Thai ESG คืออะไร? แนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืนในบริบทของประเทศไทย

ในยุคปัจจุบัน การดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมกลายเป็นสิ่งสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งในด้านจริยธรรม ชื่อเสียง และความยั่งยืนของธุรกิจในระยะยาว หลักการ Thai ESG หรือ Environmental, Social and Governance เข้ามามีบทบาทสำคัญในแวดวงธุรกิจไทย แต่คุณรู้หรือไม่ว่า ESG คืออะไร? มีความสำคัญอย่างไรต่อการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน และธุรกิจไทยควรนำหลักการนี้มาใช้อย่างไร?

ความหมายของ Thai ESG

Thai ESG เป็นหลักการสำคัญที่ช่วยส่งเสริมการพัฒนาอย่างยั่งยืนในมิติต่างๆ ทั้งด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับดูแลกิจการที่ดี ประกอบด้วย 3 องค์ประกอบหลัก ดังนี้

1. ด้านสิ่งแวดล้อม (Environmental)

หมายถึงการดำเนินธุรกิจที่คำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เช่น การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก การจัดการของเสียอย่างมีประสิทธิภาพ การใช้พลังงานทดแทน และการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ เป็นต้น

2. ด้านสังคม (Social)

ครอบคลุมถึงการดูแลพนักงาน ชุมชนรอบข้าง และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่ม เช่น การให้ความสำคัญกับสิทธิมนุษยชน สวัสดิการและความปลอดภัยของพนักงาน การมีส่วนร่วมในกิจกรรมเพื่อสังคม และการพัฒนาคุณภาพชีวิต เป็นต้น

3. การกำกับดูแลกิจการที่ดี (Governance)

เน้นถึงการบริหารจัดการองค์กรอย่างมีประสิทธิภาพ โปร่งใส และเป็นธรรม ด้วยหลักบรรษัทภิบาลที่ดี มีการกำกับดูแลที่เหมาะสม มีความรับผิดชอบต่อผู้ถือหุ้นและผู้มีส่วนได้เสีย ตลอดจนปฏิบัติตามกฎหมายและข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง องค์ประกอบทั้ง 3 ด้านนี้ ถือเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างความยั่งยืนและมูลค่าเพิ่มให้กับธุรกิจในระยะยาว โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อให้องค์กรสามารถเติบโตควบคู่ไปกับการรักษาสมดุลของเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม

ความสำคัญของ Thai ESG ต่อการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน

การนำหลักการ ESG มาใช้ในการดำเนินธุรกิจมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการพัฒนาประเทศไทยอย่างยั่งยืน ทั้งในด้าน

1. เศรษฐกิจ

- ช่วยสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนและผู้บริโภค ส่งผลให้ธุรกิจมีความน่าเชื่อถือมากขึ้น - เพิ่มโอกาสในการแข่งขันและเติบโตได้อย่างยั่งยืน เนื่องจากมีการบริหารจัดการองค์กรอย่างมีประสิทธิภาพ - ลดความเสี่ยงจากผลกระทบด้านลบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อต้นทุนและผลประกอบการ

2. สังคม

- ส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพชีวิตของพนักงานและชุมชนโดยรอบ - สร้างความเชื่อมั่นและการยอมรับจากสังคม ช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับองค์กร - เป็นการแบ่งปันผลประโยชน์ให้กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่ม อันจะนำไปสู่ความสามัคคีและการพัฒนาที่ยั่งยืน

3. สิ่งแวดล้อม

- ช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ผ่านการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพและการลดของเสีย - สนับสนุนการใช้พลังงานทดแทนและการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ เพื่อความยั่งยืนในระยะยาว - ตอบสนองต่อความท้าทายด้านสิ่งแวดล้อม เช่น การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และการขาดแคลนทรัพยากร ด้วยเหตุนี้ การนำหลักการ ESG มาใช้ในการดำเนินธุรกิจจึงเป็นกุญแจสำคัญที่จะช่วยผลักดันให้ประเทศไทยพัฒนาไปสู่ความยั่งยืนได้อย่างแท้จริง

การนำ Thai ESG มาใช้ในภาคธุรกิจไทย

ธุรกิจไทยหลายแห่งได้เริ่มให้ความสำคัญกับการนำหลักการ ESG มาใช้แล้ว เช่น

1. ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)

ธนาคารกรุงเทพฯ ได้จัดตั้งคณะทำงานด้าน ESG ขึ้น เพื่อกำหนดนโยบายและแนวทางปฏิบัติตามหลักการ ESG โดยให้ความสำคัญกับการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก การบริหารจัดการน้ำ การจัดการของเสีย รวมถึงการส่งเสริมสิทธิมนุษยชนและการต่อต้านการทุจริต เป็นต้น

2. บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)

ปตท. ได้กำหนดนโยบายด้าน ESG ขึ้นอย่างชัดเจน โดยมุ่งเน้นการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก การพัฒนาพลังงานทดแทน การบริหารจัดการน้ำ รวมถึงการดูแลพนักงานและชุมชน เช่น โครงการส่งเสริมการเรียนรู้ด้านวิทยาศาสตร์ เป็นต้น

3. บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)

ทรูได้ริเริ่มโครงการ "ทรูพลังคิดดี" เพื่อส่งเสริมการดำเนินงานตามหลักการ ESG โดยเน้นการลดการใช้พลังงานและทรัพยากร การส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทน การดูแลพนักงาน รวมถึงการจัดกิจกรรมเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อม เช่น โครงการปลูกป่าชายเลน เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมีบริษัทอื่นๆ อีกหลายแห่งที่ได้นำหลักการ ESG มาใช้ เช่น บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) บริษัท อิออน ธนสินทรัพย์ (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) และบริษัท ไอ.ซี.ซี. อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) เป็นต้น แสดงให้เห็นถึงความตื่นตัวของภาคธุรกิจไทยในการนำหลักการ ESG มาปรับใช้ ทั้งนี้ การนำหลักการ ESG มาใช้ในการดำเนินธุรกิจ จะช่วยสร้างความยั่งยืนและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในระยะยาว เนื่องจากเป็นการสร้างคุณค่าให้กับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นผู้ถือหุ้น พนักงาน ลูกค้า คู่ค้า ชุมชน และสังคมโดยรวม

สรุป

แนวคิด Thai ESG เป็นหลักการสำคัญที่ช่วยส่งเสริมการพัฒนาอย่างยั่งยืนทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม เพื่อให้ธุรกิจสามารถเติบโตควบคู่ไปกับการรักษาสมดุลของทรัพยากรและการแบ่งปันผลประโยชน์ให้กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่ม ธุรกิจไทยหลายแห่งได้เริ่มให้ความสำคัญกับการนำหลักการ ESG มาปรับใช้แล้ว เช่น ธนาคารกรุงเทพ ปตท. ทรู ปูนซิเมนต์ไทย อิออน และไอ.ซี.ซี. เป็นต้น