โอนรถไม่ยาก...ด้วยวิธีง่าย ๆ ดังนี้
ก่อนที่จะเป็นเจ้าของรถก็ต้องผ่านขั้นตอนการรับโอนกรรมสิทธิ์รถกันก่อน และเมื่อถึงเวลาเปลี่ยนรถใหม่ก็ต้องขายรถ ก็ต้องมีการโอนรถให้คนอื่น แล้วเราจะต้องทำอย่างไรบ้างในการโอน และต้องเตรียมเอกสารพร้อมค่าใช้จ่ายอย่างไรบ้าง วันนี้มีคำแนะนำง่าย ๆ ในการโอนรถมาบอกกัน
ขั้นตอนการโอนรถ
1. ไปที่สำนักงานกรมขนส่ง ตามที่อยู่ของเจ้าของรถ ไม่ว่าจะเป็นบุคคลธรรมดาทั่วไป หรือ นิติบุคคล
ทางสำนักงานขนส่งทางบก จะยึดเอาที่อยู่เจ้าของเป็นสถานที่สำคัญในการทำธุรกรรมรถยนต์ หรือ ต้องตรวจสอบกับเจ้าของรถเดิมว่าอยู่ในพื้นที่ใดให้ชัดเจน ส่วนในกรณีที่ผู้รับโอนหรือผู้โอนไม่สามารถเดินทางไปได้ ให้ดูจากตัวผู้ที่ทำธุรกรรมเป็นหลัก ดูตามเขตรับผิดชอบของสำนักงานพื้นที่ขนส่งแล้วไปติดต่อสำนักงานขนส่ง
ในกรุงเทพมหานคร มีสำนักงานกรมขนส่งทั้งสิ้น 5 สาขา หรือ 5 พื้นที่รับผิดชอบ โดยแบ่งตามเขตรับผิดชอบดังนี้
- สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1 (บางขุนเทียน) รับผิดชอบพื้นที่ บางขุนเทียน เขตจอมทอง เขตธนบุรี เขตคลองสาน เขตราษฎร์บูรณะ เขตยานนาวา เขตสาทร เขตบางคอแหลม เขตทุ่งครุ และเขตบางบอน โทร. 0-2415-7337
- สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานครพื้นที่ 2 (สวนผัก-ตลิ่งชัน) รับผิดชอบพื้นที่ ตลิ่งชัน บางพลัด บางกอกน้อย บางกอกใหญ่ ภาษีเจริญ หนองแขม พระนคร บางแค และทวีวัฒนา โทร. 0-2433-4773
- สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานครพื้นที่ 3 (พระโขนง) รับผิดชอบพื้นที่ เขตพระโขนง คลองเตย บางนา ประเวศ สวนหลวง และ เขตวัฒนา โทร. 0-2333-0035
- สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานครพื้นที่ 4 (หนองจอก-สุวินทวงศ์) รับผิดชอบพื้นที่ เขตมีนบุรี หนองจอก ลาดกระบัง บึงกุ่ม สะพานสูง คันนายาว และคลองสามวา โทร. 0-2543-5512
- สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานครพื้นที่ 5 (จตุจักร) รับผิดชอบพื้นที่ ป้อมปราบศัตรูพ่าย ปทุมวัน ดุสิต บางซื่อ บางเขน ดินแดง จตุจักร ลาดพร้าว สายไหม สัมพันธวงศ์ บางรัก พญาไท ห้วยขวาง บางกะปิ ดอนเมือง ราชเทวี หลักสี่ และวังทองหลวง โทร. 0-2271-8888
ส่วนกรณีต่างจังหวัด ต้องไปโอนที่สำนักงานขนส่งจังหวัดนั้นๆ
2. ต้องทราบว่าเป็น “การโอนรถ” แบบไหน
เช่น
- "โอนเพื่อซื้อหรือขาย"
- "โอนในกรณีได้รับมรดก" แบ่งเป็น "การโอนในกรณีไม่มีพินัยกรรม" ไม่มีคำสั่งศาลแต่งตั้งผู้จัดการมรดก และ "การโอนโดยมีผู้จัดการมรดก"
- "โอนกรรมสิทธิ์ทั่วไป"
- "โอนกรรมสิทธิ์จากสัญญาเช่าซื้อ"
3. เตรียมเอกสาร ให้ครบตาม พร้อมค่าธรรมเนียม
กรณีการโอนกรรมสิทธิ์รถเพื่อซื้อหรือขาย
1. สมุดคู่มือจดทะเบียนรถยนต์
2. สำเนาบัตรประชาชนของผู้รับโอน และผู้โอน
กรณีนิติบุคคล ใช้ สำเนาการจดทะเบียนจดทะเบียนจัดตั้งนิติบุคคล และ สำเนาบัตรประชาชนของกรรมการบริษัทผู้มสีอำนาจลงนามทั้งหมด
3. สัญญา ซื้อขาย ใบเสร็จรับเงิน และใบกำกับภาษี
4. ใบคำขอโอน และใบรับโอน โดยทางผู้รับโอนและผู้โอน ลงนามในคำขอเรียบร้อย พร้อมพยานรับทราบ2 คน ดาวน์โหลดแบบฟอร์มได้ที่ www.dlt.go.th/th/e-form
5. หนังสือมอบอำนาจพร้อมสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนผู้รับมอบ หากผู้รับโอนหรือผู้โอน คนใดคนหนึ่งไม่สามารถไปได้ ให้ผู้รับมอบอำนาจไปดำเนินการ ดาวน์โหลดแบบฟอร์มได้ที่ www.dlt.go.th/th/e-form
การโอนรถโดยการรับมรดก ให้เพิ่มเอกสาร
1. สำเนาหรือภาพถ่ายใบมรณะบัตรของเจ้าของมรดก (เจ้าของรถเดิม-ผู้วายชน)
2. สำเนาคำสั่งศาลแต่งตั้งผู้จัดการมรดก (กรณีมีผู้จัดการมรดก ตามคำสั่งศาล)
3. สำเนาบัตรประชาชนของผู้จัดการมรดก (กรณีมีผู้จัดการมรดก ตามคำสั่งศาล)
ค่าใช้จ่ายในการโอน
- ค่าธรรมเนียม/ค่าดำเนินการ = 130 บาท
- ค่าอากรแสตมป์ = 30 บาท
- ค่าตรวจสภาพรถ+ค่าโอน (กรณี "โอนได้รับมรดก" ไม่ต้องเสียเงินค่าโอน ) ต้องจ่ายแสนละ 500 บาท เช่น
ราคาประเมินของรถ 100,000 บาท = ต้องจ่าย 500 บาท
ราคาประเมินของรถ 150,000 บาท = ต้องจ่าย 750 บาท
ราคาประเมินของรถ 200,000 บาท = ต้องจ่าย 1,000 บาท
4. ขั้นตอนโอนรถ
- ติดต่อส่วนงานตรวจสภาพรถยนต์ โดยแจ้งเจ้าหน้าที่ว่า มาตรวจสภาพเพื่อโอนรถ จากนั้นผ่านขั้นตอนการตรวจสภาพตามปกติ จากนั้นรอเอกสารจากเจ้าหน้าที่ เพื่อไปดำเนินการต่อไป (กรณีโอนเนื่องจากผ่อนชำระหมด ไม่ต้องตรวจสภาพรถ)
- หลังรับเอกสารเรียบร้อย ให้ไปติดต่อส่วนงานทะเบียนรถยนต์ เพื่อทำเรื่องทางด้านเอกสารโอน ให้ไปส่วนตรวจสอบเอกสารหากเอกสารผ่านแล้ว
- รับบัตรคิว
- รอคิวทำเรื่องโอน เมื่อถึงคิวเจ้าหน้าที่จะเรียกคุณเข้าตรวจสอบเอกสาร และหลักฐานการโอนอีกครั้ง หากเรียบร้อยเจ้าหน้าที่จะทำการเปลี่ยนกรรมสิทธิ์รถยนต์ให้
- จบขั้นตอนการโอน
ขอบคุณข้อมูลจากสินมั่นคงประกันภัย [url](https://www.smk.co.th/premotor.aspx)[/url]
โพสตอบ
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเโพสตอบได้