ธรรมชาติบำรุงให้ผิวสวยใสและสุขภาพดีขึ้น
เราทราบกันดีอยู่แล้วว่า สิ่งที่ผลิตจากธรรมชาตินั้น ล้วนแต่เป็นสิ่งที่ดีต่อร่างกาย ทั้งภายในและภายนอก จึงไม่แปลกใจว่าทำไมผลิตภัณฑ์หลายๆอย่างนั้นจึงนิยมใช้ส่วนสกัดจากธรรมชาติที่มีประโยชน์เข้ามาเป็นวัตถุดิบหลัก เพราะปลอดภัยต่อผู้บริโภคนั่นเอง โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่เรานำมาใช้บำรุงผิวอย่าง เซรัมบำรุงหน้า ครีมบำรุงหน้า ไนท์ครีมที่เน้นบำรุงผิวอย่างล้ำลึกในช่วงเวลาที่เรานอนหลับ หรือจะเป็นครีมทาผิวที่ต้องส่งต่ออาหารผิวอย่างเข้มข้นในการบำรุงผิวกายของเรา
สารสกัดจากธรรมชาติที่ทำให้ผิวและสุขภาพของเราดีขึ้นนั้นมีทั้ง สารสกัดจากรังนกแท้ ที่นำมาทำสบู่รังนกซึ่งอุดมไปด้วย EGF และ Vitamin E เนื้อสบู่ในก้อนใสที่ดีกว่าสบู่เหลวในการทำความสะอาดผิวอย่างล้ำลึกและอ่อนโยนไม่ระคายเคืองแม้ผิวแพ้ง่ายและไม่ทิ้งสารตกค้างพวก detergentใดๆให้ผิวหน้าขาวเนียนนุ่มคงความชุ่มชื้นไว้ใต้ผิวขั้นตอนแรกที่ให้คุณได้สัมผัสผิวขาวกระจ่างใสเปล่งปลั่งอย่างเป็นธรรมชาติ EGF สารสกัดรังนกเข้มข้นเต็มเปี่ยม Vitamin E ช่วยกระตุ้นฟื้นผิวให้กลับสดใส Vitamin C ชนิดอนุพันธ์เสถียรจากญี่ปุ่น เนื้อสบู่ใสจากกลีเซอรีนสกัดจากน้ำมันของพืชธรรมชาติ Arbutin จะมีทั้งแบบ Alpha Arbutin (สังเคราะห์) และ Beta Arbutin (ได้จากธรรมชาติ เช่น Cranberries และ Blueberries) มีความปลอดภัยค่อนข้างสูง ไม่มีการทำลายเชลล์สร้างสีผิว และไม่ทำให้เกิดฝ้าถาวร แอบมีข้อเสียนิดนึงตรงที่ราคาแพง และใช้เวลาอย่างน้อย 3 เดือนขึ้นไปถึงจะเห็นผล Kojic Acid พบในกระบวนการหมักข้าวมอลต์ เช่น ในสาเกญี่ปุ่น ช่วยลดความหมองคล้ำและจุดด่างดำ โดยตัวนี้จะช่วยลดเม็ดสีในชั้นผิว ด้วยการยับยั้งเอนไซม์ Tyrosinase ซึ่งเป็นเอนไซม์ที่ใช้สร้างเม็ดสีทำให้ผิวคล้ำขึ้ นั่นเองค่ะ ทำให้ขาวใสได้อย่างรวดเร็วและได้ผลในระยะยาว ไม่ทำให้ผิวบาง และไม่ทำให้ผิวไวต่อแสง ใช้ต่อเนื่องได้โดยไม่มีผลข้างเคียง จะมีอีกตัวคือ Kojic Acid Dipalmitate ที่จะคล้ายกับ Kojic Acid แต่ซึมลงผิวได้มากกว่า Licorice Extract เป็นสารสกัดจากรากชะเอมเทศ มีสาร Grabidin 40% ในการช่วยยับยั้งการสร้างเม็ดสีเมลานิน ช่วยปรับให้ผิวขาวใส ยับยั้งเอนไซม์ Tyrosinase โดยไม่กระทบกับกระบวนการสำคัญระดับเซลล์อื่น ๆ นอกจากนี้ยังช่วยลดการอักเสบของผิวหนัง ต่อต้านเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดสิว และมีสารอนุมูลอิสระช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยของผิวได้ด้วย L-Ascorbic Acid (Vitamin C) ได้จากผลไม้ประเภท Citrus และผักใบเขียว ตัว Vitamin C จะไปรบกวน DHICA Oxidation เพราะถ้าไม่เกิดกระบวนการนี้เมลานินหรือเม็ดสีในผิวก็จะไม่เพิ่มขึ้น ทำให้ผิวดูสว่างสดใสขึ้นนั่นเองค่ะ ยังเป็นตัวกระตุ้นให้ผลิตคอลลาเจนได้มากขึ้น ผิวจึงนุ่ม เด้ง สุขภาพดีขึ้นด้วย บวกกับความเป็น Antioxidant ที่ทำให้ริ้วรอยดูลดลงด้วย Ascorbyl Palmitate (Vitamin C Ester) เหมือนกับ Vitamin C เลย แต่ตัวนี้จะมาเป็นรูปแบบของน้ำมัน มีความเสถียรสูงกว่า L-Ascorbic Acid เนื่องจากไม่ละลายในน้ำ จึงซึมผิวได้มากกว่าและเข้าไปช่วยได้ตรงจุดมากกว่า เมื่อผสมในผลิตภัณฑ์ จะช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนของผิว ช่วยปรับให้ผิวขาวกระจ่างใสเหมาะสำหรับผสมในครีมที่มี L-Ascorbic Acid และ Vitamin E จะช่วยปรับให้ผิวขาวกระจ่างใสยิ่งขึ้น
โพสตอบ
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเโพสตอบได้