4 บริการเด่นๆ จากโรงพยาบาลเด็กสำหรับลูกๆ ตัวน้อยโดยเฉพาะ

เพราะลูกน้อยต้องการความใส่ใจและการดูแลอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะเวลาที่ลูกป่วยหรือมีความผิดปกติต่างๆ เกิดขึ้น เพราะแน่นอนว่าเด็กเล็กนั้นไม่สามารถดูแลตัวเองได้อย่างเต็มที่และมีประสิทธิภาพมากเพียงพอที่จะทำให้อาการเจ็บป่วยต่างๆ นั้นหายไปเองได้ ดังนั้นจึงเป็นหน้าที่ของคุณพ่อคุณแม่ที่จะต้องหาโรงพยาบาลเด็กใกล้บ้าน ที่มีหมอเก่งๆ เฉพาะด้านและต้องศึกษาเส้นทางการเดินทางเอาไว้ เพราะหากเกิดเหตุการณ์เจ็บป่วยกระทันหัน จะได้รีบพาลูกน้อยส่งถึงมือแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้อย่างทันท่วงที

โดยหลักการในการพิจารณาเลือกโรงพยาบาลเด็กนั้นอันดับแรกที่ต้องคำนึงถึงคือความสะอาดที่เทียบเท่าตามมาตรฐานสากลเพื่อความปลอดภัย ต้องมีการบริการที่ดีเยี่ยม (อาจศึกษาจากการอ่านรีวิวหรือฟีดแบคคนที่เคยใช้บริการ) และต้องมีหมอเฉพาะทางต่างๆ เพื่อเพิ่มความมั่นใจได้ว่าโรงพยาบาลเด็กที่เลือกนั้นจะมีหมอเฉพาะด้านครอบคลุมกับความต้องการรอบด้าน

คลินิกฉุกเฉิน

โรงพยาบาลเด็กที่ดีควรมีแผนกฉุกเฉินและมีกุมารแพทย์เตรียมพร้อมตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อเตรียมรับสถานการณ์ฉุกเฉิน รวมไปถึงการปฐมพยาบาลในเบื้องต้นเพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยเด็กฉุกเฉิน เพราะหากเกิดเหตุฉุกเฉินเมื่อไหร่ก็สามารถวางใจได้ว่าลูกของคุณจะได้รับการดูแลรักษาโดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญประจำโรงพยาบาลเด็กนั้นๆ ได้อย่างทันท่วงทีและปลอดภัย

คลินิกหู คอ จมูก เด็ก

ที่โรงพยาบาลเด็กนั้นควรมีคลินิกเด็กสุขภาพดีที่พร้อมให้คำปรึกษาเรื่องสุขภาพของเด็กในโรคทั่วๆ ไปและโรคที่เด็กๆ อาจเกิดการติดต่อได้ง่าย อาทิ ไข้หวัด โดยควรจะมีแพทย์ประจำแผนกวินิจฉัยและรักษาโรค นอกจากนี้บริการจากคลิกนิกเด็กรักษาโรคทั่วไป ควรจะมีบริการโปรแกรมฉีดวัคซีนต่างๆ แก่ลูกน้อย เพราะเด็กเล็กๆ นั้นจำเป็นที่จะต้องมีการฉีดวัคซีนต่างๆ เป็นประจำทุกๆ ปีเพื่อสุขภาพและภูมิต้านทานที่ดี

ศูนย์ศัลยกรรมเด็กครบวงจร

อีกหนึ่งบริการเฉพาะด้านที่โรงพยาบาลเด็กควรจะต้องมีคือศูนย์ศัลยกรรมเด็กครบวงจร ที่จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องคัดสรรโรงพยาบาลเด็กที่ได้มาตรฐานและมีแพทย์ที่มีความชำนาญเป็นพิเศษ ในการดูแลรักษาและแก้ไขโรคต่างๆ ที่จะไม่เป็นอันตรายแก่เด็ก ไม่ว่าจะเป็นการผ่าตัดโรค การผ่าตัดเพื่อตกแต่งศัลยกรรม รวมไปถึงการผ่าตัดขนาดเล็กและการดูแลเป็นอย่างดีในระหว่างขั้นตอนพักฟื้น

ศูนย์เวชศาสตร์ฟื้นฟูเด็ก

เพราะว่าเด็กไม่ได้มีร่างกายที่เติบโตสมบูรณ์แบบเหมือนผู้ใหญ่ ดังนั้นการรักษาโรคและการใช้ยาจึงมีความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง เพราะนอกจากจะต้องดูแลรักษาทางด้านร่างกายแล้ว แพทย์ยังจะต้องมีการดูแลและเอาใจใส่ทางด้านจิตใจของเด็กด้วยเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะอย่างย่ิงในเด็กกลุ่มที่เป็น ดาวน์ซินโดรม เด็กมีพัฒนาการล่าช้า เด็กออทิสติก เด็กสมองพิการ หรือมีความพิการทางแขนและขา และเด็กที่อาจมีความผิดปกติด้านโครงสร้างร่างกาย เช่น ภาวะหลังคด การผิดรูปของข้อต่อต่างๆ เป็นต้น ที่ทั้งหมดนี้จะต้องอาศัยฝีมือจากทีมแพทย์ ไม่ว่าจะเป็นคุณหมอ นักบำบัด นักกายภาพ เพื่อให้การรักษาเป็นไปอย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพมากที่สุด