เครื่องฟอกอากาศสำหรับโรงพยาบาล เลือกอย่างไรให้ปลอดภัยและได้มาตรฐาน

SUPERVALENTINE

เด็กใหม่ (1)
เด็กใหม่ (0)
เด็กใหม่ (0)
POST:3
เมื่อ 8 เมษายน พ.ศ. 2568 11.23 น.

เครื่องฟอกอากาศสำหรับโรงพยาบาล เลือกอย่างไรให้ปลอดภัยและได้มาตรฐาน

ในสถานพยาบาลทุกแห่ง ไม่ว่าจะเป็นโรงพยาบาลขนาดใหญ่ คลินิก หรือศูนย์ดูแลสุขภาพเฉพาะทาง การควบคุมคุณภาพอากาศไม่ใช่เพียงเรื่องของความสะอาดทั่วไป แต่เป็น “ด่านหน้า” ที่ช่วยป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรคที่อาจคุกคามทั้งผู้ป่วย บุคลากร และผู้มาเยือน

การเลือกใช้ เครื่องฟอกอากาศสำหรับโรงพยาบาล จึงต้องพิจารณาหลายปัจจัย ทั้งด้านมาตรฐานความปลอดภัย ประสิทธิภาพในการกรองและฆ่าเชื้อ และความเหมาะสมกับลักษณะของพื้นที่ใช้งาน เพื่อให้ได้ระบบที่รองรับการดูแลสุขภาพอย่างแท้จริง

เหตุผลที่โรงพยาบาลต้องใช้เครื่องฟอกอากาศเฉพาะทาง

เชื้อโรคในโรงพยาบาลไม่เหมือนที่อื่น — มีทั้งเชื้อดื้อยา เชื้อไวรัสที่แพร่กระจายได้ทางอากาศ และเชื้อที่ติดต่อได้จากละอองฝอย แม้เพียงการจามหรือพูดคุยในพื้นที่ปิด ก็สามารถทำให้เชื้อกระจายได้ไกลกว่าที่เราคิด โดยเฉพาะในพื้นที่อย่าง:

  • ห้องผู้ป่วยระบบทางเดินหายใจ

  • ห้องปลอดเชื้อ

  • ห้องพักฟื้น

  • ห้องรอที่มีคนหมุนเวียนจำนวนมาก

เครื่องฟอกอากาศในโรงพยาบาลจึงไม่เพียงแค่ “กรองอากาศ” แต่ต้อง “ยับยั้งและฆ่าเชื้อโรคได้จริง” พร้อมการรับรองจากองค์กรด้านสุขภาพ

เทคโนโลยีที่ควรมองหาในเครื่องฟอกอากาศสำหรับโรงพยาบาล

เพื่อให้มั่นใจว่าอากาศในโรงพยาบาลสะอาดและปลอดภัย เครื่องฟอกอากาศควรมีคุณสมบัติต่อไปนี้:

 

  • HEPA Filter ระดับ H13 หรือ H14

 

สามารถดักจับอนุภาคขนาดเล็กถึง 0.1 ไมครอนได้ เช่น เชื้อวัณโรคหรือไวรัสในละอองอากาศ

  • แนะนำ: ใช้ร่วมกับพัดลมแรงสูงเพื่อกระจายอากาศฟอกอย่างทั่วถึง

 

  • UV-C Germicidal Lamp

 

แสงยูวีที่ทำลาย DNA ของแบคทีเรียและไวรัส ไม่ให้สามารถแพร่ขยายได้อีก

  • เหมาะกับ: พื้นที่ปลอดเชื้อ ห้องผ่าตัด หรือห้องความดันลบ

 

  • Activated Carbon Filter

 

สำหรับดูดซับกลิ่นไม่พึงประสงค์และสารระเหยจากยา หรือวัสดุเคมีที่ใช้ในการรักษา

  • เสริม: ช่วยลดการระคายเคืองในผู้ป่วยที่มีระบบหายใจอ่อนแอ

 

  • ระบบแจ้งเตือนอัจฉริยะ

 

ตรวจสอบคุณภาพอากาศแบบ Real-time พร้อมแจ้งเตือนการเปลี่ยนไส้กรอง

  • ข้อดี: เพิ่มความมั่นใจในการใช้งานแบบต่อเนื่องตลอด 24 ชม.

พฤติกรรมผู้บริโภคและการเลือกสถานพยาบาลยุคใหม่

ในยุคหลังโควิด-19 ผู้บริโภคชาวไทยเริ่มใส่ใจเรื่อง “สภาพแวดล้อมของสถานพยาบาล” มากขึ้น ไม่ใช่แค่เรื่องคุณภาพการรักษาเท่านั้น แต่ยังรวมถึงความสะอาดของอากาศ พื้นที่รอ และมาตรการควบคุมเชื้อ

โรงพยาบาลที่มีการสื่อสารชัดเจนว่าใช้ เครื่องฟอกอากาศมาตรฐานระดับโรงพยาบาล (Medical-grade) จึงมักได้รับความเชื่อมั่นมากขึ้น และกลายเป็น “จุดขายใหม่” ที่ตอบโจทย์กลุ่มครอบครัว ผู้สูงอายุ และผู้ป่วยโรคเรื้อรัง

แนวทางเลือกเครื่องฟอกอากาศสำหรับโรงพยาบาลและคลินิก

หากคุณเป็นผู้บริหารสถานพยาบาล หรือผู้ดูแลคลินิกที่ต้องการลงทุนในระบบฟอกอากาศ สิ่งที่ควรพิจารณา ได้แก่:

  • ได้รับการรับรองมาตรฐานระดับสากล เช่น ISO 14644 (Cleanroom Standard), CE, UL หรือ FDA

  • เหมาะสมกับขนาดพื้นที่และจำนวนผู้ใช้ เพื่อให้ระบบฟอกอากาศทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ

  • มีระบบป้องกันการปล่อยโอโซน โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีผู้ป่วยหรือบุคลากรอยู่เป็นเวลานาน

  • บริการหลังการขายดี เช่น เปลี่ยนไส้กรอง ตรวจสอบระบบ และการให้คำปรึกษา

สรุป: เครื่องฟอกอากาศสำหรับโรงพยาบาลคือการลงทุนเพื่อความปลอดภัย

การมีอากาศสะอาดในสถานพยาบาลไม่ใช่แค่เรื่อง “เสริมภาพลักษณ์” แต่คือความจำเป็นเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรคอย่างมีประสิทธิภาพ การเลือกใช้เครื่องฟอกอากาศที่ผ่านมาตรฐาน และออกแบบมาเพื่อใช้งานในโรงพยาบาลโดยเฉพาะ คือการแสดงความใส่ใจในความปลอดภัยของผู้ป่วยและบุคลากรทุกคน

ในยุคที่ความไว้วางใจมาจากสิ่งเล็กๆ อย่าง “อากาศที่เราหายใจ” การลงทุนในเครื่องฟอกอากาศที่เหมาะสมคือก้าวสำคัญของโรงพยาบาลยุคใหม่

โพสตอบ

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเโพสตอบได้

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา