3 เหตุผล ที่RAM iOS น้อย แต่ลื่นกว่าแอนดรอยด์ RAM 2GB เสียอีก
เห็นสมาร์ทโฟน รุ่นใหม่ออกมาแล้ว ตื่นตะลึงพอสมควร RAM 3GB อย่างนี้ แถมCPU ก็แรงสะใจ แต่ทว่าก็กลับมีข้อสงสัยบางประการ เพราะดูเหมือนว่า สเปคฮาร์ดแวร์ที่สูงกว่าภายในเครื่องสมาร์ทโฟน กลับมีบางอย่างที่ด้อยกว่า iPhone สเป๊คที่ต่ำกว่าเสียอีก เห็นทีงานนี้ต้องหาคำตอบกันล่ะครับ
เพราะเปรียบเทียบจาก สมาร์ทโฟนเรือธงตัวล่าสุดของสองค่ายแล้ว มันทำให้เกิดข้อข้องใจบางอย่าง เพราะในขณะที่ Samsung ออก Galaxy Note4 ตัวใหม่ RAM 3 GB แต่ Apple กลับออก iPhone 6 และ 6 Plus ที่มีRAM เพียง 1 เท่านั้น เอ๊ะ! หรือว่า คงต้องมีเหตุผลบางอย่างที่ซ่อนอยู่ในสมาร์ทโฟนจากค่าย Apple กันแน่
ความจริงเกี่ยวกับ RAM สมาร์ทโฟน
สมาร์ทโฟนที่ใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์จะมีการใช้งานหน่วยความจำอยู่ 3 ชนิด คือ RAM, Storage และ SD Card
RAM คือหน่วยความจำ ที่มีหน้าที่เป็นที่พักข้อมูลในการคำนวณของเครื่องและแอ็ปต่างๆ หากมี RAM มากเครื่องก็จะทำงานได้รวดเร็วและราบรื่น หากมีน้อยก็อาจทำให้เครื่องเกิดอาการกระตุกได้ ปกติ RAM จะถูกจองการใช้งานให้กับแอ็ปต่างๆ ที่เราเปิดขึ้นมา หากเปิดค้างไว้หลายๆ โปรแกรมพร้อมกัน ก็จะทำให้ RAM เหลือน้อยลง และเครื่องจะเริ่มอืดได้ ดังนั้นเราอาจจะต้องปิดแอ็ปบางตัวที่เปิดค้างไว้ แต่ไม่ได้ใช้งาน เพื่อให้เครื่องกลับมาทำงานเป็นปกติ สำหรับคนที่ชอบเล่นเกมบนมือถือ ก็ควรทราบไว้ด้วยว่าเกมโดยมากชอบเครื่องที่มี RAM เยอะๆ หากมีน้อยก็มักจะกระตุกครับ
RAM ที่มากับเครื่องจะมีมากมีน้อยส่วนหนึ่งขึ้นกับราคา เครื่องที่ราคาสูงก็จะมีมามากหน่อย อาจถึง 1GB ส่วนเครื่องราคาปานกลางก็จะมีมาประมาณ 512MB แต่ตัวเลขนี้เป็นเพียงค่าตามฮาร์ดแวร์ ส่วนการใช้งานจริง ตัวระบบจะแบ่ง RAM ส่วนหนึ่งไว้ใช้งานเอง ทำให้ RAM ที่เราใช้งานได้จริงจะเหลือน้อยลง เช่นเครื่อง Galaxy Cooper ที่มี RAM มา 512MB แต่เวลาเราตรวจสอบด้วยโปรแกรมจะพบว่าเห็นแค่ 278MB เท่านั้น และเมื่อบูตเครื่องเสร็จตัวโปรแกรมระบบก็จะใช้ไปแล้วกว่า 150 เม็ก
3 เหตุผล ที่RAM iOS น้อย แต่ลื่นกว่าแอนดรอยด์ RAM 2-3 GB เสียอีก
การอ้างอิงจาก Glyn Williams แห่งเว็บไซต์ Quora และ John Brownlee แห่งเว็บไซต์ Cultofmac ได้เปิดเผยข้อมูลสำคัญที่เป็นการบ่งบอกว่า iPhone 6 ที่มาพร้อมแรมขนาด 1 GB กลับทำงานได้เร็วกว่าสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ในสเปคใกล้เคียงกัน แต่มาพร้อมแรมขนาด 2 GB ซึ่งใหญ่กว่าเท่าตัว โดยปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้ iPhone 6ทำงานได้ดีกว่าบนแรมที่น้อยกว่าก็คือ
1. เทคนิคการจัดการแอปพลิเคชันบนระบบปฏิบัติการ iOS ที่แตกต่างจากระบบปฏิบัติการ Android
แอปพลิเคชันแอนดรอยด์พัฒนาอยู่บนพื้นฐานของภาษา Java ซึ่งจากการใช้ Java นี่แหล่ะเป็นข้อเสียเพราะจะมีการสะสมพวกไฟล์ขยะ หรือเรียกกันว่า “garbage collection” ซึ่งทุกครั้งที่ผู้ใช้แอนดรอยด์ได้ปิดแอป พวกไฟล์ขยะเหล่านี้จะถูกเก็บสะสมอยู่ในหน่วยความจำ ซึ่งปัญหาก็คือพวกไฟล์ขยะเหล่านี้กินพื้นที่ของหน่วยความจำมาก(RAM)ถึง 4-8เท่า และถ้าเกิดว่าเราใช้งานแอปเยอะเกินไปจนส่งผลให้ RAM มีไม่พอใช้ มันจะทำให้เครื่องช้าลง
แต่หากมาดูกันในฝั่งของระบบปฏิบัติการ iOS จะพบว่าระบบนี้ไม่ได้ต้องการหน่วยความจำพิเศษใดๆ เหมือนกับที่ต้องใช้กับ Java หรือ Android เนื่องจากระบบปฏิบัติการ iOS ถูกออกแบบมาให้หลีกเลี่ยงการทำงานในลักษณะของGarbage Collection ดังกล่าว โดย iOS ต้องการเพียงแค่หน่วยความจำเฉพาะที่ต้องใช้งานจริงเท่านั้น
สิ่งต่างๆ เหล่านี้เป็นการบอกว่าเพราะเหตุใดอุปกรณ์ในแพลทฟอร์ม Android จึงต้องการหน่วยความจำแรมเพื่อการทำงานของแอปพลิเคชันมากกว่าอุปกรณ์ในแพลทฟอร์ม iOS กว่าเท่าตัว และยิ่งไปกว่านั้น การที่ต้องใช้งานพื้นที่หน่วยความจำแรมมากกว่า ก็จะส่งผลให้เกิดการบริโภคพลังงานจากแบตเตอรี่มากกว่าเช่นเดียวกัน ซึ่งนั่นก็เป็นเหตุผลสำคัญที่ว่าทำไมสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์จึงจำเป็นต้องมีแบตเตอรี่ความจุสูงกว่า เพื่อให้สามารถใช้งานได้นานต่อเนื่องเท่ากับ iPhone 6 ที่มีแบตเตอรี่ความจุน้อยกว่า
2. การแช่แข็งแอพฯ ของระบบMutitasking
ระบบ Mutitasking เป็นฟังก์ชั่นที่ดึงมาเป็นข้อเด่นของ Android ทั้งหลายแหล่ เลยก็ว่าได้ แต่สำหรับiOS แล้ว Mutitasking คืองานที่ไม่มีอยู่จริง
เพราะไอโอเอสจะสละบางอย่างเพื่อให้ผลลัพธ์ของงานออกมาดีที่สุด นั่นคือMutitasking ของระบบ iOS จะไม่มีการประมวลผลพื้นหลังเด็ดขาด แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าระบบจะปิดแอพฯ เหล่านั้น สิ่งที่ระบบ iOS ทำ คือการแช่แข็งแอพฯ เพื่อรอการเรียกใช้งานต่อไปต่างหาก
ในขณะที่แอนดรอยด์ทำงาน MutiTasking เหมือนคอมพิวเตอร์ ทุกงานที่ผู้ใช้เรียกใช้งานอยู่เมื่อผู้ใช้สลับแอพฯ แอพฯเหล่านั้นจะมีการทำงานพื้นหลัง ซึ่งทำให้กินRAM มาก จนทำให้เครื่องหน่วง ใช้งานได้ช้าลง ไม่ลื่นเท่าiOS นี่จึงเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ผู้ใช้ iOS รู้สึกใช้แล้วลื่นกว่าและ iOS ไม่จำเป็นต้องยัดแรมจำนวนมาก มาใส่ในโทรศัพท์รุ่นใหม่ๆ
3. ความเสถียรของระบบปฏิบัติการ
จริงๆ แล้วความเสถียรของระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์กับระบบปฏิบัติการiOS ก็เทียบเท่ากัน ในบางรุ่นที่ไม่การปรับแต่งอะไรใดทั้งสิ้น
แต่ถ้าเป็นอย่าง HTC ซึ่งใช้ Sense UI, Sony ที่จะใช้ Sony Timescape UI หรือซัมซุงที่ใช้ Touxhwiz ซึ่ง UI พวกนี้จะกินแรมและทรัพยากรทั้งสิ้น
ในขณะที่ iOS ระบบจะออกแบบให้งานวาดหน้าจอมีความสำคัญระดับสูงสุดของระบบ ที่เรียกว่าระดับ Real-Time คือแม้มีการเลื่อนหน้าจอมากๆ ระบบจะทุ่มการประมวลทั้งหมดไปลงที่การวาดหน้าจอ ที่บางคนเห็นว่าเมื่อมีการเลื่อนจอเร็ว เว็บถึงกับหยุดโหลดเพื่อให้เลื่อนจอให้เสร็จก่อน
ผู้ใช้ Andriod ควรเคลียร์ RAM หรือไม่
อย่างที่ทราบกันว่า อาการเครื่องหน่วงๆ ช้าๆ ใน สมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ นั้นก็มาจากมี RAM น้อยส่วนหนึ่ง รวมถึงระบบ Android นั้นมีระบบเปิดหลายโปรแกรม ซึ่งจะกินRAM มาก เครื่องก็เลยช้าตาม
RAM มากหรือน้อยให้นึกถึงโต๊ะทำงาน ลองคิดดูว่าโต๊ะกว้างๆ ก็วางแฟ้มได้เยอะ สลับงานไปมาคล่องดี แค่เอาแฟ้มตรงหน้าไปวางตรงส่วนที่ว่างของโต๊ะแล้วหยิบแฟ้มอื่นมาวางตรงหน้า
แต่หากเป็นโต๊ะแคบๆ ต้องเลือกแฟ้มที่ไม่ค่อยได้ใช้งานไปลงลิ้นชักพอตอนจะใช้ก็ต้องหยิบเอาแฟ้มที่วางอยู่หน้าเราออกไปก่อนแล้วเอาแฟ้มในลิ้นชักมาวาง ความช้ามันก็จะเกิดขึ้น
ซึ่งทุกวันนี้ก็จะมีแอพพลิเคชั่นที่ใช้เคลียร์แรม ออกมาให้โหลดมาใช้กัน หากถามว่าผู้ใช้งานจะเคลียร์RAM ได้ไหม..ได้ครับ แต่ไม่นิยม และไม่แนะนำให้เคลียร์RAM เพราะไม่ว่าRAM จะว่าง หรือโหลดจนเต็มRAM มันก็กินไฟฟ้าเท่าๆ กันอยู่ดี
และโปรแกรมพวกtask killerที่ไว้เคลียร์โปรแกรม ซึ่งหลายคนเชียร์กันให้ใช้ จริงๆแล้วไม่จำเป็นต้องใช้ครับ เพราะว่าตัวระบบ สมมุติว่า มันจะปล่อยโต๊ะให้ว่างแค่10% พอเราเคลียร์โต๊ะให้ว่างหมดเลย เจ้าระบบปฏิบัติการ มันก็หยิบแฟ้มจากลิ้นชักมาวางให้อีก เราก็สั่งเก็บ มันก็เอามาวาง ทำให้ชักลิ้นชักเข้าออกอยู่อย่างนั้นแหละ มันทำให้เปลืองแบตเพราะเดี๋ยวโหลดเดี๋ยวปิดอยู่ได้ ฉะนั้นทางที่ดีที่สุดคือ เลือกซื้อสมาร์ทโฟนที่มีRAMเยอะๆ ที่จะวางแฟ้มทิ้งไว้ได้ น่าจะดีที่สุดครับ
ทางออกของแอนดรอยด์ ณ ตอนนี้ เพื่อให้ใช้งานได้อย่างลื่นไหลทั้งหมด คือ การเพิ่มแรม เพิ่มความเร็วซีพียู แต่ถ้างบน้อยก็ขอแนะนำ Greenify เพื่อเป็นการปิดไม่ให้แอพฯ รันพื้นหลัง น่าจะดีที่สุด
*สามารถอ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่ Website ครับ
บทความจาก www.asiashop.co.th
ผู้แทนจำหน่าย มือถือ | แทปเล็ต | อุปกรณ์โทรศัพท์มือถือ ครบวงจร
โทร.082-0186000
โพสตอบ
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเโพสตอบได้