มะเร็งปากมดลูก ภัยร้ายใกล้ตัว ที่ผู้หญิงทุกคนควรรู้

teena

ขีดเขียนชั้นอนุบาล (83)
เด็กใหม่ (0)
เด็กใหม่ (0)
POST:94
เมื่อ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2563 10.59 น.

"มะเร็งปากมดลูก" ถือเป็นมะเร็งระบบสืบพันธุ์เพศหญิงที่พบมากเป็นอันดับต้นๆ และเป็นสาเหตุการตายอันดับหนึ่งของหญิงไทย จากสถิติเราพบว่าผู้ป่วยส่วนใหญ่จะไม่มีสัญญาณเตือนให้รู้ล่วงหน้า หรือบางรายแม้จะมีการเปลี่ยนแปลงให้เห็นแต่เลือกที่จะมองข้าม เพราะกลัวการเข้าพบแพทย์ จนทำให้โรคมะเร็งนั้นได้เข้าสู่ในระยะลุกลามแล้ว การรักษาจึงเป็นไปได้ยาก

 

 

มะเร็งปากมดลูก เป็นมะเร็งที่ทราบสาเหตุการเกิดอย่างชัดเจน โดยสาเหตุสำคัญเกิดจากการติดเชื้อไวรัส HPV (Human Papilloma Virus) สายพันธุ์เสี่ยงสูง ซึ่งสามารถติดต่อกันได้ทางการมีเพศสัมพันธ์กับผู้ที่มีเชื้อนี้อยู่ หรือจากการสัมผัส โดยเชื้อไวรัสจะเข้าไปเปลี่ยนแปลงเนื้อเยื่อหรือเซลล์จากปากมดลูกปกติกลายเป็นเซลล์มะเร็งปากมดลูก เเละอาจลุกลามไปบริเวณรอบข้าง เช่น ผนังช่องคลอด ตัวมดลูก เนื้อเยื่อข้างมดลูก ต่อมน้ำเหลืองในอุ้งเชิงกราน เป็นต้น ซึ่งเมื่อเชื้อเข้าสู่ร่างกายจนกระทั่งก่อให้เกิดมะเร็งปากมดลูกได้นั้น ใช้เวลานานประมาณ 5-10 ปี

 

 

นอกจากนี้ยังมีปัจจัยอื่น ๆ ที่ทำให้ผู้หญิงมีโอกาสเป็นโรคมะเร็งปากมดลูกมากขึ้น เช่น

  • มีเพศสัมพันธ์ตั้งแต่อายุยังน้อย
  • เปลี่ยนคู่นอนบ่อย ๆ
  • มีคู่นอนหลายคน
  • สูบบุหรี่หรือคนรอบข้างสูบบุหรี่

 

   อาการแสดงของ “มะเร็งปากมดลูก” จะมีอาการผิดปกติในมะเร็งระยะลุกลามเท่านั้น เช่น มีตกขาวผิดปกติ เลือดออกผิดปกติทางช่องคลอด ประจำเดือนมามาก มีเลือดออกหลังการมีเพศสัมพันธ์ ดังนั้นการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกจึงเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อค้นหาสตรีที่มีความผิดปกติของเซลล์ปากมดลูกในระยะก่อนมะเร็ง หรือ มะเร็งในระยะต้น ปัจจุบันการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกที่ถือว่ามีความแม่นยำสูง ได้แก่ การตรวจทางเซลล์วิทยา (Pap smear, Liquid base cytology) และการตรวจหาไวรัส HPV

 

   การรักษา “มะเร็งปากมดลูก” มะเร็งในทุกระยะสามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่เป้าหมายในการรักษาจะแต่แตกต่างกันในแต่ละระยะ

  • ระยะ 1 และ 2 (ขั้นต้น) ผู้ป่วยจะได้เข้ารับการรักษาด้วยการผ่าตัดเอาตัวต้นต่อของมะเร็งออก หรือที่เรียกว่าแบบ "ถอนรากถอนโคน" ทำให้มีโอกาสหายมากขึ้น และโอกาสที่จะกลับไปเป็นซ้ำ หรือการกระจายของเชื้อมะเร็งก็จะน้อยลง ปัจจุบันได้มีการพัฒนาการรักษามะเร็งปากมดลูก สามารถรักษาด้วยการผ่าตัดมดลูกผ่านกล้องได้ ซึ่งเราอาจจะเคยได้ยินในเรื่องของแผลเล็ก เจ็บน้อย ฟื้นตัวได้ไว การผ่าตัดผ่านกล้องทำให้สามารถมองเห็นรอยโรคได้อย่างชัดเจนเห็นอวัยวะ   ต่างๆ ได้อย่างชัดเจนทำให้การผ่าตัดปลอดภัยได้มากยิ่งขึ้น

 

  • ระยะ 3 และ 4 เป็นระยะที่มะเร็งลุกลามออกนอกปากมดลูกแล้ว ดังนั้นจะเป็นแนวทางการรักษาแบบประคับประคองประกอบด้วยเคมีบำบัดร่วมกับรังสีรักษาในเวลาเดียวกัน เพื่อควบคุมไม่ให้มะเร็งลุกลามไปยังอวัยวะใกล้เคียงและเนื้อเยื่อชั้นในรอบๆ มดลูก

 

การป้องกัน “มะเร็งปากมดลูก”

มะเร็งปากมดลูกเป็นมะเร็งชนิดแรกที่มีการนำวัคซีนมาใช้ในการป้องกันโรค ได้แก่ วัคซีนป้องกันไวรัส HPV โดยวัคซีนชนิดนี้จะป้องกันการติดเชื้อ ไวรัส HPV สายพันธุ์ที่  16,18  ซึ่งเป็นสาเหตุการเกิดมะเร็งปากมดลูกถึง 70%  ดังนั้น จากการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกอย่างสม่ำเสมอ และการรับวัคซีนป้องกันการติดเชื้อไวรัส HPV จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งปากมดลูกได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

“มะเร็งปากมดลูก”สามารถป้องกันและรักษาได้ หากตรวจพบตั้งแต่เนิ่นๆ เพื่อความ         ไม่ประมาทแนะนำให้สตรีไทยที่มีอายุมากกว่า 21 ปี เข้ารับการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง เพื่อค้นหาความผิดปกติของเซลล์ปากมดลูก และหมั่นสังเกตความผิดปกติของร่างกาย หากมีอาการผิดปกติควรรีบพบแพทย์ทันที

 

โรงพยาบาลนนทเวช พร้อมให้การดูแลรักษา “โรคมะเร็งปากมดลูก” ด้วยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านมะเร็งทางนรีเวช พร้อมทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางการผ่าตัดผ่านกล้องทางนรีเวชและมะเร็งทางนรีเวช ที่มีประสบการณ์มากกว่า 15 ปี ภายใต้มาตรฐาน JCI ที่ทั่วโลกยอมรับ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่โรงพยาบาลนนทเวช

 

ขอบคุณข้อมูลจาก : https://www.nonthavej.co.th/cervical-cancer-1.php

โพสตอบ

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเโพสตอบได้

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา