โบรโม ลมหายใจเทพเจ้า – ประเทศอินโดนีเซีย พิธีกรรมสำคัญ

Madamread

เริ่มเข้าขีดเขียน (28)
เด็กใหม่ (0)
เด็กใหม่ (0)
POST:28
เมื่อ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 09.55 น.

ช่วงสายเราแบ่งการทำงานออกเป็นสองทีม ช่างภาพลงไปเก็บภาพบรรยากาศในท้องทะเลทรายและบนปากปล่องภูเขาไฟ ซึ่งวันนี้บรรยากาศคึกคักผิดแผกไปจากวันอื่นๆ มาก เราได้รับคำเตือนให้ระมัดระวังทรัพย์สินให้ดี เพราะมีหัวขโมยซุกซ่อนมากับฝูงชนอยู่ไม่น้อย ส่วนผมย้อนกลับไปยังหมู่บ้านงาดาสาหรี เพื่อเก็บภาพกลุ่มผู้ช่วยของหมอผีซึ่งต้องออกเดินทางไปตามไร่และสวนของชาวบ้าน

            ผมสาวเท้าก้าวตามชายชาวเตงเกอร์ซึ่งเป็นผู้ช่วยของหมอผี พวกเขาจะเข้าไปในไร่และสวนของชาวบ้านคนใดก็ได้ เพื่อคัดเลือกผลผลิตที่ดีที่สุดออกมา ข้าวโพด ลำต้นไผ่ ผลกล้วย ดอกไม้ สิ่งของแต่ละอย่างต้องคัดเลือกเอาส่วนที่ดีที่สุดจากที่มีอยู่ เพื่อถวายระเด่นกุสุมาตามสัญญาที่มีต่อกัน เมื่อได้ทุกสิ่งครบตามต้องการ เราก็เดินทางย้อนกลับไปยังบ้านของผู้ช่วยหมอผีคนหนึ่ง ผลผลิตทั้งหมดถูกนำมาประดับเข้าบนไม้ไผ่ซึ่งตัดแต่งไว้เป็นโครงครึ่งวงกลม มองดูคล้ายกับช่อผลไม้ขนาดย่อม สิ่งนี้คือของสำคัญที่จะได้นำถวายแด่เทพเจ้าของชาวเตงเกอร์

            ผืนดินอันอุดมสมบูรณ์ด้วยแร่ธาตุต่างๆ ก่อให้เกิดผลผลิตที่ดี ซึ่งมีที่มาจากเถ้าถ่านของภูเขาไฟโบรโมที่ทับถมกันมาเป็นเวลายาวนาน บรรพบุรุษอาจมองเห็นถึงความสำคัญข้อนี้ ตำนานจึงได้ถือกำเนิดขึ้นด้วยนับเป็นกลยุทธ์อย่างหนึ่งที่สามารถทำให้ลูกหลานของพวกเขาเคารพและระลึกถึงสิ่งที่ได้เอื้อประโยชน์แก่การดำรงอยู่ของชาวเตงเกอร์ทุกชีวิต

            บ่ายวันนั้นฝนเทสายลงมาตามเวลาเดิมของมัน หลังจากที่กลับมาพบกันตามนัดหมาย ผมนั่งตรวจดูภาพและทำงานร่วมกับประสานงานในการแปลบทสัมภาษณ์ของหมอผี ก่อนที่จะแยกย้ายกันไปพักผ่อน ออมแรงไว้สำหรับคืนสำคัญคืนนี้ เพราะขึ้นตอนต่างๆ ของพิธีกรรมจะเริ่มตั้งแต่เวลาประมาณสองนาฬิกาของวันใหม่ และเสร็จสิ้นในราวสี่นาฬิกา หลังจากที่ของถวายได้ถูกส่งให้ระเด่นกุสุมาไปแล้ว

            ตลอดบ่ายวันนั้น เราทั้งหมดหลับใหลไปด้วยความเหนื่อยอ่อน ภูเขาไฟโบรโมยังคงพวยพุ่งลมหายใจของมันอยู่ท่ามกลางม่านฝนสีเทา

เมื่อความมืดได้แผ่ตัวปกคลุมไปทั่วทุกหนแห่ง ขณะเดียวกันกับที่สายหมอกและอากาศอันหนาวเย็นได้คลี่ตัวอยู่ในหุบทะเลทรายเบื้องล่างเวลาสองนาฬิกา กล้องของเราทั้งสองตัวก็เริ่มบันทึกภาพอีกครั้ง เสียงเพลงจากวงดนตรีพื้นเมืองก้องกังวานขึ้น ระคนกับเสียงพูดคุยของผู้คนจำนวนมาก ทั้งชาวเตงเกอร์ที่มาร่วมพิธี และเหล่านักท่องเที่ยวที่เดินทางมาชมเหตุการณ์ที่ไม่ได้ปรากฏอยู่ในวิถีชีวิตสามัญของพวกเขา

            ขบวนของผู้แสวงบุญชาวเตงเกอร์ นำโดยหัวหน้าหมอผีซุจาฮี ออกเดินทางฝ่าความมืดมิด ตรงไปยังสถานที่ประกอบพิธี ซึ่งก็คือบริเวณที่เสียงสุดท้ายของระเด่นกุสุมาได้เงียบหายไป พวกเขามีเพียงแสงไฟจากไฟฉายด้ามเล็ก ๆ ไม่กี่อัน เปิดบ้างปิดบ้าง ผมเพ่งมองออกไปเบื้องหน้ายากที่จะมองเห็นสิ่งใดได้ไกลกว่าหนึ่งเมตร แต่พวกเขากลับจำเส้นทางที่เดินทุกปีนี้ได้อย่างแม่นยำ

            ระหว่างทางที่มุ่งไปสู่ปุระเพื่อประกอบพิธีในหุบทะเลทรายกระหึ่มไปด้วยเสียงของเครื่องยนต์ทั้งจากมอเตอร์ไซค์และรถยนต์ แสงไฟจากทั้งสองสิ่งสาดส่องทะเลความมืด นับเป็นความแปลกแยกซึ่งได้ทำลายความสงบเงียบที่เคยมีมาในอดีตให้หมดสิ้นไป ตำนานไม่เคยระบุถึงสิ่งเหล่านี้ไว้ แต่พระเจ้าเองก็มิอาจห้ามปรามคนเหล่านี้ได้ แม้ว่าซุจาฮีจะบอกเราว่าการท่องเที่ยวไม่ก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลง ชาวเตงเกอร์ยังคงเชื่อมั่นในศรัทธาที่พวกเขามีต่อพิธีกรรมและพระเจ้า แต่ผมคิดว่าผมกำลังเดินผ่านไปบนความเปลี่ยนแปลงบางอย่างที่มาพร้อมกับการท่องเที่ยว

            บ่อยครั้งเหลือเกินที่ผมพบว่า ความไม่เข้าใจของนักท่องเที่ยวได้ทำลายความงดงามที่มีมาแต่เดิม แต่สิ่งที่เลวร้ายกว่าความไม่เข้าใจ ก็คือการไม่พยายามทำความเข้าใจนั่นเอง

            เมื่อขบวนมาถึงปุระ ตรงประตูทางเข้าก็ถูกกันไว้ให้แต่เฉพาะชาวเตงเกอร์ที่มาแสวงบุญเท่านั้นที่จะผ่านเข้าไปได้ บรรยากาศด้านในแตกต่างจากด้านนอกอย่างสิ้นเชิง ความสงบนิ่งแผ่ไปทั่วบริเวณ ทุกคนร่วมกันสวดภาวนา โดยมีหมอผีและพราหมณ์เป็นผู้นำบทสวดบูชาเทพเจ้าของพวกเขา แม้ว่าในการเดินทางคราวนี้เราได้มีคำถามต่อชาวเตงเกอร์ว่าพวกเขาคือฮินดูหรือไม่ คำตอบที่ได้คือไม่ แต่พวกเขาก็มิได้ปฏิเสธว่าบางสิ่งในพิธีกรรมคือฮินดู เช่นที่มันได้ปรากฏอยู่ในบทสวดของพิธีกรรมสำคัญในคืนวันเพ็ญนี้ ที่มีถ้อยคำกล่าวถึงพระศิวะ นารายณ์ แว่วให้ได้ยิน

            สายหมอกเคลื่อนตัวผ่านพ้นไป ผมมองเห็นแสงจันทร์กระจ่างอาบไล้อยู่ทั่วทุกบริเวณ ใกล้เวลาสี่นาฬิกาเข้ามาทุกขณะ ผมออกมาจากปุระพร้อมกับขบวนเครื่องเซ่นที่ถูกนำขึ้นไปโยนบนปากปล่อยภูเขาไฟ เพื่อถวายแต่ระเด่นกุสุมาให้ตรงตามเวลาที่เสียงสุดท้ายแว่วหายไป กล้องอีกตัวรออยู่บนปากปล่องแล้ว

            ผมค่อยเคลื่อนตัวไปอย่างช้าๆ ท่ามกลางฝูงชนจำนวนมหาศาลบนบันไดที่ทอดตัวนำเราขึ้นไปบนปากปล่องเบื้องบน ทุกปีอาจมีผู้คนเดินทางมาดูเทศกาลเกโซโดเพิ่มมากขึ้น บนปากปล่อยจึงมิใช่แต่ชาวเตงเกอร์เช่นในอดีต รวมทั้งจุดมุ่งหมายมากมายที่เพิ่มขึ้นในวันนี้ การค้าเสียงเพลงร็อก หัวขโมย ภาพชีวิตแปลกตา ประสบการณ์ชีวิตแปลกใหม่ปรากฏ ณ ยอดภูเขาไฟโบรโม แต่สำหรับชาวเตงเกอร์แล้วพวกเขายังคงมีจุดมุ่งหมายเดียว ความศรัทธานั่นเองคือสิ่งที่นำพวกเขาให้กลับขึ้นมาที่นี่ทุกๆ ปี

แสงของวันใหม่เริ่มส่องสว่างขึ้น หลังจากของถวายได้ถูกส่งไปตามสัญญาที่มีต่อกัน อรุณรุ่งวันนั้นก่อนจากภูเขาไฟศักดิ์สิทธิ์เพื่อเดินทางกลับเมืองไทย ทีมงานซึ่งเป็นชายหนุ่มสามคนจากเมืองไทยก็ตัดสินใจเดินรอบปากปล่อยภูเขาไฟโบรโม ซึ่งมีระยะทางประมาณสามถึงสี่กิโลเมตร เพื่อสัมผัสกับความงดงามและความเคร่งขรึมของธรรมชาติอันยิ่งใหญ่

            มุมหนึ่งบนปากปล่องภูเขาไฟ ผมวางกระทงใบเล็กๆ ที่ชาวเตงเกอร์ใช้เป็นส่วนประกอบในการบูชา มีดอกไม้สีสวยอยู่ในนั้นไว้บนปากปล่อง โยนเศษเงินขึ้นไปในอากาศลอยล่องสู่เบื้องล่าง สงบนิ่ง และอธิษฐาน...

จากหนังสือ ท่องแดนอาเซียน สำนักพิมพ์สถาพรบุ๊คส์

 

โพสตอบ

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเโพสตอบได้

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา