รู้เรื่องได้ไว future simple tense พร้อมแบบอย่างวิธีการใช้
ถ้าเกิดเอ่ยถึงอนาคต คงจะหนีไม่พ้น Future Simple Tense ไปได้แน่ๆ ซึ่งจะใช้เอ๋ยถึงเรื่องราวที่ยังไม่เกิดขึ้น กำลังจะเกิดขึ้น และก็ตั้งมั่นจะให้เกิดขึ้นนั่นเอง
องค์ประกอบของ Future SimpleหมายถึงSubject + will + V.infinitive แต่ว่าเว้นเสียแต่ Will แล้ว ยังมีคำกริยาอื่นซึ่งสามารถใช้แทนกันได้ด้วย
การใช้ future simple tenseใช้เมื่อไร
ใช้กับสถานะการณ์ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในอนาคต มักมี Adverb of Time หรือคำควบคุมเวลา ดังเช่นว่า
- Tomorrow วันพรุ่ง
- Next week อาทิตย์หน้า
- Next month เดือนหน้า
- Next year ปีถัดไป
- Soon เร็วๆนี้
- Shortly เร็วๆนี้
- In the future ในอนาคต
- In a short time ในเวลาอันใกล้
- This evening เย็นนี้
- This afternoon บ่ายนี้
- This Monday วันจันทร์นี้
- Tonight คืนวันนี้
อาทิเช่น
He will be back tomorrow.
เขาจะกลับมาวันพรุ่ง
I will go to the shopping mall this Monday.
ฉันจะไปห้างวันจันทร์นี้
Jane will travel around the world next year.
เจนจะท่องเที่ยวรอบโลกปีถัดไป
Apple will launch a new product soon.
แบรนด์ลูกแอปเปิ้ลจะออกผลิตภัณฑ์ใหม่เร็วๆนี้
ใช้สำหรับการให้คำมั่นข้อตกลง หรือเสนออะไรให้กับคนใดกันแน่
เช่น
I will pick you up at 3 o’clock tomorrow.
ฉันจะมารับคุณวันพรุ่งตอน 3 นาฬิกา
I will give you a lift to the party if you want to.
ผมจะไปส่งคุณที่งานฉลองถ้าหากคุณปรารถนา
ถ้าพวกเราไม่ต้องการที่จะอยากใช้คำว่า Will ใน future simple tense พวกเราจะใช้คำอะไรแทนได้บ้าง
1 สามารถใช้ Shall แทน Will ได้ในเรื่องที่ปรารถนาสื่อความหมายดังต่อไปนี้
1.1 ใช้เพื่อแสดงความมุ่งมั่น
ดังเช่นว่า
- I shall never forget you. ฉันจะไม่ลืมเลือนคุณเลย
- We shall let you know as soon as there’s any news. พวกเราชัดเจนให้ท่านรู้เมื่อได้รับข่าวสาร
- I shall look forward to meeting you next week.ฉันจะเฝ้าคอยเจอคุณอาทิตย์หน้า
1.2 ใช้ในประโยคสำหรับถามเพื่อถามอย่างนอบน้อม ใช้กับประธาน I แล้วก็ We
เช่น
- We’ll see you at the weekend, shall we? พวกเราจะพบกันตอนสุดสัปดาห์ โอเคไหม?
- Shall we go out for dinner tonight? พวกเราไปกินมื้อค่ำกันที่ห้องอาหารดีไหม?
- Where shall I drop you off? ให้ฉันไปส่งคุณตรงไหนดี?
- Shall I call again on Tuesday? ให้ฉันโทรไปพบอีกทีตอนวันอังคารไหม?
2) to be going to + V.1 แทน Will, Shall ได้ในเรื่องที่ปรารถนาสื่อความหมายดังต่อไปนี้
2.1 ใช้กับสถานะการณ์ที่ตั้งดวงใจให้เกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้
ยกตัวอย่างเช่น
- I’m going to visit my brother on Saturday. ฉันจะไปพบพี่ชายของฉันวันเสาร์
- Jane is going to travel to Paris next month. เจนกำลังจะออกเดินทางไปกรุงปารีสเดือนหน้า
- I’m going to see a play tonight. ฉันจะไปดูละครเวทีคืนวันนี้
2.2 ใช้ประมาณเรื่องราวที่บางทีอาจเกิดขึ้น ชอบใช้กับกลุ่มคำ Subject + think (s,es)
ยกตัวอย่างเช่น
- It’s late. I don’t think he’s going to do his homework. ปัจจุบันนี้มันดึกดื่นแล้ว ฉันไม่คิดว่าเขาจะทำการบ้าน
- I think it’s going to rain. ฉันรู้สึกว่าฝนกำลังจะตก
- Her father thinks she’s going to be a professional dancer when she grows up. บิดาของคุณมีความรู้สึกว่าคุณจะเป็นนักเต้นมือโปรเมื่อคุณโตขึ้น
2.3 ใช้กับเหตุที่จะจำต้องเกิดขึ้นแน่ๆ
ดังเช่น
- My sister is going to have a baby. น้องสาวของฉันเริ่มจะมีลูก
- It’s 8.30! You’re going to miss your train. ในขณะนี้ 2 ทุ่มครึ่งแล้ว คุณกำลังจะตกรถไฟ
2.4 ในรูป was, were going to + V.1 ใช้เพื่อกล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาแล้วที่ตั้งจิตใจจะทำ แต่ว่ามิได้ทำ
อาทิเช่น
- I was going to meet you yesterday, but I forgot. ฉันตั้งอกตั้งใจจำเป็นจะต้องไปพบคุณเมื่อวานนี้ แต่ว่าฉันลืม
- I was going to go to the gym after work, but I was too tired. ฉันตั้งมั่นจะไปฟิตเนสภายหลังจากเลิกงาน แม้กระนั้นฉันเหน็ดเหนื่อยเกิน
- I was going to buy the shirt, but I forgot to bring my wallet. ฉันตั้งอกตั้งใจจะซื้อเสื้อตัวนี้ แต่ว่าฉันลืมเอากระเป๋าตังมา
แต่ว่า to be going to + V.1 ไม่สามารถที่จะใช้กับเหตุในอนาคตที่จำเป็นต้องเกิดขึ้นอยู่แล้ว ตัวอย่างเช่น
- จะไม่ใช้ Today is Tuesday. Tomorrow is going to be Wednesday.
- แต่ว่าจะใช้ Today is Tuesday. Tomorrow will be Wednesday.
และไม่สามารถใช้กับคำกริยาที่แสดงการรับทราบต่างๆอาทิเช่น
- Forget ลืม
- Understand รู้เรื่อง
- Come มา
- Know ทราบ
- Remember นึกออก
- Go ไป
ข้อสรุป
ทั้งสิ้นนี้ ก็เป็นทั้งปวงของการใช้ future simple tense ต้นแบบบริบูรณ์แล้วก็เข้าใจง่ายๆแม้ใครกันแน่ที่ยังสับสนอยู่ ก็ไม่ต้องท้อไป ทดลองกลับมาอ่านซ้ำได้เมื่อปรารถนา แล้วก็การใช้ future simple tense มิได้มีบ่อยนัก ก็เลยไม่จำเป็นที่จะต้องมาวิตกกังวลหรือกลุ้มใจมากเกินความจำเป็น การเล่าเรียนภาษาอังกฤษจะต้องใช้เวลา วันนี้พวกเราบางครั้งอาจจะยังไม่เก่ง แต่ว่าในอนาคต คุณจะเก่งขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัย ศึกษาบทความภาษาอังกฤษอื่นๆเพิ่มเติม อ่านต่อ
โพสตอบ
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเโพสตอบได้