สัญญาณเตือนภาวะ “Burnout” หาให้เจอก่อนพนักงานหมดไฟ!
สภาวะ Burnout เป็นยังไง?
ศัพท์นี้เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกในปี 1970 โดย Herbert Freudenberger นักจิตวิทยาสังคมชาวเยอรมันเป็นผู้ศึกษาเล่าเรียนการเกิดนี้และก็พบว่า ในตอนที่เศรษฐกิจกำลังเจริญก้าวหน้ามีบริษัทรวมทั้งร้านค้ากำเนิดใหม่หลายชิ้นซึ่งอาจมีประธานประสบการณ์น้อยเป็นส่วนมาก ทำให้ดูแลงานแล้วก็วางระบบการทำงานได้ไม่ดีเพียงพอ ผลตอบแทนไม่คุ้ม ผลประโยชน์ไม่ตอบปัญหา บุคลากรพบเจอกับแรงกดดันสูง นำมาซึ่งสภาวะ Burnout และก็พากันลาออกจำนวนไม่ใช่น้อย
สิ่งที่ทำให้เกิดสภาวะ Burnout ภาวะหมดไฟในการทํางาน
1.แรงบันดาลใจ (Motivation)
สิ่งนี้เป็นแรงผลักดันสำคัญที่ทำให้คนเป็นสุขกับชีวิตรวมทั้งงาน ถ้าเกิดงานที่ทำอยู่มีสิ่งจูงใจที่มากพอเพียง ยกตัวอย่างเช่น ความท้าในงาน การบรรลุเป้าหมายในงาน ช่องทางสำหรับการเจริญก้าวหน้า การได้รับการชมเชย ทีมเวิร์กที่ดี รวมทั้งคุณประโยชน์ของงานที่ทำ ฯลฯ
2.เหตุเกื้อหนุน (Hygiene)
เหตุเกื้อหนุน คือ ปัจจัยภายนอกที่ทำให้พึงใจในงาน อาทิเช่น ผลประโยชน์ ค่าแรงงาน ระบบการทำงาน เครื่องมือและอุปกรณ์สำหรับช่วยในด้านสำหรับอำนวยความสะดวก สิ่งแวดล้อม ความเชื่อมโยงกับคนภายในหน่วยงาน และก็การมี Work Life Balance ฯลฯ
5 สัญญาณเตือน Burnout Syndrome
1.คุณภาพของงานต่ำลง
2.ดูหมองไม่สดใสอยู่เสมอเวลา
3.ไม่กล้าเสนอความเห็นอะไร
4.แยกตัวแล้วก็มีความเกี่ยวข้องกับคนที่อยู่รอบข้างลดน้อยลง
5.มองปราศจากความสุขตลอดระยะเวลา
แก้ Burnout ก่อนสาย แก้ได้ด้วยตัวเอง
ไม่มีอะไรจะรังแกพวกเราได้พอๆกับพวกเรากระทำตนของพวกเราเอง อาการ Burnout เริ่มปรับแก้ได้ด้วยตัวเอง อย่างแรกที่จะต้องทำเป็นรู้เรื่องตัวเองก่อนว่าพวกเรากำลังอยู่ในภาวการณ์ Burnout จากเหตุผลใดบ้าง? หลังจากนั้นปรับ Mindset ทำความเข้าใจตนเองด้วยการมองว่า ความตึงเครียดจากงานไม่ใช่เรื่องผิดปกติ แต่ว่าก็ไม่ควรนำมาตั้งใจมากเกินความจำเป็น แล้วหลังจากนั้นเบาๆทดลองเปลี่ยนแปลงความประพฤติต่างๆในชีวิตเพื่อปรับสมดุลระหว่างชีวิตส่วนตัวรวมทั้งการทำงาน
คุ้มครองป้องกันอาการ Burnout ด้วยการเปลี่ยนแปลงความประพฤติปฏิบัติของตน
-นอนพักให้พอเพียง
-ลาพักร้อนเพื่อพักจากการทำงานบ้าง
-แปลงสภาพการณ์ห้อมล้อมในสถานที่ทำงานใหม่
-บริหารร่างกายลดความเคร่งเครียดแล้วก็เพิ่มฮอร์โมนความสบาย
-หากิจบาปที่ถูกใจมาทำเพื่อคิดว่าชีวิตยังมีอะไรมากยิ่งกว่างาน
-ลดการใช้ Social Media เพื่อลดแรงกดดันตนเอง
-แยกเวลางานออกมาจากชีวิตส่วนตัว (แม้ทำไม่ได้ ให้จัดเป็นตารางให้สมดุล)
-หาความชำนาญใหม่ๆเพิ่มความภาคภูมิใจในตนเอง
-สนทนากับคนภายในหน่วยงานอย่างไม่อ้อมค้อม ดังเช่นว่า การบอกปัญหากับหัวหน้าหรือข้างบุคคล
สรุป
อาการ Burnout หรือ ภาวการณ์หมดไฟ เป็นอาการที่เกิดสังกัดผู้คนจำนวนไม่ใช้น้อยในช่วงปัจจุบัน จะมองเห็นได้ว่าอัตราการลาออกมากขึ้นอย่างสม่ำเสมอด้วยเหตุผลที่ว่ารู้สึกหมดไฟ ผู้ที่พบเจอกับสภาวะหมดไฟจะมีความรู้สึกที่เรียกว่า หมดแพชชั่น เหนื่อยหน่าย หมดไฟ ท้อใจ และไม่ถูกใจกับงานที่ทำ
ประเด็นนี้นับว่าเป็นหัวข้อหลักที่จำเป็นต้องช่วยเหลือกันปรับแต่ง เพราะว่าแม้ปลดปล่อยให้เขาเหล่านั้นอยู่ในสภาพการณ์หมดไฟเป็นระยะเวลาที่ยาวนานบางทีอาจก่อให้เกิดการเป็นโรคหม่นหมองแล้วก็ก่อให้เกิดผลกระทบต่อชีวิตประจำวันได้
ในฐานะหน่วยงานก็สามารถช่วยบุคลากรไม่ให้ไปถึงจุดที่หมดไฟได้ด้วยการหมั่นดูอาการแล้วก็คุยกันอย่างไม่อ้อมค้อม นอกเหนือจากที่จะช่วยแก้ปัญหาระดับบุคคลภายในหน่วยงานได้แล้ว ยังช่วยคุ้มครองภาวการณ์หมดไฟได้ในระยะยาวอีกด้วย
โพสตอบ
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเโพสตอบได้