เสริมหน้าอกอย่างปลอดภัย อัปเดตข้อมูลให้พร้อมก่อนการผ่าตัด
สำหรับผู้ที่กำลังสนใจทำศัลยกรรมเสริมหน้าอก ควรที่จะพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนการตัดสินใจ เนื่องจากการเสริมหน้าอกเป็นก้าวสำคัญของชีวิตที่นอกจากความสวยงามแล้ว ยังเป็นเรื่องที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพร่างกาย และความมั่นใจในระยะยาว
บทความนี้จะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับการเสริมหน้าอกในแง่มุมต่าง ๆ ตั้งแต่ประเภทของซิลิโคนเสริมหน้าอก ไปจนถึงขั้นตอนและวิธีการดูแลตนเองหลังการศัลยกรรมนม เพื่อช่วยให้คุณได้มีข้อมูลที่เพียงพอในการตัดสินใจและเตรียมความพร้อมก่อนการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในชีวิต
เสริมหน้าอกคืออะไร?
การเสริมหน้าอก หรือที่หลายคนอาจเรียกว่า “ทำนม” “เสริมนม” หรือ “เสริมอก” คือการศัลยกรรมรูปแบบหนึ่งเพื่อเพิ่มขนาดหน้าอกให้มีความสวยงามและได้ขนาด-สัดส่วนตามที่ต้องการ โดยใช้วัสดุเทียมที่เรียกว่าซิลิโคนหน้าอกฝังเข้าไปด้านใต้เนื้อเยื่อเต้านมหรือกล้ามเนื้อหน้าอก การศัลกรรมหน้าอกจึงเป็นที่นิยมในปัจจุบันเพราะช่วยแก้ไขปัญหาหน้าอกที่มีขนาดเล็ก ไม่ได้สัดส่วน หรือมีรูปทรงที่ไม่สมมาตรอย่างที่คาดหวัง ทำให้ผู้หญิงหลายคนเลือกวิธีการทำหน้าอกเพื่อเสริมสร้างความมั่นใจให้กับตนเอง
รู้จักประเภทของซิลิโคนเสริมหน้าอก ทางเลือกไหนเหมาะกับคุณ
ก่อนที่จะตัดสินใจทำศัลยกรรมเสริมหน้าอก สิ่งสำคัญที่ควรทำความเข้าใจคือประเภทของซิลิโคนที่ใช้ในการเสริมหน้าอก ซึ่งแต่ละแบบก็จะมีคุณสมบัติและจุดเด่นแตกต่างกันไป
ซิลิโคนเจลเหลว (Liquid Silicone Gel)
ซิลิโคนชนิดนี้มีลักษณะอ่อนนุ่ม ให้ความรู้สึกและสัมผัสใกล้เคียงกับเนื้อเต้านมธรรมชาติมากที่สุด เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความสวยงามแบบธรรมชาติ อกสวยนุ่มเหมือนไม่ได้ทำศัลยกรรม แต่มีข้อควรระวังในเรื่องการรั่วซึมหากเกิดอุบัติเหตุรุนแรง
ซิลิโคนเจลเข้มข้น (Cohesive Silicone Gel)
เป็นซิลิโคนรุ่นใหม่ที่มีความเข้มข้นสูง มีความคงรูปดีกว่าแบบเจลเหลว ทำให้ลดความเสี่ยงในการรั่วซึม แม้เกิดการฉีกขาดของถุง เนื้อซิลิโคนก็จะไม่กระจายตัว ให้ความรู้สึกแน่นกระชับ การเสริมหน้าอกด้วยซิลิโคนประเภทนี้จึงเหมาะกับผู้ที่ต้องการความมั่นใจเรื่องความปลอดภัยเป็นพิเศษ
ซิลิโคนน้ำเกลือ (Saline Implants)
เป็นถุงซิลิโคนที่บรรจุน้ำเกลือ มีข้อดีคือหากเกิดการรั่วซึม ร่างกายสามารถดูดซึมน้ำเกลือได้ตามธรรมชาติ ทำให้ปลอดภัยที่สุด แต่อาจให้สัมผัสที่แข็งกว่าและไม่เป็นธรรมชาติเท่าแบบเจล นิยมใช้ในผู้ที่มีประวัติแพ้ซิลิโคนหรือกังวลเรื่องความปลอดภัยเป็นพิเศษ
เลือกขนาดเสริมหน้าอกอย่างไรให้เหมาะกับตนเอง?
การเลือกขนาดเสริมหน้าอกที่เหมาะสมไม่ได้ขึ้นอยู่กับความชอบส่วนตัวเพียงอย่างเดียว แต่ต้องคำนึงถึงปัจจัยหลายด้านเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่สวยงามและปลอดภัย ดังนี้
- สัดส่วนร่างกายโดยรวม - เพิ่มขนาดหน้าอกให้สมดุลกับส่วนสูง น้ำหนัก และโครงสร้างร่างกาย โดยคำนึงถึงความกว้างของช่วงไหล่และสะโพก เพื่อให้เนินอกที่ได้ดูสมดุล ไม่ใหญ่หรือเล็กจนเกินไป
- ความกว้างของช่องอก - ผู้ที่มีช่องอกกว้างอาจต้องเลือกซิลิโคนที่มีฐานกว้างกว่า เพื่อให้เต้านมดูเต็มและเป็นธรรมชาติ ขณะที่ผู้มีช่องอกแคบควรเลือกซิลิโคนที่มีขนาดพอเหมาะ ไม่กว้างเกินฐานอก
- ปริมาณเนื้อเต้านมเดิม - สำหรับผู้ที่มีเนื้อเต้านมน้อย การเลือกขนาดซิลิโคนต้องคำนึงถึงความหนาของผิวและเนื้อเยื่อที่จะห่อหุ้มซิลิโคน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ ไม่เห็นขอบหรือเส้นซิลิโคนชัดเจน
- ไลฟ์สไตล์และกิจกรรมประจำวัน - ผู้ที่ออกกำลังกายเป็นประจำหรือทำงานที่ต้องเคลื่อนไหวมาก ควรเลือกขนาดศัลยกรรมนมที่ไม่ใหญ่จนเกินไป เพื่อไม่ให้เป็นอุปสรรคต่อการใช้ชีวิตประจำวัน
ขั้นตอนการเสริมอกมีอะไรบ้าง?
วิธีเสริมหน้าอกมีขั้นตอนที่สำคัญดังนี้:
- การเตรียมตัวก่อนผ่าตัด (30-60 นาที)
- ตรวจร่างกายและเจาะเลือดเพื่อประเมินความพร้อม
- ถ่ายภาพก่อนทำเพื่อเปรียบเทียบผลลัพธ์
- วาดตำแหน่งและขนาดที่จะทำการผ่าตัดเสริมหน้าอก
- การดมยาสลบ (15-30 นาที)
- วิสัญญีแพทย์ให้ยาสลบแบบทั้งตัว
- ติดตั้งอุปกรณ์ติดตามสัญญาณชีพ
- การผ่าตัด (1-2 ชั่วโมง)
- เปิดแผลตามแนวที่กำหนด (มักเป็นใต้ราวนม)
- สร้างช่องใส่ซิลิโคน
- วางซิลิโคนและจัดตำแหน่งให้สมมาตร
- เย็บปิดแผลด้วยความประณีต
- การพักฟื้นในโรงพยาบาล (1-2 วัน)
- สังเกตอาการและดูแลแผลผ่าตัดเสริมหน้าอก
- ให้ยาแก้ปวดและยาปฏิชีวนะ
- สอนวิธีการดูแลตนเองที่บ้าน
การดูแลตนเองหลังเสริมหน้าอกอย่างถูกวิธี
หลังจากการทำศัลกรรมเสริมหน้าอก การดูแลตนเองอย่างถูกวิธีถือเป็นสิ่งสำคัญต่อการฟื้นตัว การดูและรักษาแผลหลังเสริมอก และผลลัพธ์ในระยะยาว ผู้ที่ทำศัลยกรรมนมควรปฏิบัติตามคำแนะนำต่อไปนี้
- รักษาแผลให้แห้งและสะอาด หลีกเลี่ยงการแช่น้ำ
- สังเกตอาการผิดปกติ เช่น มีไข้ แผลบวมผิดปกติ หรือมีหนองซึม
- พักผ่อนให้เพียงพอ ประมาณ 1-2 สัปดาห์แรก
- สวมชุดกระชับหน้าอกพิเศษตลอด 24 ชั่วโมงในช่วง 1-3 เดือนแรก
- หลีกเลี่ยงการยกของหนักหรือออกกำลังกายหนักใน 1-2 เดือนแรก
- นอนหงายยกศีรษะสูง 30-45 องศา โดยให้หลีกเลี่ยงการนอนคว่ำใน 1-2 เดือนแรก
- ระมัดระวังการเคลื่อนไหวแขนเหนือศีรษะ
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสความร้อนหรือแสงแดดจัดบริเวณแผล
- งดกิจกรรมที่อาจกระทบกระเทือนหน้าอก
เสริมหน้าอกอย่างมั่นใจ เลือกให้เหมาะกับตัวคุณ
ศัลยกรรมเสริมหน้าอกเป็นการตัดสินใจครั้งสำคัญที่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ ตั้งแต่การเลือกประเภทซิลิโคน ขนาดที่เหมาะสม ไปจนถึงการวางแผนการดูแลตัวเองหลังผ่าตัด หากคุณกำลังพิจารณาทำศัลยกรรมเสริมหน้าอก
สิ่งสำคัญที่สุดคือการเลือกโรงพยาบาลและศัลยแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ พร้อมทั้งศึกษาข้อมูลให้ครบถ้วน เพื่อให้การเสริมหน้าอกช่วยเพิ่มความมั่นใจและคุณภาพชีวิตของคุณได้อย่างแท้จริง โดยท้ายที่สุดอย่าลืมว่าผลลัพธ์ที่สวยงามและปลอดภัยเกิดจากการวางแผนที่ดีและการดูแลตัวเองอย่างถูกต้องทั้งก่อนและหลังการผ่าตัด
โพสตอบ
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเโพสตอบได้