บุหรี่ไฟฟ้า จะหนี มะเร็งปอด ได้จริงไหมนะ

ต่อให้ “บุหรี่” มีความอันตรายมากแค่ไหน สิงห์พ่นควันหลายคนก็ยังไม่ยอมเลิกราง่ายๆ อาจมีเหตุผลส่วนตัวที่ว่า เครียดขอสูบหน่อย หรือแค่มวนสองมวนเอง ไม่เป็นอะไรหรอก แถมคนที่อยู่ข้างๆ ไม่ได้สูบบุหรี่ แต่ต้องมารับควันบุหรี่มือสอง ก็เสี่ยงเป็น มะเร็งปอด เพิ่มไปอีก  

สารพิษในบุหรี่ 3 ชนิดใหญ่ๆ

1.ทาร์ หรือดินน้ำมัน

เป็นสารก่อมะเร็งที่น่ากลัวที่สุด เพราะจะก่อให้เกิดมะเร็งจนเราไม่รู้ตัว

2.นิโคติน

เป็นสารอัลคาลอยด์ สกัดได้จากพืช ดูดซึมทางผิวหนังหรือเยื่อเมือกที่บุผิว ซึ่งก็คือปากและจมูกนี่เอง สารนิโคติน ส่งผลต่อสมองและร่างกายของผู้เสพ

3.ก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์

ชื่อคุ้นๆ ใช่เลย เพราะนี่คือก๊าซสีดำๆ ที่พ่นออกมาจากท่อไอเสียของควันรถ คาร์บอนมอนอกไซด์จะเข้าไปขัดขวางการลำเลียงออกซิเจนของเม็ดเลือดแดง รับรองว่าอวัยวะภายในเราดำโขมงไม่เหลือแน่ๆ

บุหรี่ไฟฟ้า ช่วยให้ไม่เป็น มะเร็งปอด จริงๆ หรือ

ต่างประเทศส่งเสริมให้สิงห์พ่นควัน หันไปใช้งาน บุหรี่ไฟฟ้า กันมากขึ้น เพราะว่ากันว่า บุหรี่ไฟฟ้า ช่วยปลอดภัยกว่าบุหรี่จริงเกือบ 95% นี่อาจจะเป็นนิมิตหมายที่ไกลจาก โรคมะเร็ง ก็ได้

ต่อให้ บุหรี่ไฟฟ้า ไม่มีสีหรือไม่มีกลิ่น แต่ก็ยังมีส่วนผสมที่เรียกว่า “นิโคติน” อยู่ แล้วที่สำคัญ สารนิโคตินที่ระบุเอาไว้หน้าฉลาก อาจจจะไม่ตรงกันกับตัวบุหรี่ไฟฟ้าจริงๆ ก็ได้

นอกจากนี้ ในบุหรี่ไฟฟ้า ยังมีสารอีกสองตัวที่ปลอดภัยพอสมควร (เพราะมันถูกผสม หรือเป็นส่วนประกอบในเครื่องสำอาง) นั่นก็คือ

• 1.ไพลีนไกลคอน

• 2.กลีเซอรีนจากพืช

แต่ถ้าอย่างนั้น ก็ยังมีวิจัย หรือข้อโต้แย้งว่า บุหรี่ไฟฟ้าถ้าสูบนานๆ เข้า อาจก่อให้เกิดการแข็งตัวของหลอดเลือดใหญ่ในทรวงอก ทำให้ระบไหลเวียนของเลือดเปลี่ยแปลง ส่งผลให้เกิดโรคหัวใจ และมะเร็งปอดได้

บุหรี่ หรือบุหรี่ไฟฟ้า ก็ยังเป็นสารเสพติด (ที่ถูกกฎหมาย) อยู่วันยังค่ำ และไม่ได้ส่งผลดีต่อร่างกายเลย เราสูบไม่ใช่แค่เราเดือดร้อน แต่คนข้างๆ ก็เดือดร้อนไปด้วย จริงๆ การสูบบุหรี่ เป็นเรื่องส่วนตัว ถ้าอยากสูบจริงๆ ก็ควรไปสูบในที่ที่สูบจะดีกว่า หรือถ้าอยากจะเลิกแบบเด็ดขาด ก็ต้องใจสู้สักหน่อย นั่นก็เพราะหนีให้ไกลจากโรคมะเร็ง

ขอบคุณข้อมูลบางส่วนจาก rabbit finance magazine ด้วยนะคะ