ประณามแผนการของรัฐบาลอังกฤษในการหันหลังให้ผู้อพยพข้ามช่องแคบอังกฤษว่าทำไม่ได้ อันตราย และผิดกฎหมาย

ฝรั่งเศสเน้นว่าจะไม่ทนต่อ "แบล็กเมล์ทางการเงิน" หรือการดูหมิ่นกฎหมายระหว่างประเทศ ภายหลังมีรายงานว่าเจ้าหน้าที่ของ British Border Force ได้รับการฝึกอบรมเกี่ยวกับการส่งเรือผู้อพยพกลับก่อนที่พวกเขาจะมาถึงชายฝั่งอังกฤษ

ในการประชุมระหว่างรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยของสหราชอาณาจักร (รัฐมนตรีมหาดไทย) Priti Patel และ Gérald Darmanin รัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยของเธอในสัปดาห์นี้ Patel เรียกร้องให้ทางการฝรั่งเศสดำเนินการมากกว่านี้เพื่อยับยั้งการไหลของผู้อพยพเข้าฝั่งสหราชอาณาจักร

มีรายงานว่ารัฐบาลอังกฤษขู่ว่าจะระงับเงินเนื่องจากต้องจ่ายเงินให้กับฝรั่งเศสซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงความร่วมมือเพื่อขจัดผู้ลักลอบนำเข้าระหว่างฝรั่งเศสและสหราชอาณาจักร ฝรั่งเศสปฏิเสธข้อเรียกร้องของอังกฤษ โดยกล่าวว่าทรัพยากรและการสกัดกั้นผู้อพยพเพิ่มขึ้น

ผู้คนจำนวนมากขึ้นที่พยายามจะข้ามช่องแคบด้วยเรือลำเล็กๆ ท่ามกลางสภาพอากาศที่ดีช่วงปลายฤดูร้อนได้กลายเป็นพาดหัวข่าวในสหราชอาณาจักรเมื่อเร็วๆ นี้ อย่างไรก็ตาม ตัวเลขแสดงการขอลี้ภัยใหม่ในสหราชอาณาจักรนั้นต่ำกว่าในประเทศยุโรปตะวันตกขนาดใหญ่อื่นๆ

“การข้ามช่องแคบในเรือลำเล็กเป็นเพียงทางเลือกสุดท้ายที่สิ้นหวังและเป็นสิ่งที่อันตรายอย่างยิ่ง เมื่อชีวิตของผู้คนตกอยู่ในอันตราย พวกเขาต้องการความช่วยเหลือ ความเห็นอกเห็นใจ และมนุษยชาติ เพื่อไม่ให้ต้องทนทุกข์ทรมานอีกต่อไป” นาโอมิ ฟิลลิปส์ ผู้อำนวยการฝ่าย นโยบายและการสนับสนุนที่สภากาชาดอังกฤษ

แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล สหราชอาณาจักร อธิบายว่าแผนดังกล่าว “ไร้สติ อันตราย และเกือบจะผิดกฎหมายอย่างแน่นอน”

“ด้วยแผนการที่เข้มงวดในการใส่ร้ายผู้ลี้ภัยที่เดินทางมาถึงสหราชอาณาจักร นี่คือรัฐบาลที่เล่นการเมืองกับชีวิตของผู้คนในช่อง มันเป็นความโหดร้ายและปลายทางที่จะล้มเหลว" สตีฟเดซ-Symonds กลุ่มสิทธิมนุษยชนของผู้ลี้ภัยและผู้อพยพกรรมการสิทธิมนุษยชนกล่าวว่าในการแถลง

“ในฐานะรัฐชาติ คุณไม่สามารถมุ่งหน้าไปยังน่านน้ำของประเทศอื่นและส่งผู้คนไปที่ชายหาดโดยปราศจากข้อตกลง” แดเนียล โซเฮเกผู้อำนวยการ Stand For All กลุ่มรณรงค์สิทธิมนุษยชนทวีตโดยเน้นที่การปฏิเสธของ Patel ของฝรั่งเศส วางแผน

โทนี่ สมิธ อดีตหัวหน้ากองกำลังรักษาการณ์ชายแดนของสหราชอาณาจักร กล่าวว่า การพยายามบังคับเรือที่บรรทุกเกินพิกัดและมักจะไม่สามารถออกทะเลได้จะเป็น “อันตรายอย่างยิ่ง”

“ความสำคัญสูงสุดในหนังสือของฉัน ภายใต้อนุสัญญาของกฎหมายทะเลแห่งสหประชาชาติ คือการรักษาชีวิตไว้เหนือสิ่งอื่นใด ดังนั้นทั้งชาวฝรั่งเศสและอังกฤษควรมุ่งมั่นที่จะทำเช่นนั้น และทำให้แน่ใจว่าไม่มีใครเสียชีวิต” เขาพูดว่า

สหราชอาณาจักรได้รับการใช้งาน 29,456 ลี้ภัยในปี 2020 ตามที่สภาห้องสมุดคอมมอนส์ สภาผู้ลี้ภัยในสหราชอาณาจักรนำร่างที่ 31,115 ในปีสิ้นสุดมีนาคม 2021 - ด้านบนห้าประเทศต้นทางเป็นอิหร่าน, แอลเบเนีย, เอริเทรีซูดานและอิรัก

ตัวเลขทั้งสองลดลงเล็กน้อยในปีที่แล้ว คาดว่าส่วนหนึ่งเป็นเพราะการระบาดของโคโรนาไวรัส

ตัวเลขในสหภาพยุโรประบุว่าเยอรมนีมีผู้สมัคร 102,500 คนในปี 2020 เกือบหนึ่งในสี่ของผู้สมัครครั้งแรกทั้งหมดในสหภาพยุโรป สเปนมีผู้สมัครสูงสุดเป็นอันดับสอง โดยมีผู้สมัคร 86,400 คน โดยที่ฝรั่งเศสอยู่ในอันดับสามรับ 81,800 คน

รัฐบาลอังกฤษยังไม่ได้ทำข้อตกลงกับประเทศในสหภาพยุโรปเกี่ยวกับการส่งคืนผู้ขอลี้ภัยที่ล้มเหลว Brexit หมายถึงข้อบังคับของสหภาพยุโรปที่อนุญาตให้ประเทศสมาชิกในบางกรณีสามารถส่งคืนผู้ขอลี้ภัยไปยังประเทศในสหภาพยุโรปที่พวกเขาผ่านพ้นไป จะไม่มีผลกับสหราชอาณาจักรอีกต่อไป

ผู้อพยพใช้ฝรั่งเศสตอนเหนือเป็นจุดเริ่มต้นเพื่อไปยังสหราชอาณาจักรมาอย่างยาวนาน ไม่ว่าจะโดยการจัดเก็บในรถบรรทุกหรือบนเรือข้ามฟาก หรือ - เพิ่มมากขึ้นตั้งแต่การระบาดของโคโรนาไวรัสส่งผลกระทบต่อการเดินทางระหว่างประเทศ — ในเรือบดและเรือขนาดเล็กอื่นๆ ที่จัดโดยผู้ลักลอบนำเข้า รัฐบาลอังกฤษและฝรั่งเศสทำงานมาหลายปีเพื่อหยุดการเดินทาง โดยประสบความสำเร็จอย่างจำกัด

มีผู้ข้ามผ่านมาแล้วกว่า 14,000 คนในปีนี้ อ้างจากการรายงานของสำนักข่าวแห่งสหราชอาณาจักร ในปี 2020 มีผู้เดินทางประมาณ 8,500 คน และหลายคนเสียชีวิตในความพยายามดังกล่าว

ในช่วงกลางเดือนสิงหาคม เรือบดจม กระตุ้นให้ผู้อพยพชาวเอริเทรียเสียชีวิต เมื่อปีที่แล้ว สมาชิกครอบครัวชาวเคิร์ดชาวอิรัก 4 คนเสียชีวิตพร้อมกับลูกวัย 1 ขวบของพวกเขา ก่อนที่ร่างของมันจะถูกพบในอีกหลายเดือนต่อมาที่ชายฝั่งนอร์เวย์ ตามรายงานของสื่ออังกฤษ