ก้าวย่างสำคัญของ RS ที่ฝ่าฝันกระแสของภาวะเศรษฐกิจ
ในขณะที่โลกของเรากำลังแย่กับภาวะเศรษฐกิจ บริษัทอาร์เอส จำกัด (มหาชน) ที่เป็นเจ้าแห่งธุรกิจพาณิชย์หลายช่องทางหรือที่เรียกว่า MPC (Multi-platform Commerce) กลับโดดเด่นสวนกระแสทำกำไรให้บริษัทมหาศาล
บริษัทอาร์เอสเป็นองค์กรหนึ่งในไม่กี่องค์กรที่สามารถต่อสู้ฝ่ากระแสของความเปลี่ยนแปลงและการถูก Disruption จากพิษของยุคสมัยมาได้ ซึ่งหลายบริษัทก็ถูก Disrupt ไปไม่สามารถดำเนินธุรกิจต่อได้ร่อแร่บาดเจ็บสาหัสหรือมีถึงขั้นที่ต้องล้มหายตายจากไปจากวงการธุรกิจก็มีให้เห็นหลากหลายกรณี แต่สำหรับ RS นั้น นอกจากจะสามารถยืนหยัดต่อสู้ฟันฝ่ามาได้อย่างรอดปลอดภัยแล้ว จนปัจจุบันนี้ RS ยังสามารถผงาดเป็นเจ้าแห่งธุรกิจพาณิชย์หลายช่องทางหรือ MPC (Multi-platform Commerce) จนหุ้น RS สามารถทำนิว - ไฮติดต่อกันในหลายไตรมาสส่งผลทำให้ปัจจุบัน บริษัทอาร์เอสคือองค์กรแถวหน้าที่ยังคงมีแนวโน้มจะเติบโตต่อไปอีกอย่างไม่หยุดยั้ง
อะไรคือกลยุทธ์สำคัญที่ทำให้ RS Group ที่เริ่มต้นจากธุรกิจแค่บริษัทตู้เพลงเล็ก ๆ ที่มีมูลค่าการลงทุนแค่ 50,000 บาท นั้นได้กลายมาเป็นองค์กรที่มีผลประกอบการมูลค่านับพันล้านในปัจจุบัน หากจะศึกษา Time Line เส้นทางเดินของ RS Group จากในวันนั้นมาจนถึงวันนี้ก็จะเห็นว่าเหตุผลที่ทำให้อาร์เอสบริษัทในเครือยังสามารถยืนหยัดอยู่ได้นั้นประกอบไปด้วยปัจจัยหลายประการด้วยกัน ที่สำคัญก็คือการที่บริษัทมีทีมผู้บริหารที่เก่งกาจมีวิสัยทัศน์และเร็วต่อการปรับตัว สามารถวางกลยุทธ์การตลาดที่แตกต่างและยังมีจุดเด่นเป็นของตัวเองยกตัวอย่างเช่น ธุรกิจสื่อที่หลายบริษัทนั้นยอมถอดใจวางมือเพราะไม่เห็นอนาคตเนื่องจากการมีคู่แข่งทางธุรกิจมากมายและด้วยภาวะของเศรษฐกิจที่ตกต่ำ แต่สำหรับ RS นั้นกลับรุกเข้าสู่ธุรกิจดังกล่าวและนำไปใช้ต่อยอดกับธุรกิจอื่นของบริษัทในเครือได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสบความสำเร็จอย่างท่วมท้นหรือการใช้ธุรกิจบันเทิง (Entertanment) มาผสานเข้ากันกับธุรกิจพาณิชย์ (Commerce) จนกลายเป็นกลยุทธ์ “Entertainmerce” ก็ส่งผลให้อาร์เอสเติบโตอย่างก้าวกระโดดเกินความคาดหมาย
จะเห็นได้เลยว่าการนำเอาทรัพยากรที่มีอยู่แล้วมาผสมผสานให้เข้ากับธุรกิจตัวใหม่นั้นนับว่าเป็นกลยุทธ์สำคัญของอาร์เอสที่สามารถนำพาองค์กรให้เจริญเติบโตนำหน้าบริษัทในกลุ่มเดียวกัน กล่าวคือเมื่อเข้าสู่ธุรกิจพาณิชย์ (Commerce) เต็มตัวแล้ว อาร์เอสก็ได้ดำเนินธุรกิจในรูปแบบของโมเดล “Entertainmerce” ที่ชัดเจนคือ การนำเอาธุรกิจบันเทิง (Entertainment) ที่เป็นธุรกิจเดิมมาผสมผสานให้เข้ากันกับธุรกิจพาณิชย์ตลอดจนการบริหารจัดการธุรกิจคอมเมิร์ซและธุรกิจสื่ออย่างมีประสิทธิภาพ จนทำให้สามารถสร้างปรากฎการณ์การดำเนินธุรกิจที่มีมูลค่าตามราคาตลาดรวม ณ ปัจจุบัน ที่เติบโตขึ้นเป็น 17,500 ล้านบาท (ราคาปิด ณ วันที่ 20 ก.ค. 2563) ซึ่งเป็นการเติบโตที่สูงเกือบ 6 เท่าจากวันที่อาร์เอสเข้าตลาดวันแรกกล่าวได้ว่าแม้ภาพรวมเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 2 ปี 2563 จะได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจซบเซาทั่วโลกจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด – 19 ที่ต่อเนื่องมาจากปลายไตรมาสแรกแต่ อาร์เอสกรุ๊ปกลับสร้างผลงานโดดเด่นจากความสำเร็จในการใช้โมเดลธุรกิจ Entertainmerce และการปรับแผนกลยุทธ์ทางธุรกิจได้รวดเร็วสอดคล้องกับสถานการณ์นั่นเอง
อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ entertainmerce ได้ที่นี่ https://www.rs.co.th/th/เฮียฮ้อ-ยืนยัน-entertainmerce-แข็งแ/
อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ โลโก้ RS ได้ที่นี่ https://www.rs.co.th/th/rs-group-เผยโฉมโลโก้ใหม่/
โพสตอบ
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเโพสตอบได้