เช็กลิสต์ 12 อุปกรณ์ช่วยเหลือผู้ป่วยติดเตียงที่ควรมีติดบ้าน

wangcassie

ขีดเขียนชั้นอนุบาล (85)
เด็กใหม่ (0)
เด็กใหม่ (0)
POST:119
เมื่อ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2568 16.55 น.

หนึ่งในสิ่งที่ทำให้ผู้ที่ต้องดูแลผู้ป่วยติดเตียงหรือผู้สูงอายุเกิดความกังวล คือการไม่มีอุปกรณ์ที่สามารถรองรับการดูแลผู้ป่วยได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งในปัจจุบันมีอุปกรณ์ช่วยเหลือผู้ป่วยที่ควรมีเอาไว้ โดยเฉพาะหากต้องดูแลผู้ป่วยในที่พักอาศัย เพราะนอกจากจะช่วยแบ่งเบาผู้ดูแลให้เบาแรงลงแล้ว ยังช่วยให้ผู้ป่วยรู้สึกสบายตัวอีกด้วย 

แต่จะมีอุปกรณ์ช่วยเหลือผู้ป่วยประเภทใดบ้างที่สามารถช่วยอำนวยความสะดวกให้ทั้งผู้ป่วยและผู้ดูแล เรามีลิสต์อุปกรณ์แนะนำมาฝากกัน 

 

1.เตียงผู้ป่วย: เตียงผู้ป่วยที่ปรับระดับได้มีความสำคัญอย่างมาก เพราะช่วยให้สามารถปรับท่าทางของผู้ป่วยได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็นการปรับศีรษะสูงขึ้นเพื่อป้อนอาหาร ปรับระดับขาเพื่อลดอาการบวม หรือปรับให้ผู้ป่วยพลิกตัวได้สะดวกขึ้น บางรุ่นยังมีฟังก์ชันพิเศษ เช่น ราวกั้นเตียงเพื่อความปลอดภัย ล้อเลื่อนล็อกได้เพื่อความสะดวกในการเคลื่อนย้าย และช่องสำหรับแขวนน้ำเกลือ

2.ที่นอนลม: สำหรับผู้ป่วยที่ต้องนอนบนเตียงเป็นเวลานาน ที่นอนลมจะช่วยกระจายแรงกดทับ ลดความเสี่ยงในการเกิดแผลกดทับ ซึ่งเป็นภาวะแทรกซ้อนที่พบบ่อยและรุนแรงในผู้ป่วยติดเตียง มีทั้งแบบลอนสลับและแบบรังผึ้ง ควรเลือกแบบที่เหมาะสมกับสภาพผิวและความเสี่ยงของผู้ป่วย ถือว่าเป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ช่วยเหลือผู้ป่วยที่ควรมีติดเอาไว้ 

3.เครื่องผลิตออกซิเจนและถังออกซิเจนสำรอง (หากจำเป็น): สำหรับผู้ป่วยที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ การมีเครื่องผลิตออกซิเจนหรือถังออกซิเจนสำรองไว้ที่บ้านจะช่วยให้ผู้ป่วยได้รับออกซิเจนอย่างต่อเนื่องตามความจำเป็น แต่ทั้งนี้ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินความจำเป็นและวิธีการใช้งานที่ถูกต้องด้วย 

4.เครื่องดูดเสมหะ: อุปกรณ์ช่วยเหลือผู้ป่วยที่มีปัญหาในการขับเสมหะ ซึ่งการมีเครื่องดูดเสมหะเอาไว้ จะช่วยเพิ่มความสะดวกในการกำจัดเสมหะออกจากทางเดินหายใจ ป้องกันการอุดตันและภาวะแทรกซ้อน เช่น ปอดอักเสบ แต่ทั้งนี้ ควรได้รับการสอนวิธีการใช้งานที่ถูกต้องจากบุคลากรทางการแพทย์ เพื่อการใช้งานที่คล่องแคล่วและถูกต้อง 

5.เครื่องวัดความดันโลหิตและเครื่องวัดออกซิเจนปลายนิ้ว: การติดตามสัญญาณชีพเป็นสิ่งสำคัญในการดูแลผู้ป่วยติดเตียง การมีเครื่องวัดความดันโลหิตและเครื่องวัดออกซิเจนปลายนิ้วไว้ที่บ้านจะช่วยให้สามารถตรวจสอบค่าเหล่านี้ได้อย่างสม่ำเสมอและแจ้งให้แพทย์ทราบหากมีความผิดปกติ

6.ปรอทวัดไข้: การวัดอุณหภูมิร่างกายเป็นประจำจะช่วยให้ทราบถึงภาวะการติดเชื้อหรือการอักเสบในร่างกาย

7.อุปกรณ์ช่วยในการขับถ่าย: เช่น หม้อปัสสาวะ กระโถน หรือเตียงถ่ายอุจจาระ เพื่ออำนวยความสะดวกและรักษาความสะอาดของผู้ป่วย ควรเลือกขนาดและรูปแบบที่เหมาะสมกับผู้ป่วยแต่ละราย

8.ผ้าอ้อมผู้ใหญ่และแผ่นรองซับ: สำหรับผู้ป่วยที่ไม่สามารถควบคุมการขับถ่ายได้ ควรเลือกขนาดที่เหมาะสมและเปลี่ยนอย่างสม่ำเสมอเพื่อสุขอนามัยที่ดีและป้องกันการเกิดผื่นผ้าอ้อม

9.อุปกรณ์ทำความสะอาดร่างกาย: เช่น อ่างอาบน้ำสำหรับผู้ป่วยติดเตียง ฟองน้ำเช็ดตัว โลชั่นบำรุงผิว แชมพูแห้ง เพื่อรักษาความสะอาดและสุขอนามัยของผู้ป่วย

10.อุปกรณ์ช่วยในการพลิกตัวและเคลื่อนย้าย: เช่น ผ้าปูเลื่อน (slide sheet) หรืออุปกรณ์ช่วยยกตัว เพื่อลดภาระของผู้ดูแลและป้องกันการบาดเจ็บทั้งต่อผู้ป่วยและผู้ดูแล

11.ครีมทาผิวและยาสำหรับแผลกดทับ (หากมี): การป้องกันและดูแลแผลกดทับเป็นสิ่งสำคัญ ควรมีครีมบำรุงผิวเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น และยาสำหรับรักษาแผลกดทับตามคำแนะนำของแพทย์

12.รถเข็น (หากผู้ป่วยสามารถนั่งได้ในช่วงเวลาสั้นๆ): รถเข็นจะช่วยให้ผู้ป่วยสามารถเคลื่อนย้ายไปยังบริเวณต่างๆ ในบ้านได้ ทำให้ผู้ป่วยรู้สึกไม่ถูกจำกัดอยู่แค่บนเตียง

แม้ว่าการดูแลผู้ป่วยติดเตียงจะเป็นสิ่งที่ท้าทาย แต่การมีอุปกรณ์ช่วยเหลือผู้ป่วยก็จะช่วยให้รู้สึกเบาแรงขึ้น อีกทั้งยังช่วยให้ผู้ป่วยได้รับประโยชน์จากอุปกรณ์เหล่านี้อย่างเต็มที่อีกด้วย 

 

แก้ไขครั้งที่ 1 โดย wangcassie เมื่อ14 พฤษภาคม พ.ศ. 2568 16.56 น.

โพสตอบ

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเโพสตอบได้

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา