รู้จักความเครียดให้มากขึ้น ด้วยคู่มือและแบบประเมินความเครียด

GUEST1649747579

สุดยอดขีดเีขียน (570)
เด็กใหม่ (0)
เด็กใหม่ (0)
POST:1022
เมื่อ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2568 20.57 น.

แบบประเมินความเครียด 

ความเครียดเป็นสิ่งที่คุ้นเคยกันดีในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงาน เรื่องส่วนตัว หรือแม้แต่สถานการณ์รอบตัวที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว หลายครั้งความเครียดก็เข้ามาโดยที่ไม่ทันรู้ตัว หรืออาจจะค่อย ๆ สะสมจนส่งผลกระทบต่อร่างกายและจิตใจในที่สุด แบบประเมินความเครียดจะเป็นเครื่องมือที่ช่วยสำรวจเพื่อทดสอบความเครียดและทำความเข้าใจระดับความเครียดในเบื้องต้น ผ่านชุดคำถามที่ออกแบบมาเพื่อให้ได้ทบทวนภาวะทางอารมณ์ ความคิด และพฤติกรรมที่อาจเกี่ยวข้องกับความเครียด

 

ภาวะเครียดเกิดจากอะไรได้บ้าง?

ความเครียดเหมือนเงาที่คอยติดตามชีวิตยุคปัจจุบัน สิ่งที่ก่อให้เกิดภาวะเครียดโดยผ่านแบบประเมินความเครียด เช่น

 

  • ปัจจัยภายนอก
  1. เหตุการณ์ในชีวิต เช่น การสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รัก, การหย่าร้าง, การตกงาน, การย้ายบ้าน, การเจ็บป่วย
  2. สภาพแวดล้อม เช่น เสียงดัง, มลพิษ, สภาพอากาศเลวร้าย, ความไม่ปลอดภัย
  3. ความกดดันในสังคม เช่น การแข่งขัน, ความคาดหวัง, การเปรียบเทียบกับผู้อื่น
  4. ภาระหน้าที่ เช่น งานที่มากเกินไป, ความรับผิดชอบที่หนักอึ้ง, ปัญหาความสัมพันธ์ในที่ทำงาน
  • ปัจจัยภายใน
  1. ความคิดและความเชื่อ เช่น การคิดลบ, การมองโลกในแง่ร้าย, ความคาดหวังที่สูงเกินไป, ความไม่มั่นใจในตนเอง
  2. บุคลิกภาพ เช่น ความสมบูรณ์แบบนิยม, ความวิตกกังวลสูง, การจัดการอารมณ์ที่ไม่ดี
  3. สุขภาพ เช่น การเจ็บป่วยเรื้อรัง, ความไม่สมดุลของฮอร์โมน

 

แบบประเมินความเครียดคืออะไร วัดอะไรได้บ้าง?

ทดสอบโรคเครียด

การตระหนักรู้ถึงสภาวะทางอารมณ์และความรู้สึกเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพูดถึง "ความเครียด" ภาวะที่สามารถส่งผลกระทบต่อทั้งร่างกาย จิตใจ และคุณภาพชีวิตโดยรวม ซึ่งแบบประเมินความเครียด คือ ชุดคำถามหรือข้อความที่ออกแบบมาอย่างเป็นระบบ เพื่อให้ได้พิจารณาและตอบตามความเป็นจริงเกี่ยวกับความรู้สึก ความคิด พฤติกรรม และอาการทางกายที่ประสบในช่วงเวลาที่กำหนด โดยทั่วไปแล้วคำถามเหล่านี้จะมุ่งเน้นไปที่ประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องกับความกดดัน ความกังวล ความหงุดหงิด ความเหนื่อยล้า และความสามารถในการรับมือกับปัญหาต่าง ๆ โดยแบบทดสอบความเครียดนี้ไว้วัดได้หลายอย่าง ได้แก่

  • ใช้แบบทดสอบโรคเครียดเพื่อประเมินระดับความเครียดโดยรวม เพื่อให้ทราบว่าความเครียดอยู่ในระดับต่ำ ปานกลาง หรือสูง ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นในการทำความเข้าใจสถานการณ์ของตนเอง
  • ใช้แบบประเมินความเครียดในการระบุสัญญาณและอาการของความเครียด โดยคำถามจะช่วยให้ตระหนักถึงอาการทางกาย อารมณ์ ความคิด และพฤติกรรมที่อาจเป็นผลมาจากความเครียด เช่น ปวดศีรษะ นอนไม่หลับ หงุดหงิดง่าย สมาธิสั้น หรือหลีกเลี่ยงสังคม
  • สำรวจปัจจัยที่อาจก่อให้เกิดความเครียด ซึ่งบางแบบทดสอบโรคเครียดอาจมีคำถามที่เจาะจงถึงแหล่งที่มาของความเครียด เช่น เรื่องงาน ความสัมพันธ์ หรือสุขภาพ
  • ประเมินความสามารถในการรับมือกับความเครียด โดยบางแบบวัดระดับความเครียดอาจมีส่วนที่ถามถึงวิธีการที่ใช้ในการจัดการกับความเครียด ซึ่งจะช่วยให้เห็นจุดแข็งและจุดที่ควรพัฒนา
  • ติดตามการเปลี่ยนแปลงของระดับความเครียด ซึ่งหากทำแบบสอบถามความเครียดซ้ำในช่วงเวลาที่ต่างกัน จะสามารถสังเกตการเปลี่ยนแปลงของระดับความเครียดและประเมินผลของการจัดการความเครียดได้

 

ประโยชน์ของแบบประเมินความเครียดมีอะไรบ้าง

ความเครียดที่มักจะค่อย ๆ ก่อตัวและสะสมโดยที่ไม่ทันรู้ตัว ซึ่งการหันกลับมาสำรวจและทำความเข้าใจสภาวะภายในจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง และ "แบบประเมินความเครียดด้วยตัวเอง" ก็เป็นเครื่องมือที่มีคุณค่าอย่างยิ่งในการประเมินโรคเครียด ประโยชน์ของแบบประเมินภาวะเครียด ได้แก่

  • ช่วยให้ได้ "หยุด" และ "ทบทวน" ความรู้สึก ความคิด และพฤติกรรมในช่วงเวลาที่ผ่านมา ทำให้เห็นภาพรวมของสภาวะทางอารมณ์ของตนเองได้ชัดเจนขึ้น อาจตระหนักถึงสัญญาณของความเครียดที่เคยมองข้ามไป หรือเข้าใจว่าบางอาการที่รู้สึกนั้นเชื่อมโยงกับความเครียดอย่างไร
  • ช่วยให้ประเมินได้ว่าระดับความเครียดอยู่ในระดับใด ไม่ว่าจะเป็นระดับต่ำ ปานกลาง หรือสูง ซึ่งเป็นข้อมูลสำคัญในการตัดสินใจว่าจะต้องมีการจัดการหรือขอความช่วยเหลือเพิ่มเติมหรือไม่
  • ช่วยให้มองเห็น "ตัวการ" หรือปัจจัยที่อาจเป็นสาเหตุของความเครียด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงาน ความสัมพันธ์ สุขภาพ หรือภาระหน้าที่อื่น ๆ เมื่อเข้าใจที่มาของความเครียด ก็จะสามารถวางแผนรับมือหรือหลีกเลี่ยงปัจจัยเหล่านั้นได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
  • หากทำแบบวัดความเครียดเป็นระยะ จะสามารถ "ติดตาม" การเปลี่ยนแปลงของระดับความเครียดได้ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการประเมินว่าวิธีการจัดการความเครียดที่ใช้อยู่นั้นได้ผลหรือไม่ หรือเมื่อใดที่อาจต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติม
  • ผลลัพธ์จากแบบทดสอบอารมณ์และความเครียดสามารถเป็น "แรงจูงใจ" ให้เริ่มหันมาใส่ใจดูแลสุขภาพกายและสุขภาพจิตของตนเองมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการปรับเปลี่ยนวิถีชีวิต การหากิจกรรมผ่อนคลาย หรือการขอคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญ
  • การที่เป็นผู้ริเริ่มในการสำรวจและทำความเข้าใจความเครียดของตนเอง เป็นการแสดงให้เห็นถึงความใส่ใจและความรับผิดชอบต่อสุขภาพของตนเองในเรื่องโรคเครียด แบบทดสอบจะนำไปสู่ความรู้สึกของการมีอำนาจในการจัดการกับปัญหาและความท้าทายในชีวิต

 

ภาวะเครียดที่ระดับใดจึงควรพบแพทย์

ปวดศีรษะจากความเครียด

ภาวะเครียดเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นได้ในชีวิตประจำวัน แต่เมื่อทำแบบประเมินความเครียดแล้ว ความเครียดนั้นรุนแรง ต่อเนื่อง หรือส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันอย่างมาก นั่นอาจเป็นสัญญาณว่าควรไปพบจิตแพทย์หรือแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิต ได้แก่

  • ด้านอารมณ์ เช่น รู้สึกเศร้า หดหู่ หรือสิ้นหวัง มีความวิตกกังวลมากเกินไป หงุดหงิด ฉุนเฉียวง่าย รวมถึงรู้สึกเบื่อหน่าย ไม่อยากทำอะไร และรู้สึกผิด หรือไร้ค่า
  • ด้านความคิด เช่น สมาธิแย่ลง มีความคิดวนเวียนซ้ำ ๆ หวาดระแวง รวมถึงคิดถึงเรื่องการทำร้ายตัวเอง หรือฆ่าตัวตาย
  • ด้านพฤติกรรม เช่น แยกตัวไม่อยากพบปะผู้คน มีการเปลี่ยนแปลงการนอนและการกิน ใช้สารเสพติดหรือดื่มแอลกอฮอล์มากขึ้น รวมถึงมีพฤติกรรมทำร้ายตัวเอง
  • ด้านร่างกาย เช่น ปวดศีรษะบ่อย ๆ ปวดเมื่อยตามร่างกาย ท้องเสีย ท้องผูก หรือมีปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร เป็นต้น

 

สรุปเกี่ยวกับแบบประเมินความเครียด

แบบประเมินความเครียด เปรียบเสมือนเครื่องมือสำคัญที่จะช่วยให้ได้ สำรวจ สังเกต และทำความเข้าใจ ระดับของโรคเครียด ทดสอบเบื้องต้นด้วยตนเอง เพราะการทำแบบประเมินด้วยตัวเองเป็นก้าวแรกที่สำคัญ ในการหันมาใส่ใจดูแลสุขภาพใจ โดยเมื่อรู้เท่าทันความเครียด ก็จะสามารถเริ่มต้นหาแนวทางในการจัดการและรับมือกับมันได้อย่างเหมาะสม

โพสตอบ

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเโพสตอบได้

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา