สนุกกับการทำอาหารยามกักตัวด้วย philips airfryer ไอเทมคู่ครัว ไม่ว่าเมนูไหนก็ไม่ใช้น้ำมัน

สนุกกับการทำอาหารยามกักตัวด้วย philips airfryer ไอเทมคู่ครัว ไม่ว่าเมนูไหนก็ไม่ใช้น้ำมัน

การ Work from Home และเรียนออนไลน์ถือเป็นความปกติแบบใหม่หรือ New Normal ที่ผู้คนเริ่มคุ้นชินมากขึ้น เช่นเดียวกับการอยู่บ้านไม่ออกไปในสถานที่สาธารณะหรือบริเวณที่มีผู้คนแออัดเพื่อป้องกันการติดเชื้อก็เป็นพฤติกรรมที่คนยุคโควิด - 19 คุ้นเคยกันมากขึ้นเช่นกัน

ขณะเดียวกันผู้คนต่างก็พยายามหากิจกรรมที่ช่วยสร้างความเพลิดเพลินระหว่างอยู่บ้านตามไลฟ์สไตล์ที่โปรดปราน หนึ่งในกิจกรรมสุดฮิตที่มาพร้อมในช่วงการกักตัวก็คือการทำอาหารหลากเมนูด้วย “หม้อทอดไร้น้ำมัน” หรือ airfryer  ตามเทรนด์รักสุขภาพที่มาแรงตลอดช่วงเวลาหลายปีก่อนหน้านี้

จุดเด่นของหม้อทอดไร้น้ำมันที่ตอบโจทย์คนรักสุขภาพได้ลงตัว

หม้อทอดไฟฟ้าชนิดนี้สามารถทอดอาหารให้สุกได้โดยใช้ลมร้อนเป่าผ่านอาหารจนสุกโดยไม่ต้องใช้น้ำมันและหากในอาหารมีน้ำมันหรือไขมันปนอยู่เมื่อเจอลมร้อนของเครื่อง airfryer ก็จะเกิดการเดือดในระหว่างกระบวนการปรุงซึ่งทำให้รสสัมผัสของอาหารแทบไม่แตกต่างจากการทอดด้วยน้ำมัน ด้วยกระบวนการทำงานแบบนี้เองที่ทำให้หลายคนมักเรียกหม้อทอดชนิดนี้ว่า “หม้ออบลมร้อน”

หม้อ อบ ลม ร้อน philips ยืนหนึ่งตลาด airfryer

นั่นเป็นเพราะค่าย Philips ได้บุกเบิกตลาดหม้อทอดไร้น้ำมันในประเทศไทยเป็นเจ้าแรกโดยชูเทคโนโลยีที่โดดเด่นคือระบบ Twin TurboStar Rapid Air ซึ่งช่วยให้อาหารร้อนเร็วและสุกอย่างทั่วถึงโดยไม่ต้องคอยกลับอาหารในระหว่างการปรุง เทคโนโลยีที่มีใน หม้อทอดไร้น้ำมัน Philips นี้จะช่วยขจัดไขมันส่วนเกินออกจากอาหารได้ถึง 90% เมื่อเทียบกับการทอดแบบใช้น้ำมันปกติ ที่สำคัญคืออาหารจะยังความอร่อยกรอบนอกนุ่มในแทบไม่ต่างกับการทอดด้วยน้ำมัน 

ส่วนตัววัสดุที่ใช้กับตัวเครื่องยังได้มาตรฐานความปลอดภัยสามารถสัมผัสกับอาหารได้โดยตรงและไม่มีปัญหาแม้จะต้องเจอกับความร้อนสูง

แต่หากใครที่ชอบเทคโนโลยีล้ำ ๆ กว่าหม้อทอดไร้น้ำมันทั่ว ๆ ไปขอแนะนำให้เลือกเป็น philips airfryer รุ่น HD9860/91 ซึ่งเป็นรุ่นที่ใช้ AI เข้ามาช่วยให้การทำงานของหม้อทอดมีประสิทธิภาพสูงขึ้น

ความเหนือกว่าของหม้อทอด philips airfryer รุ่น HD9860/91

1. ความจุที่เหนือกว่าด้วยไซส์ XXL ความจุ 1.4 กิโลกรัม ซึ่งถือว่าใหญ่ที่สุดและทรงพลังที่สุด สามารถทำอาหารในปริมาณที่มากขึ้น เช่น สามารถอบไก่ได้ทั้งตัวหรืออบขนมเค้กขนาด 3 ปอนด์ได้ง่าย ๆ หรือใช้ทำอาหารหลายชนิดได้พร้อมกันในครั้งเดียว
2. มีระบบ Smart Sensing Technology ซึ่งเป็นการนำ AI อัจฉริยะเข้ามาช่วยในการปรับอุณหภูมิและเวลาในการปรุงอาหารได้เองเพื่อให้เหมาะสมที่สุดเหมือนกับมีเชฟมืออาชีพมาช่วยปรุงอาหารให้ถึงในบ้านเพื่อให้อาหารจานโปรดมีความสมบูรณ์แบบที่สุดนั่นเอง ด้วย 2 ขั้นตอนง่าย ๆ คือ เลือกประเภทอาหารที่ต้องการแล้วกดปุ่ม “เริ่มทำงาน” หลังจากนั้นเครื่องก็จะปรับเวลาและอุณหภูมิให้โดยอัตโนมัติ
3. ใช้เทคโนโลยี Rapid Air และ Fat Removal Technology ซึ่งจะช่วยรีดน้ำมันออกจากอาหารได้มากถึง 90% จึงช่วยให้มีสุขภาพที่ดีขึ้นจากเมนูอาหารที่ปรุงสุกผ่านหม้อทอด Airfryer ใบนี้
4. มีฟังก์ชัน Smart Chef Programs เพื่อช่วยคิดและทำอาหารให้เหมือนพ่อครัวมืออาชีพ  
5. สามารถทำอาหารได้หลายเมนูทั้งการปิ้ง ย่าง อบ ทอดและการทำขนมเบเกอรี่
6. มีฟังก์ชันจดบันทึกเมนูจานโปรดไว้ในระบบเพื่อให้สามารถปรุงอาหารในแบบที่ชอบได้ทุกครั้ง
7. ลดการใช้น้ำมันและลดน้ำมันในอาหารจึงช่วยให้มีสุขภาพดีขึ้นและเหมาะกับการทำอาหารในช่วงไดเอท
8. ตะแกรงวางอาหารเป็นแบบ Non - stick ช่วยให้ล้างทำความสะอาดได้ง่ายขึ้น

หากต้องการทราบ Airfryer ราคาเท่าไร ก็ต้องตอบว่า ราคาของ airfryer ทั้ง 5 รุ่นมีความแตกต่างกันโดยอยู่ระหว่าง 7,990 - 15,990 บาท สามารถดูเพิ่มเติมได้ และหม้อทอดไร้น้ำมันของ Philips รุ่นอื่น ๆ และ หม้อหุงข้าวฟิลิปส์ ต่างก็มีฟังก์ชันการทำงานที่คล้ายคลึงกันซึ่งจะช่วยให้การทำอาหารเมนูโปรดของคุณง่ายขึ้นและยังได้สุขภาพที่ดีขึ้นในยามกักตัวอยู่บ้านอีกด้วย