เครื่องทำโอโซนอันตรายจริงหรือ? สิ่งที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจใช้งาน
เครื่องทำโอโซนอันตรายจริงหรือ? สิ่งที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจใช้งาน
ในยุคที่ผู้บริโภคไทยหันมาใส่ใจเรื่องสุขภาพและความสะอาดมากขึ้น “เครื่องทำโอโซน” กลายเป็นหนึ่งในอุปกรณ์ที่ได้รับความสนใจไม่น้อย เพราะมีการโฆษณาว่าสามารถฆ่าเชื้อโรค กำจัดกลิ่น และฟอกอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ในอีกด้านหนึ่ง ก็เริ่มมีเสียงเตือนว่า เครื่องทำโอโซนอาจเป็นอันตราย หากใช้งานผิดวิธี หรือไม่มีข้อมูลเพียงพอ
บทความนี้จะพาคุณเจาะลึกว่า เครื่องทำโอโซนคืออะไร มีประโยชน์จริงไหม และมีความเสี่ยงอะไรบ้างที่ควรระวัง โดยอิงจากแนวโน้มพฤติกรรมของผู้บริโภคไทยที่ให้ความสำคัญทั้งในแง่สุขภาพและความปลอดภัยมากขึ้น
โอโซนคืออะไร และทำงานอย่างไรในเครื่องฟอกอากาศ
โอโซน (O₃) เป็นก๊าซที่ประกอบด้วยออกซิเจน 3 อะตอม มีคุณสมบัติเป็นสารออกซิไดซ์ที่แรง สามารถทำลายเชื้อจุลินทรีย์ แบคทีเรีย และไวรัส รวมถึงช่วยกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้ดี จึงถูกนำมาใช้ในเครื่องฟอกอากาศ เครื่องล้างผัก เครื่องอบฆ่าเชื้อ หรือแม้แต่ในระบบบำบัดน้ำเสีย
เมื่อเครื่องทำโอโซนถูกเปิดใช้งาน จะปล่อยก๊าซโอโซนออกมาในอากาศ ซึ่งเข้าไปทำปฏิกิริยากับโมเลกุลของสารปนเปื้อนและทำลายโครงสร้างของเชื้อโรค จึงทำให้อากาศรู้สึก “สะอาด” ขึ้นในระยะสั้น
เครื่องทำโอโซนอาจอันตราย หากใช้อย่างไม่เหมาะสม
แม้โอโซนจะมีคุณสมบัติในการฆ่าเชื้อ แต่หากสูดดมเข้าไปในปริมาณมาก หรือในช่วงเวลานาน อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อระบบทางเดินหายใจ โดยเฉพาะในกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง เช่น:
- เด็กเล็ก
- ผู้สูงอายุ
- ผู้ที่เป็นโรคหอบหืด หรือภูมิแพ้
- ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับปอด
องค์กรอย่าง U.S. Environmental Protection Agency (EPA) และองค์การอนามัยโลก (WHO) ต่างออกคำเตือนว่า ไม่ควรใช้เครื่องทำโอโซนในพื้นที่ที่มีคนอาศัยอยู่ต่อเนื่อง โดยเฉพาะในบ้าน ห้องนอน หรือออฟฟิศที่มีการระบายอากาศไม่ดี
ตัวอย่างผลกระทบจากโอโซนต่อร่างกาย
- แสบตา แสบจมูก ไอ หรือหายใจติดขัด
- ปวดศีรษะ หรือเวียนหัว
- หากได้รับในปริมาณสูงอาจก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อหลอดลม หรือปอดอักเสบ
ข้อมูลเหล่านี้เริ่มถูกหยิบยกพูดถึงมากขึ้นในสื่อออนไลน์ไทย โดยเฉพาะในกลุ่มผู้บริโภคที่ต้องการอุปกรณ์ฟอกอากาศแต่ยังลังเลระหว่าง “ปลอดภัย” หรือ “ประสิทธิภาพสูงแต่เสี่ยง”
พฤติกรรมผู้บริโภคไทย: เริ่มตั้งคำถามกับโอโซนมากขึ้น
ในช่วงปีที่ผ่านมา มีการค้นหาคำว่า “เครื่องฟอกอากาศโอโซนอันตราย” และ “เครื่องโอโซนปลอดภัยไหม” เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดจาก Google Trends สะท้อนถึงความตื่นตัวของผู้บริโภคไทย โดยเฉพาะกลุ่มครอบครัวที่ต้องการความปลอดภัยระยะยาว
นอกจากนี้ยังพบว่า กลุ่มคนเมืองและผู้ใช้ในคอนโดมีแนวโน้มหลีกเลี่ยงการใช้โอโซนในพื้นที่ปิดมากขึ้น และหันไปเลือกเครื่องฟอกอากาศที่ใช้เทคโนโลยี HEPA หรือ UV-C ที่ปลอดภัยกว่าแทน
คำแนะนำ: ใช้เครื่องทำโอโซนอย่างไรให้ปลอดภัย
หากคุณจำเป็นต้องใช้เครื่องทำโอโซน (เช่น ในการฆ่าเชื้อห้องเก็บของ หรือพื้นที่ที่ไม่มีคนอยู่) นี่คือแนวทางการใช้งานที่ควรปฏิบัติตาม:
-
ใช้งานในพื้นที่ไม่มีผู้อยู่อาศัยขณะทำงาน
เช่น เปิดเครื่องโอโซนในห้องปิด และออกจากพื้นที่ทันที
-
ตั้งเวลาให้เครื่องทำงานอย่างจำกัด
และเปิดหน้าต่างเพื่อระบายอากาศอย่างน้อย 30–60 นาที หลังเครื่องหยุดทำงาน
-
หลีกเลี่ยงการใช้งานต่อเนื่องทุกวัน
เพื่อป้องกันการสะสมของโอโซนในพื้นที่ปิด
-
อ่านคู่มือและคำแนะนำจากผู้ผลิตอย่างเคร่งครัด
รวมถึงตรวจสอบว่ามีการรับรองความปลอดภัยจากหน่วยงานที่เชื่อถือได้
สรุป: เครื่องทำโอโซนมีประโยชน์ แต่ต้องใช้ด้วยความรู้
เครื่องทำโอโซนสามารถเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อโรคและกำจัดกลิ่น หากใช้อย่างถูกวิธีและในพื้นที่ที่เหมาะสม แต่หากขาดความรู้และใช้ในพื้นที่ที่ไม่เหมาะสม ก็อาจกลายเป็นภัยเงียบที่ส่งผลต่อสุขภาพในระยะยาวได้
ก่อนตัดสินใจซื้อหรือใช้งาน ควรชั่งน้ำหนักระหว่าง “ประสิทธิภาพ” กับ “ความปลอดภัย” และพิจารณาเทคโนโลยีทางเลือกที่อาจเหมาะสมกับสภาพการใช้งานในบ้านมากกว่า เช่น เครื่องฟอกอากาศแบบ HEPA + UV-C ที่ได้รับความนิยมในหมู่ผู้บริโภคไทยในปัจจุบัน
โพสตอบ
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเโพสตอบได้