ปล่อยให้เด็กวัยประถมได้ลองเล่น และค้นหาสิ่งที่ตัวเองชอบ เพื่อเติบโตอย่างมีคุณภาพ

looklikelove

ขีดเขียนชั้นอนุบาล (86)
เด็กใหม่ (0)
เด็กใหม่ (0)
POST:112
เมื่อ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2568 16.59 น.

 

 

ในวัยประถมศึกษา เด็กไม่ได้เรียนรู้แค่จากตำราเรียนเท่านั้น แต่ยังเรียนรู้จากโลกกว้างรอบตัว จากการลงมือทำ และจากการเล่น การปล่อยให้เด็กได้ลองเล่นและได้ค้นหาสิ่งที่ตัวเองชอบอย่างอิสระ คือการมอบของขวัญล้ำค่าที่จะหล่อหลอมให้พวกเขากลายเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพในอนาคต การเล่นไม่ใช่แค่กิจกรรมยามว่าง แต่เป็นกระบวนการเรียนรู้ที่สำคัญที่สุดในวัยนี้ การเล่นช่วยกระตุ้นความอยากรู้อยากเห็นตามธรรมชาติของเด็ก เมื่อเด็กได้เล่นอย่างอิสระ พวกเขาจะได้ตั้งคำถาม ได้ลองผิดลองถูก และได้เรียนรู้ที่จะแก้ปัญหาด้วยตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นการสร้างปราสาทจากบล็อกไม้ การทดลองผสมสี หรือการประดิษฐ์ของเล่นจากกล่องกระดาษ กิจกรรมเหล่านี้ล้วนเป็นการเรียนรู้ที่เกิดขึ้นจากความสนใจภายใน ไม่ใช่จากการถูกบังคับ การเรียนรู้ที่มาจากความสุขและความสนุกจะฝังลึกอยู่ในจิตใจของเด็กและอยู่กับพวกเขาไปตลอดชีวิต

ในช่วงวัยประถม เด็กควรได้รับโอกาสในการลองทำกิจกรรมที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการเล่นกีฬา การเรียนดนตรี การวาดรูป หรือการเข้าร่วมชมรมต่างๆ การได้ลองทำสิ่งใหม่ๆ จะทำให้เด็ก primary international school ได้ค้นพบว่าตัวเองชอบอะไร ถนัดอะไร และมีพรสวรรค์ด้านไหน การค้นพบความชอบตั้งแต่ยังเด็กไม่เพียงแต่จะช่วยให้พวกเขามีงานอดิเรกที่สร้างสรรค์ แต่ยังเป็นรากฐานสำคัญในการเลือกเส้นทางอาชีพในอนาคตอีกด้วย อย่างเด็กที่ชอบเล่นฟุตบอลอาจจะเรียนรู้เรื่องการทำงานเป็นทีมและวินัย ขณะที่เด็กที่ชอบวาดรูปอาจจะพัฒนาทักษะการคิดนอกกรอบและความละเอียดอ่อนในอารมณ์ ซึ่งทักษะเหล่านี้ล้วนเป็นคุณสมบัติสำคัญที่จะนำไปใช้ได้ในทุกๆ ด้านของชีวิต บทบาทของพ่อแม่ในขั้นตอนนี้ไม่ใช่การชี้นำหรือบังคับ แต่คือการเป็น “ผู้สนับสนุน” ที่ดี คุณพ่อคุณแม่ควรเปิดโอกาสให้ลูกได้ลองทำกิจกรรมที่หลากหลาย ให้คำแนะนำเมื่อลูกต้องการ และที่สำคัญที่สุดคือให้กำลังใจลูกไม่ว่าจะทำสำเร็จหรือไม่ก็ตาม การสร้างบรรยากาศที่ปลอดภัยและเต็มไปด้วยความรัก จะช่วยให้เด็กกล้าที่จะลองสิ่งใหม่ๆ โดยไม่ต้องกลัวความล้มเหลว เพราะพวกเขารู้ว่ามีพ่อแม่คอยอยู่เคียงข้างเสมอ และแน่นอนว่าการปล่อยให้เด็กได้เล่นและค้นหาสิ่งที่ชอบอย่างอิสระ จึงไม่ใช่การทอดทิ้ง แต่เป็นการให้อิสระทางความคิดและจิตใจที่สำคัญที่สุด การกระทำเช่นนี้จะช่วยให้เด็กเติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ที่รู้ว่าตัวเองเป็นใคร มีความสุขกับสิ่งที่ทำ และมีคุณค่าในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งเป็นเป้าหมายสูงสุดของการเลี้ยงดูอย่างมีคุณภาพ การศึกษาที่มีมาตรฐาน คือการลงทุนที่ชาญฉลาดที่สุดของประเทศที่ต้องการพัฒนาอย่างยั่งยืน เพราะการสร้างคนคือการสร้างอนาคต การสร้างประชากรที่มีความรู้ ความสามารถ และมีจิตสำนึกที่ดี คือการสร้างหลักประกันว่าประเทศจะก้าวไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน

 

โพสตอบ

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเโพสตอบได้

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา