เทคนิคการเปลี่ยนค่าใช้จ่ายด้านการทำ ประกันชีวิต ให้คุ้มค่า ตามไลฟ์สไตล์ที่โปรดปราน

Unyana

ขีดเขียนในตำนาน (770)
เด็กใหม่ (3)
เด็กใหม่ (0)
POST:1297
เมื่อ 6 เมษายน พ.ศ. 2564 00.44 น.

     

       การทำ ประกันชีวิต ถือเป็นหนึ่งในแนวทางสร้างความมั่นคงในชีวิต ซี่งจะช่วยลดความเสี่ยงจากผลกระทบจากเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดในอนาคต เพราะจะมีการชดเชยรายได้ที่ต้องสูญเสียไปอันเนื่องมาจาก ความตาย, การทุพลภาพและการชราภาพตามจำนวนเงินที่ระบุไว้ให้กับผู้เอาประกันภัยหรือทายาทตามที่กำหนดไว้ในกรมธรรม์ ประกันชีวิต หรือ ประกันลดหย่อนภาษี ซึ่งมีหลายรูปแบบ ได้แก่ แบบชั่วระยะเวลา, แบบตลอดชีพ, แบบสะสมทรัพย์และแบบบำนาญ 

       นอกจากนี้ หลายคนยังนิยมเพิ่มเติมความคุ้มครองด้วย ประกันสุขภาพ, ประกันอุบัติเหตุ และ ประกันโรคร้ายแรง ด้วย ทั้งนี้เพื่อให้ครอบคลุมความเสี่ยงเพิ่มเติมที่จะเกิดขึ้นได้ โดยประกันที่นิยมทำเพิ่มเติมดังกล่าว จะมีความแตกต่างกันดังนี้  

  • ประกันสุขภาพ เป็น การทำข้อตกลงกับบริษัทประกันเพื่อให้ชดเชยค่าใช้จ่ายจากการรักษาพยาบาลในกรณีเจ็บป่วยจากโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ และอุบัติเหตุตามวงเงินที่กำหนด ซึ่งการชดเชยนั้นจะรวมถึง ค่าห้องและค่าอาหารในระหว่างรักษาตัวในโรงพยาบาล, ค่าผ่าตัด, ค่าปรึกษาแพทย์, ค่ายากลับบ้าน, ค่ารักษาพยาบาลในกรณีเกิดอุบัติเหตุ ซึ่ง กรมธรรม์ ประกันสุขภาพ บางฉบับจะมีเงื่อนไขจ่ายเงินชดเชยในช่วงนอนรักษาตัวและเงินชดเชยจากการอุบัติเหตุให้ผู้ถือกรมธรรม์ด้วย 
  • ประกันอุบัติเหตุ คือ การให้ค่าชดเชยในกรณีเกิดอุบัติเหตุจนต้องเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาล, ทุพพลภาพ, สูญเสียอวัยวะหรือเสียชีวิต โดยผู้ถือกรมธรรม์จะได้รับเงินชดเชยตามที่กำหนดไว้ในกรมธรรม์ ประกันอุบัติเหตุ 
  • ประกันโรคร้ายแรง เป็นการทำข้อตกลงที่จะรับค่าชดเชยในกรณีที่ตรวจพบโรคที่สร้างความเจ็บปวดทรมาน จนอาจถึงขั้นเสียชีวิต, เป็นโรคที่ต้องใช้การรักษาในระยะยาวและมีค่าใช้จ่ายสูง ซึ่งได้แก่ กลุ่มโรคมะเร็ง, กลุ่มโรคหลอดเลือดสมอง, กลุ่มโรคหัวใจและกลุ่มภาวะติดเชื้อ เป็นต้น ซึ่งการทำ ประกันโรคร้ายแรง นี้กำลังเป็นที่นิยมมากขึ้นของคนในปัจจุบัน และเป็นผลิตภัณฑ์ที่บริษัทประกันส่วนใหญ่เสนอเพิ่มจากผลิตภัณฑ์หลักก็คือกรมธรรม์ ประกันชีวิต นั่นเอง 

       เทคนิคการเปลี่ยนค่าใช้จ่ายด้านการทำประกันให้เป็นสิทธิประโยชน์คุ้มค่า 

       สำหรับการทำประกันทุกประเภท ย่อมต้องมีค่าใช้จ่ายก้อนหนึ่งที่ผู้ถือกรมธรรม์จะต้องเตรียมไว้เพื่อชำระตามกำหนด หลายคนใช้วิธีการตกลงหักเงินในบัญชีธนาคารเพื่อป้องกันกรณีการ “ลืมชำระ” ซึ่งจะมีผลให้ข้อตกลงในกรมธรรม์สิ้นสุดลง ขณะที่บางคนเลือกใช้วิธีการจ่ายเงินสดตามเคาน์เตอร์เซอร์วิสต่าง ๆ ที่สะดวก แต่จริง ๆ แล้วการจ่ายเงินก้อนสำหรับเป็นเบี้ยประกันนั้นควรเลือกชำระด้วย “บัตรเครดิต” เพื่อให้ได้สิทธิประโยชน์ที่คุ้มค่าคืนกลับมา เนื่องจากบัตรเครดิตจะมี “แต้มสะสม” (Reward) สำหรับการจ่ายเงินทุก ๆ  25 บาทจะได้ 1 คะแนนสะสมหรือในบางบัตรจะมีแต้มทวีคูณให้ ซึ่งเมื่อนำมาใช้ชำระเบี้ยประกันเป็นประจำก็จะยิ่งได้แต้มคืนกลับมามาก สามารถนำไปแลกเป็นของขวัญของกำนัล, แลกส่วนลดสำหรับการซื้อสินค้าและบริการได้มากมายตามไลฟ์สไตล์ที่โปรดปราน 

       แต่ที่สำคัญ หากเลือกใช้วิธีนี้ชำระค่าเบี้ยประกันทุกประเภทควรเลือกเป็นบัตรเครดิตที่ไม่มีค่าธรรมเนียม ทั้งค่าธรรมเนียมแรกเข้าและรายปี เพราะจะทำให้ผู้ถือบัตรได้รับสิทธิประโยชน์จากการใช้จ่ายได้อย่างคุ้มค่า โดยไม่ต้องพะวงกับค่าธรรมเนียมที่จะถูกเรียกเก็บจากการใช้บัตรด้วย

โพสตอบ

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเโพสตอบได้

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา