กินเจปีนี้อย่างไร ? ให้ได้ครบทั้ง 5 หมู่ !
เทศกาลกินเจปีนี้จะเริ่มในวันที่ 17 ตุลาคม จนถึงวันที่ 25 ตุลาคม 2563 เป็นเวลาที่คนไทยเชื้อสายจีนจะรักษาศีลและกินเจ งดบริโภคเนื้อสัตว์เพื่อละเว้นชีวิตสัตว์ โดยเลือกบริโภคผักผลไม้แทน ทำให้หลายคนอาจกังวลว่าหากรับประทานเจแล้วจะทำให้ได้สารอาหารไม่ครบถ้วน ทำร่างกายจะขาดสารอาหาร สินมั่นคง ประกันสุขภาพ จึงมีวิธีการรับประทานอาหารเจที่ดีต่อสุขภาพ ได้ครบทั้ง 5 หมู่ และดีต่อสุขภาพมาแนะนำกัน
วิธีการรับประทานเจให้ได้สารอาหารครบถ้วนทุกหมู่
1. โปรตีน
ไม่ต้องห่วงว่าช่วงเจไม่ได้กินเนื้อสัตว์แล้วจะขาดโปรตีน เพราะอาหารที่ได้จากพืชนั้นก็อุดมด้วยโปรตีนที่มีประโยชน์มากมาย โดยการรับประทาน ถั่วต่างๆ ธัญพืช เต้าหู้ นมถั่วเหลือง โปรตีนเกษตร แทน
2. คาร์โบไฮเดรต
โดยปกติเราจะได้รับคาร์โบไฮเดรตกันจากข้าวอยู่แล้ว แต่ในเทศกาลเจแบบนี้ให้เปลี่ยนจากข้าวขาวเป็นข้าวกล้องแทนเพื่อประโยชน์ที่มากขึ้น หรือเลือกขนมปังหรือเส้นหมี่ต่างๆ ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์จากแป้งได้
3. วิตามิน
ได้จาก ผัก ผลไม้ทั่วไป เช่น ส้ม สับปะรด สาลี่ องุ่น
4. เกลือแร่
พบมากในผักใบเขียวแทบทุกชนิดและผักสีต่างๆ สามารถเลือกรับประทานได้ตามชอบ เช่น ผักคะน้า บรอกโคลี ตำลึง ผักโขม หัวผักกาด กะหล่ำปลี แคร์รอต มันฝรั่ง มะเขือเทศ
5. ไขมัน
ได้รับจากน้ำมันพืช แกงกะทิ หรือสลัดราดน้ำมันงา แต่ควรระวังอาหารประเภทไขมันที่ต้องรับประทานเพียงเล็กน้อยก็เพียงพอแล้ว
ข้อควรระวัง
1. อย่ากินใยอาหารเยอะเกินไป แน่นอนว่าใยอาหารเป็นสิ่งที่ดีต่อร่างกาย แต่เมื่อได้รับมากเกินไป (50-60 กรัม) อาจทำให้ร่างกายดูดซึมวิตามินและเกลือแร่บางชนิดได้ไม่ดีพอ
2. ระวังอาหารประเภททอด ผัด ที่มีน้ำมันจำนวนมากเกินไป อาจทำให้อ้วนลงพุงได้ อาหารที่ทำมาจากแป้ง ทำให้อ้วนลงพุงได้เช่นกัน ควรเลือกอาหารที่ทำจากโปรตีนเกษตร
3. หากมื้อไหนที่กินอาหารที่ทำจากแป้งหรือมีไขมันจากน้ำมัน ให้อีกครึ่งหนึ่งของจานอาหารเป็นผักผลไม้แทน
4. หลีกเลี่ยงอาหารรสจัด เมื่อมีการขายอาหารเจที่มีรสจืด จึงนิยมปรุงรสกันจำนวนมาก ด้วยซอสและเครื่องปรุง ไม่ว่าจะเค็มจัด หวานจัด ก็อาจส่งผลให้ความดันโลหิตสูงได้
ขอบคุณข้อมูลจาก สินมั่นคง ประกันสุขภาพ
โพสตอบ
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเโพสตอบได้