เจ้าของรถทุกคนควรรู้ พ.ร.บ. หมดอายุ ต่อ พ.ร.บ. รถยนต์ใช้เอกสารอะไรบ้าง?
พ.ร.บ. หมดอายุต้องทำอย่างไร ต่อ พ.ร.บ. รถยนต์ใช้เอกสารอะไรบ้าง? สรุปขั้นตอนการต่อ พ.ร.บ. พร้อมเอกสารที่ต้องใช้อย่างละเอียด อ่านเลยเพื่อไม่ให้พลาด
พ.ร.บ.หมดอายุต่อภาษีได้หรือไม่ หากไม่ต่อแล้วโดนตำรวจจับจะเสียค่าปรับเท่าใด ต่อพ.ร.บ.รถยนต์ใช้เอกสารอะไรบ้าง เป็นคำถามที่มือใหม่หลายคนสงสัยและขวนขวายหาคำตอบ โดยเฉพาะคนที่เพิ่งเคยซื้อรถยนต์เป็นครั้งแรก ซึ่งรถทุกคันทุกประเภทที่เข้ารับการจดทะเบียนที่กรมขนส่งทุกคันจะต้องได้รับการต่อ พ.ร.บ. ทุกปี จึงจะสามารถต่อภาษีรถยนต์ได้ เพราะมิเช่นนั้นแล้วหากเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจพบจะโดนค่าปรับสูงสุดถึง 10,000 บาท และหากตรวจพบว่าไม่ต่อภาษีรถยนต์ด้วยจะโดนโทษปรับเพิ่มตั้งแต่ 400 - 1,000 บาทเลยทีเดียว ทำให้หลายคนสงสัยโดยเฉพาะมือใหม่ว่า ต่อ พ.ร.บ. รถยนต์ใช้เอกสารอะไรบ้าง และมีขั้นตอนอย่างไร เพื่อที่ใครหลายคนสามารถต่อ พ.ร.บ. ให้ถูกต้อง บทความนี้จะมาให้คำตอบอย่างละเอียด
ต่อ พ.ร.บ. รถยนต์ใช้เอกสารอะไรบ้าง ?
หากต้องการต่อ พ.ร.บ. ด้วยตนเองใช้เอกสารในการต่อเพียงไม่กี่อย่าง ซึ่งประกอบไปด้วย
- บัตรประจำตัวประชาชนของเจ้าของรถ (บัตรจริงหรือสำเนา)
- เล่มทะเบียนรถ (เล่มจริงหรือสำเนา)
- พ.ร.บ. ฉบับเดิม
แต่หากต้องการต่อ พ.ร.บ. รถยนต์ผ่านช่องทางออนไลน์ไม่จำเป็นต้องใช้เอกสารดังที่กล่าวมา เพียงเข้าไปที่เว็บไซต์ที่มีบริการต่อ พ.ร.บ. ออนไลน์ อย่างเช่น เว็บไซต์ insurverse กรอกข้อมูลเจ้าของรถและข้อมูลรถให้ครบก็สามารถต่อ พ.ร.บ. ได้ทันที หรือหากไม่สะดวกยังสามารถให้ผู้อื่นต่อ พ.ร.บ. แทนได้ เพียงแต่จะต้องมีข้อมูลของรถและข้อมูลเจ้าของรถเช่นกัน
ขั้นตอนการต่อ พ.ร.บ. รถยนต์
ปัจจุบันการต่อพ.ร.บ.รถยนต์มีช่องทางในการต่อที่หลากหลาย แต่ช่องทางที่ได้รับความนิยมมากนั่นคือการต่อ พ.ร.บ. ผ่านช่องทางออนไลน์ ซึ่งเจ้าของรถสามารถทำได้ด้วยตนเองง่าย ๆ ดังนี้
- ตรวจสอบวันหมดอายุของ พ.ร.บ.เจ้าของรถจะต้องตรวจสอบวันหมดอายุของ พ.ร.บ. อย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้มั่นใจว่า พ.ร.บ. ยังไม่หมดอายุและเพื่อเป็นการเตรียมตัวในการต่ออายุล่วงหน้า ซึ่งกรมการขนส่งทางบกอนุญาตให้เจ้าของรถสามารถที่จะต่อ พ.ร.บ. ล่วงหน้าได้มากถึง 90 วัน ก่อนที่จะถึงวันหมดอายุ
- เตรียมข้อมูลเกี่ยวกับรถและเจ้าของรถที่ต้องใช้ในการต่อ พ.ร.บ.
- ติดต่อบริษัทประกันภัยออนไลน์ที่ต้องการซื้อ พ.ร.บ.
- เมื่อเลือกประเภทของ พ.ร.บ. แล้ว ให้เจ้าของรถชำระค่าเบี้ยประกันตามที่กำหนด
- เมื่อชำระเงินเป็นที่เรียบร้อย เจ้าของรถจะได้รับเอกสาร พ.ร.บ. ใหม่ ซึ่งจะมีอายุในการคุ้มครอง 1 ปี และสามารถนำเอกสารดังกล่าวไปยื่นต่อภาษีรถยนต์ประจำปีได้
เอกสารที่จำเป็นในการต่อพ.ร.บ. รถยนต์
เป็นหนึ่งในหลาย ๆ คำถามที่มักจะพบบ่อยที่สุดคือ ต่อพ.ร.บ. รถยนต์ใช้เอกสารอะไรบ้าง ซึ่งความสำคัญของเอกสารที่ต้องเตรียมไปมีดังนี้
- บัตรประชาชนของเจ้าของรถ เพื่อใช้สำหรับการยืนยันตัวตนและใช้ระบุเป็นผู้รับผลประโยชน์ในกรณีที่ประสบอุบัติเหตุหรือเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดจากอุบัติเหตุรถยนต์
- พ.ร.บ. รถยนต์ฉบับเก่า หากเคยทำ พ.ร.บ. มาก่อนให้นำ พ.ร.บ. ฉบับเก่ามาแสดงเพื่อความสะดวกในการตรวจสอบข้อมูล
- คู่มือจดทะเบียนรถยนต์ เพื่อใช้ระบุประเภทของรถ หมายเลขตัวถัง สีรถ ทะเบียนรถ ว่าตรงตามกับที่จะทำ พ.ร.บ. หรือไม่
- สำเนาเอกสารการจดทะเบียนรถ ใช้ในกรณีที่เล่มจริงติดปัญหา
- เงินสำหรับชำระค่าบริการ ให้เตรียมเงินสดหรือบัตรเครดิต/เดบิตเพื่อชำระค่าบริการตามอัตราที่กำหนด ดังนี้
- รถเก๋ง รถกระบะ 4 ประตู รถตู้ ไม่เกิน 7 ที่นั่ง ค่า พ.ร.บ. 499 บาทต่อปี
- รถกระบะ 2 ประตู ค่า พ.ร.บ. 799 บาทต่อปี
- รถตู้ ค่า พ.ร.บ. 999 บาทต่อปี
ซึ่งราคาดังกล่าวได้อ้างอิงมาจากเว็บไซต์ของบริษัทประกันออนไลน์ insurverse
จากข้อมูลข้างต้นจะเห็นว่าขั้นตอนการต่อ พ.ร.บ. รถยนต์ไม่ใช่เรื่องยุ่งยากและ ต่อพ.ร.บ. รถยนต์ใช้เอกสารอะไรบ้าง เพียงแค่เตรียมเอกสารให้พร้อมและดำเนินการตามขั้นตอนที่แนะนำ เพียงเท่านี้เจ้าของรถก็สามารถต่อ พ.ร.บ. ได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และมั่นใจได้ว่ารถของคุณจะได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายในทันที
โพสตอบ
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเโพสตอบได้