สินเชื่อต่อยอดธุรกิจ และ สินเชื่อเพื่อสิ่งแวดล้อม ช่วยต่อลมหายใจให้ธุรกิจได้อย่างไร ที่นี่มีคำตอบ
การประกอบธุรกิจขององค์กรต่าง ๆ ไม่ได้มีวัตถุประสงค์แค่เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าหรือเพื่อผลกำไรเพียงอย่างเดียว แต่สิ่งที่ต้องคำนึงถึงอีกอย่างก็คือการช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมที่เปรียบเสมือนลมหายใจของโลกเอาไว้ด้วย ปัจจุบันได้มีการรณรงค์การรักษิ่งแวดล้อมและการประหยัดพลังงานมากมาย ซึ่งธุรกิจก็ต้องอาศัยสินเชื่อจากแหล่งเงินทุนต่าง ๆ เอาไว้เพื่อต่อลมหายใจได้การดำเนินธุรกิจสามารถดำเนินได้อย่างราบรื่น วันนี้จะมาทำความรู้จักว่า สินเชื่อต่อยอดธุรกิจ และ สินเชื่อเพื่อสิ่งแวดล้อม มีความหมายต่อเรื่องนี้อย่างไรบ้าง
ปัจจุบันภาครัฐโดยกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้ให้การสนับสนุนภาคเอกชนในการประกอบกิจการที่อาจก่อให้เกิดมลพิษหรือผลเสียต่อสิ่งแวดล้อม ไม่ว่าจะเป็นโรงพยาบาล โรงแรมหรือธุรกิจในภาคอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อมได้มีเงินทุนสำหรับการก่อสร้าง ปรับปรุงระบบหรืออุปกรณ์ที่ช่วยกำจัดของเสียไปจนถึงการควบคุมน้ำเสียและมลพิษให้อยู่ภายใต้ขอบข่ายที่กฎหมายกำหนด นอกจากนี้สถาบันการเงินก็มีรูปแบบในการสนับสนุนภาคเอกชนในการประกอบกิจการงานที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการรักษาสิ่งแวดล้อมเช่นกัน แต่ที่โดดเด่นคือผลิตภัณฑ์สินเชื่อของ KTC ที่มีขึ้นเพื่อธุรกิจและสิ่งแวดล้อม โดยปัจจุบันมีสินเชื่อให้เลือก คือ
- สินเชื่อต่อยอดธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็น สินเชื่อฟื้นฟูธุรกิจที่ผ่อนนานได้สูงสุดถึง 10 ปี สินเชื่อคู่ค้าพารวยช่วยที่ให้ธุรกิจมีของขายก่อนแล้วค่อยจ่ายทีหลัง หรือ สินเชื่อเสริมสภาพคล่อง ที่เป็นตัวช่วยให้ธุรกิจมีสภาพคล่องทางการเงินด้วยอัตราดอกเบี้ย 4% คงที่ต่อปี
- สินเชื่อเพื่อสิ่งแวดล้อม ที่ KTC มีขึ้นเพราะเห็นความสำคัญของความรับผิดชอบต่อสังคมในการดำเนินธุรกิจด้วยการให้สินเชื่อเพื่อการบำบัดมลพิษที่เกิดจากการดำเนินงานหรือการประกอบธุรกิจที่รับจัดสร้างให้ผู้อื่น ด้วยอัตราดอกเบี้ยต่ำสุด 2% และให้กู้นานได้ถึง 7 ปีโดยไม่ต้องชำระเงินต้น
KTC ยังมีสินเชื่อที่ได้ชื่อว่าช่วยต่อลมหายใจให้ธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็น สินเชื่อขยายธุรกิจ ที่ช่วยให้ธุรกิจมีสภาพคล่องขึ้นด้วยวงเงินกู้สูงสุด 3 เท่าของมูลค่าหลักประกัน กู้ได้ไม่เกิน 7 ปี สินเชื่อเสริมสภาพคล่อง เพื่อให้ธุรกิจมีเงินหมุนเวียนด้วยวงเงินกู้สูงสุด 1 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยคงที่ 2 ปีแรก สินเชื่อระยะยาว ที่สามารถผ่อนชำระได้นานถึง 48 เดือน หรือกระทั่ง สินเชื่อหมุนเวียน ที่ไม่ได้นำไปใช้เกี่ยวกับการดำเนินธุรกิจโดยตรง ทว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับความจำเป็นชีวิตประจำวัน อย่างเช่น สินเชื่อหมุนเวียน ส่วนบุคคล ที่ใช้เพื่อการรักษาพยาบาล เพราะหากผู้ดำเนินธุรกิจไม่สามารถประคับประคองร่างกายให้ประกอบธุรกิจต่อไปได้ก็จะเกิดผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อมที่ทำเพื่อคนทั่วไปเช่นกัน
จะเห็นได้ว่าไม่ว่าจะเป็นภาครัฐ ภาคเอกชน หรือภาคการเงินล้วนมีบทบาทสำคัญต่อการประกอบกิจการเพื่อผลประโยชน์ของส่วนรวม โดยเฉพาะบทบาทที่ช่วยในการต่อลมหายใจให้ธุรกิจอย่างสินเชื่อประเภทต่าง ๆ เพื่อเป้าหมายสุดท้ายคือการบริการที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนทั้งสิ้น ชมเพิ่มเติมที่ https://krungthai.com/th/sustainability/csr-project
โพสตอบ
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเโพสตอบได้