ข้อเข่าเทียมมีกี่แบบ แบบไหนที่เหมาะกับผู้ป่วยข้อเข่าเสื่อม

GUEST1649747579

สุดยอดขีดเีขียน (565)
เด็กใหม่ (0)
เด็กใหม่ (0)
POST:1012
เมื่อ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2568 22.03 น.

ข้อเข่าเทียมมีกี่แบบ

สำหรับผู้ป่วยที่มีปัญหาข้อเข่าเสื่อม การมองหาความรู้เกี่ยวกับการผ่าตัดข้อเข่าเทียม ไม่ว่าจะเป็นการผ่าตัดข้อเข่าเทียมมีกี่แบบ การผ่าตัดข้อเข่าเสื่อมในแต่ละแบบมีวิธีการรักษาอย่างไร เหมาะกับท่านใดได้บ้าง เพื่อให้ท่านที่มีอาการข้อเข่าเสื่อมได้สามารถกลับมาดำเนินชีวิตได้อย่างปกติ ไร้กังวลในการก้าวเดินได้อีกครั้ง การออกกำลังกายอย่างไร เพื่อลดความเสี่ยงของข้อเข่าเสื่อมจะมีวิธีการใดบ้าง การลดท่าออกกำลังที่หักโหมในการใช้แรงกระแทกข้อเข่า ลดการเคลื่อนไหวที่ต้องใช้น้ำหนักกดทับข้อเข่า ซึ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ก่อให้เกิดอาการเข่าเสื่อมได้ บทความนี้มีคำตอบ

 

ทำความเข้าใจกับการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียมว่าเป็นอย่างไร สำคัญแค่ไหนกัน ? 

การผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียม (Total Knee Replacement) คือ การผ่าตัด / การรักษาข้อเข่าเสื่อมที่มีสาเหตุมาจาก การเสื่อมของกระดูก รูปกระดูกเกิดผิดรูป กระดูกอ่อนเกิดความสึกหรอ บางท่านกระดูกอ่อนถูกทำลายลง จนก่อให้เกิดกลไกการทำงานของข้อเข่าเสียหาย ไม่สามารถรองรับการกระจายน้ำหนัก – แรงกระแทกได้อย่างมีประสิทธิภาพอย่างที่ควรเป็น ซึ่งทำให้กระดูกข้อเข่าบางส่วนได้รับน้ำหนักจาร่างมากกว่าปกติ ส่งผลให้เกิดอาการข้อเข่าเสื่อมตามมาได้ 

 

ในบางรายจะรู้สึกเจ็บในบริเวณหัวเข่า หรือข้อเข่า หากเมื่อเดิน นั่ง ยืนอยู่ก็มักจะได้ยินเสียงในข้อเข่า โดยอาการเหล่ามักจะเกิดขึ้นในผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 40 ปีขึ้นไป บางท่านสามารถรักษาอาการข้อเข่าเสื่อมได้ด้วยการรักษาสุขภาพ ควบคุมน้ำหนัก ออกกำลังตามคำแนะนำของแพทย์เฉพาะทาง เพื่อสามารถสร้างกล้ามเนื้อต้นขาให้แข็งแรง แต่เมื่ออาหารข้อเข่าเสื่อมไม่ดีขึ้น การผ่าตัดด้วยข้อเข่าเทียมจึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือก ด้วยการผ่าตัดผิวข้อเข่าในส่วนที่มีปัญหา / ในส่วนที่เสื่อมออกมา แล้วจึงแทนที่ด้วยโลหะสังเคราะห์ 

 

ซึ่งการผ่าข้อเข่าเทียม วัสดุและโลหะสังเคราะห์ส่วนใหญ่ในการผ่าตัดมักจะเป็น 

  • โครเมียม 
  • เซรามิก 
  • ไทเทเนียม 
  • โคบาล 
  • รวมถึงพลาสติกทางการแพทย์ชนิดอื่น 

 

ในส่วนต่อไปเราจะมาทำความเข้าใจเกี่ยวกับข้อเข่าเทียมมีกี่แบบ เพื่อให้ท่านสามารถมองเห็นภาพได้มากยิ่งขึ้น

 

ข้อเข่าเทียมมีกี่แบบ และแต่ละแบบเหมาะกับใครบ้าง

การผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียม

ก่อนที่จะทำความเข้าใจเกี่ยวกับข้อเข่าเทียมมีกี่แบบนั้น เรามาทำความรู้จักกับข้อเข่าเทียม วัสดุที่ใช้ทำมาจากอะไร เพื่อให้ท่านสามารถวางใจกับวัสดุ / โลหะที่ใช้ในการรักษาอาการข้อเข่าเสื่อมเพื่อผ่าตัดหัวเข่าได้อย่างปลอดภัย แล้วข้อเข่าเทียมที่ใช้ทำมาจากอะไร ? คำตอบคือ โดยส่วนใหญ่อุปกรณ์การเปลี่ยนข้อเข่าเทียม มักจะทำมาจากวัสดุอย่างเดียวกันนั่นก็คือ โลหะอัลลอยด์ และแผ่นรองโพลีเอทิลีน (Polyethylene) ซึ่งเป็นพลาสติกตัวกั้นระหว่าง มีลักษณะทนทาน แข็งแรง ไม่ละลายได้ง่าย สามารถนำมาขึ้นรูปร่างตามที่ต้องการได้นั่นเอง 

 

ซึ่งการผ่าตัดข้อเข่าเทียมจะมีหลายรูปแบบ ขึ้นอยู่กับอาการที่ผู้ป่วยเป็นหลัก พร้อมกับใช้ดุลยพินิจของแพทย์ที่ดูแลในการผ่าตัดนั้นเอง โดยการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียมมีกี่แบบ สามารถแบ่งประเภทของข้อเข่าเทียมได้ดังต่อไปนี้ 

 

แบบที่ 1 : UKA 

การผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียมในรูปแบบการเปลี่ยนข้อเข่าเทียมเพียงบางส่วน ( unilateral knee replacement ; UKA) เป็นการผ่าตัดข้อเข่าเทียมเพียงแค่บางส่วนด้วยการรักษาในกระบวนการผ่าเข่าเสื่อมเฉพาะที่ที่มีความเสื่อม แล้วจึงนำวัสดุที่ใช้ในการผ่าตัดเข่าเทียมมาแทนที่ โดยวัสดุที่ใช้ในการกระบวนการสามารถนำมาแทนที่ได้ในบริเวณข้อเข่าด้านนอก ข้อเข่าด้านใน กระดูกสะบ้า เป็นต้น

 

ประโยชน์ของการผ่าข้อเสื่อมด้วยรูปแบบ UKA 

  • การผ่าตัดที่ลดอาการข้างเคียงหลังจากการผ่าตัดได้ ไม่ว่าจะเป็นอาการติดเชื้อ ลดการอุดตันของเส้นเลือดในบริเวณขา รวมไปจนถึงเส้นเลือดหัวใจและสมอง เป็นต้น ทั้งยังไม่ต้องรับประทานยาหลังผ่าตัดเยอะ 
  • มีแผลผ่าตัดขนาดเล็ก อีกทั้งยังเป็นการผ่าตัดที่ท่านยังมีส่วนของข้อเข่าที่ยังมีสภาพดีหลงเหลืออยู่ดังเดิม รวมถึงท่านสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างเป็นธรรมชาติ เมื่อการผ่าตัดผ่านพ้นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

การผ่าตัดข้อเข่าเทียมรูปแบบ UKA เหมาะกับใครบ้าง 

: เหมาะกับท่านที่มีอาการข้อเข่าเสื่อมแต่ไม่เสื่อมทั้งหมด อาการที่เกิดขึ้นไม่ว่าผู้ป่วยจะอายุเท่าใดก็ตามก็จะสามารถเลือกวิธีการรักษาวิธีนี้ได้หลังจากได้รับคำแนะนำจากแพทย์ 

อีกทั้งการฟื้นฟูในการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียมรูปแบบนี้ จะเป็นการใส่วัสดุเป็นโลหะเข้าสู่ร่างกายในปริมาณน้อย ทั้งยังออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ต่อการเคลื่อนไหวให้เป็นปกติ ช่วยให้กล้ามเนื้อในบริเวณที่ผ่าตัดสามารถฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว สามารถขยับร่างกายได้ดีมากกว่าช่วงมีอาการเข่าเสื่อม โดยใช้ระยะเวลาในการฟื้นตัวประมาณ 6 สัปดาห์หลังการผ่าตัด ซึ่งอายุการใช้งานการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียมรูปแบบ UKA จะมีอายุการใช้งานได้โดยประมาณ 50 ปี

 

แบบที่ 2 :TKA 

การผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียมในรูปแบบเปลี่ยนข้อเข่าเทียมทั้งหมด ( total knee replacement ; TKA)  เป็นการผ่าตัดข้อเข่าเทียมทั้งหมด หรือที่เข้าใจว่าเป็นผ่าตัด tka คือ การรักษาอาการเข่าเสื่อมด้วยการตัดเอาส่วนที่ผิวข้อเข่ามีอาการสึกหรอ / เสื่อม ออกมาทั้งหมด ในบริเวณด้านใน - ด้านนอกหัวเข่า รวมถึงบริเวณกระดูกสะบ้าเข่า เพื่อนำเอาวัสดุ / โลหะที่เป็นเข่าเทียมแทนที่ข้อเข่าที่เป็นปัญหานั้นเอง 

 

ประโยชน์ของการผ่าตัดเข่าเทียมด้วยวิธี TKA นั้นจะช่วยให้ผู้ป่วยที่ประสบปัญหาอาการเข่าเสื่อม ข้อเข่าสึกหรอได้ลกข้อผิดพลาดที่อาจเกิดจากผ่าตัดลงได้ โดยการผ่าตัดด้วยรูปแบบนี้จะเหมาะกับ

  • ผู้ป่วยที่ใช้วิธีการรักษาด้วยวิธีการเบื้องต้นอย่างการออกกำลังกายตามแพทย์แนะนำ การรักษาสุขภาพ การรักประทานอาหาร และการลดน้ำหนัก
  • ผู้ป่วยที่มีอาการของข้อเข่าเสื่อม ข้อเข่าสึกหรอ ส่งผลให้ไม่สามารถดำเนินชีวิตประจำวันได้ตามปกติ
  • รวมถึงผู้ป่วยที่มีอาการเจ็บปวดจากข้อเข่าเสื่อมตั้งแต่กระดูกอ่อนสึกหมดจนถึงขั้นกระดูกเข่าชนกัน

 

การฟื้นฟูหลังการผ่าตัดด้วยวิธี TKA

อาการหลังจากกระบวนการผ่าตัด ร่างกายจะฟื้นฟูเป็นปกติได้หลังจากการผ่าตัดภายใน 2 ปี เนื่องจากเป็นการผ่าตัดที่นำวัสดุ / โลหะเข้าสู่บริเวณเข่าที่มีการเสื่อมทั้งหมด ร่างกายของเราจึงมีกระบวนการปรับตัวให้เข้ากับวัสดุบางท่านอาจเกิดการอักเสบได้ บางรายหลังจากผ่าตัดประมาณ 3 – 6 เดือนแรกมักจะเกิดความรู้สึกเจ็บ ตึง ปวดเข่าในบริเวณผ่าตัด ส่งผลให้ขั้นตอนการขยับร่างกายไม่เป็นไปอย่างธรรมชาติ เมื่อระยะเวลาผ่านไปอาการเหล่านี้จะดีขึ้นตามลำดับ

การผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียมในรูปแบบเปลี่ยนข้อเข่าเทียมทั้งหมด (TKA) จะมีอายุการใช้งานตามการใช้งานของผู้ป่วยเอง เนื่องจากวัสดุที่ใช้ในการรองรับการผ่าตัดข้อเข่าเทียมจะเป็นวัสดุแผ่นรองที่ไม่สามารถเคลื่อนได้เอง จึงจะสึกกร่อนตามการเคลื่อนไหวของผู้ป่วย ซึ่งจะมีโอกาสผ่าตัดซ้ำได้หากเมื่อแผ่นวัสดุรองเข่าเกิดสึกในระยะเวลาประมาณ 15 – 20 ปี

 

ก่อนเข้ารับการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียม ข้อควรรู้ที่สำคัญมีอะไร

เมื่อท่านเข้าใจแล้วว่าข้อเข่าเทียมมีกี่แบบ การรู้ข้อควรรู้ที่สำคัญก่อนท่านตัดสินใจในการเข้ารับการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียม คือ

  • หากเมื่อผู้ป่วยมีอาการที่เข้าข่ายข้อสงสัยเกี่ยวกับข้อเข่าเสื่อม ท่านควรสังเกตตนเอง สังเกตความรู้สึกเจ็บปวด เสียดทานในบริเวณหัวเข่าในทุกท่าทั้งการเดิน การยืน การนั่ง 
  • ลดกิจกรรมที่สามารถเกิดแรงกระแทกต่อหัวเข่าได้ ไม่ว่าจะเป็นการ นั่งยอง ๆ คุกเข่าเป็นเวลานาน การวิ่ง การยกของหนัก การเดินขึ้นบันไดที่มีความชันมาก 
  • หากมีอาการเจ็บควรรับประทานยาแก้ปวด แต่หากอาการเจ็บยังไม่หายควรรีบปรึกษาแพทย์ไม่ควรปล่อยความเจ็บไว้นาน
  • การออกกำลังกายบริหารกล้ามเนื้อเพื่อให้มีการเคลื่อนไหวมั่นคงไม่กระทบต่อหัวเข่ามากนัก
  • หากเมื่อท่านได้รับการฉีดยาลดการอักเสบของข้อเข่า เพิ่มการหล่อลื่นของข้อเข่าแล้ว แต่ยังไม่ได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการ การเลือกผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียมก็อาจเป็นทางที่ช่วยระงับความเจ็บปวดได้
  • ผู้ป่วยควรเข้ารับการตรวจสุขภาพประจำปีเป็นประจำ เพื่อเช็คอาการเจ็บปวดจากข้อเข่าเสื่อม และหาแนวทางการรักษาได้

 

การดูแลและฟื้นฟูหลังการผ่าตัดข้อเข่าเทียม เป็นอย่างไรบ้าง

นอกจากการทราบถึงกระบวนการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียมมีกี่แบบในเบื้องต้นแล้ว การรู้วิธีการดูแลตนเอง / ดูแลผู้ป่วยหลังเข้ารับการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียมก็เป็นอีกสิ่งที่สำคัญที่ไม่ควรละเลยได้ ซึ่งต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด เพื่อสามารถป้องกันเหตุฉุกเฉิน รวมถึงภาวะแทรกซ้อนที่เป็นอันตรายต่อผู้ป่วยได้ จะมีวิธีการดูแลตนเอง ดังนี้ 

  • หลังจากการผ่าตัดผู้ป่วยจะมีสายระบายเลือด รวมถึงสายสวนปัสสาวะ สายน้ำเกลือ ท่านควรยกปลายเท้าให้สูงกว่าระดับหัวใจ เพื่อลดอาการบวมจากการผ่าตัด อีกทั้งควรฝึกการขยับ ยืด ยก ปลายเท้าให้สามารถกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดได้ดีขึ้น 
  • หลังจากผ่าตัดข้อเข่าเสื่อม ท่านควรประคบเย็นในบริเวณที่ได้รับการผ่าตัด ลดความบวมของบาดแผล อีกทั้งควรฝึกทำกายภาพบำบัด การงอเขา การเหยียดขา ฝึกการเดินลงน้ำหนักให้ถูกวิธีจากนักกายภาพ และการฝึกเดินด้วยอุปกรณ์พยุงการเดิน (Walker)
  • การฝึกฝนการเดินลงน้ำหนัก พร้อมฝึกเหยียดเข่า งอเข่า ผู้ป่วยควรฝึกอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังต้องฝึกการใช้ห้องน้ำถูกวิธีการลงน้ำหนัก เพื่อให้สามารถถอดสายท่อสวนปัสสาวะได้ ลดความเสี่ยงจากการติดเชื้อจนเกิดภาวะแทรกซ้อนได้ 
  • การฝึกลงน้ำหนักด้วยการขึ้นลงบันไดโดยอยู่ในความดูแลของนักกายภาพบำบัด 
  • เมื่อผู้ป่วยผ่านเกณฑ์การประเมินในการเดิน ยืน นั่ง พยุงการเดินด้วยท่าที่ถูกต้อง แพทย์ที่ดูแลจะสามารถอนุญาตให้ผู้ป่วยกลับไปรักษาตัวที่ได้บ้านนั่นเอง 

 

ภาวะแทรกซ้อนหลังจากการผ่าตัดข้อเข่าเทียมที่ควรรู้มีอะไรบ้าง

เมื่อเข้ารับการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียมแล้วนั้น ข้อควรระมัดระวังที่ก่อให้เกิดภาวะแทรกซ้อนของการผ่าตัดจะมีด้วยกันดังนี้ 

  • การผ่าตัดผู้ป่วยอาจมีภาวะแทรกซ้อนจากการติดเชื้อได้
  • ในผู้ป่วยบางรายอาจมีอาการเลือดคั่ง / ลิ่มเลือดอุดตันต้นขา ในบริเวณที่ผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียมได้ โดยอาจจะต้องรักษาด้วยการผ่าตัดเอาก้อนเลือดคั่งออก
  • บางท่านอาจมีแผลที่ผ่าตัดเกิดการแยกออก บางท่านอาจมีเส้นเลือดในบริเวณผ่าตัด หรือใกล้เคียงฉีกขาดได้ 
  • หลังการผ่าตัดเข่าเสื่อมบางท่านอาจมีอาการข้อเข่าไม่มั่นคง 
  • ผู้ป่วยบางรายอาจถูกเส้นประสาทกดทับ / เส้นประสาทอาจถูกกระทบกระเทือนได้ 
  • อาจติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ รวมถึงอาจเกิดปัญหาก้านการหายใจหลังจากการผ่าตัดข้อเข่าเทียมได้
  • บางรายอาจเสียชีวิตจากอาการแทรกซ้อนต่าง ๆ ที่ตามมาหลังการผ่าตัด 

 

ข้อเข่าเทียมมีกี่แบบ และควรเลือกแบบไหนดี

จากข้อมูลที่ได้กล่าวไปเบื้องต้น ขั้นตอนการผ่าตัดข้อเข่าเทียมมีกี่แบบ สามารถรักษารูปแบบไหนจึงจะเหมาะสมกับตัวผู้ป่วย วิธีที่ได้ประสิทธิภาพมากที่สุดนั่นคือการเข้ารับคำปรึกษาจากแพทย์เฉพาะทาง เพื่อหาแนวทางการแก้ไขได้อย่างถูกต้อง อีกทั้งยังช่วยให้ท่านได้สามารถเตรียมตัวเข้ารับการรักษาได้อย่างถูกวิธีจนสามารถกลับมาเดินได้อย่างเป็นปกติ 

แต่อย่างไรก็ตามการสำรวจตนเองจากปัญหาสุขภาพร่างกายของตนเอง ซึ่งเราไม่ควรละเลยอาการเตือนเบื้องต้นจนก่อให้เกิดปัญหาใหญ่ในการผ่าตัดที่กระทบการดำเนินชีวิต การดูแลร่างกาย การตรวจสุขภาพประจำปีจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งนั่นเอง

โพสตอบ

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเโพสตอบได้

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา