ต้อลม คืออะไร รู้จักโรคตาพบบ่อย ที่สามารถเกิดได้ทุกเพศทุกวัย

GUEST1649747579

สุดยอดขีดเีขียน (542)
เด็กใหม่ (0)
เด็กใหม่ (0)
POST:972
เมื่อ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2567 10.55 น.

ต้อลม

เคยสังเกตกันหรือไม่ว่า ตาขาวของเราบางทีก็ไม่ขาวสะอาดเสมอไป อาจมีจุดเล็กๆ สีเหลืองหรือขาวนูนขึ้นมา นั่นอาจเป็นสัญญาณของ “ต้อลม” โรคตาที่พบบ่อยในผู้ที่ต้องเผชิญกับแสงแดดเป็นประจำ เช่น คนขับรถ คนงานก่อสร้าง หรือแม้แต่คนที่ชอบไปเที่ยวทะเล มาทำความเข้าใจเกี่ยวกับโรคตาต้อลม เพื่อให้เราสามารถดูแลดวงตาของเราได้อย่างถูกวิธี และป้องกันไม่ให้เกิดภาวะแทรกซ้อนที่ร้ายแรงในอนาคตกันเถอะ

 

ทำความรู้จักต้อลม คืออะไร?

ต้อลม (Pinguecula) คือภาวะที่เกิดจากการเสื่อมของเยื่อบุตา (Conjunctiva) บริเวณตาขาว โดยตาเป็นต้อลมมีลักษณะเป็นจุดหรือก้อนเล็กๆ สีเหลืองนูนขึ้นมา มักเกิดที่ด้านในใกล้กับหัวตาหรือด้านนอกใกล้กับหางตา แม้ต้อลมจะไม่เป็นอันตรายร้ายแรงต่อการมองเห็น แต่มักก่อให้เกิดอาการระคายเคืองและความไม่สบายตาในบางราย

 

สัญญาณอาการของโรคต้อลม เป็นยังไง

โรคต้อลมมีลักษณะอาการที่สังเกตได้ง่าย โดยเริ่มจากการปรากฏจุดหรือก้อนนูนสีเหลืองบนตาขาว ซึ่งมักเกิดบริเวณใกล้หัวตาหรือหางตา อาการต้อลมทั่วไปที่พบได้ คือ ความรู้สึกระคายเคืองในตาคล้ายกับมีเศษฝุ่นติดอยู่ แม้ว่าจะไม่มีสิ่งแปลกปลอมจริงๆ นอกจากนี้ ผู้ป่วยอาจมีอาการตาแดง ซึ่งเกิดจากเยื่อบุตาอักเสบเนื่องจากปัจจัยกระตุ้น เช่น ฝุ่น ลม หรือแสงแดด ในบางกรณี ตาอาจแห้งจนทำให้รู้สึกแสบตาหรือตึงตา และบางครั้งอาจมีการหลั่งน้ำตามากกว่าปกติเพื่อลดความระคายเคือง

หากพบว่าต้อลมมีขนาดใหญ่ขึ้นรวดเร็ว จนเข้าใกล้กระจกตา หรือมีอาการมองเห็นพร่ามัว ควรรีบไปพบแพทย์ เพื่อทำการรักษาต้อลม เพราะอาจส่งผลต่อการมองเห็น นอกจากนี้ หากมีอาการตาแดงมาก เจ็บตาอย่างรุนแรง หรือมีอาการปวดตาอย่างต่อเนื่องจนรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน ก็จำเป็นต้องเข้ารับการตรวจโดยจักษุแพทย์ทันที รวมถึงกรณีที่ต้อลมมีลักษณะผิดปกติ เช่น ก้อนนูนมีการเปลี่ยนสี ผิดรูป หรือมีเลือดออก เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต การดูแลสุขภาพดวงตาและการปรึกษาผู้เชี่ยวชาญจึงเป็นสิ่งสำคัญ

 

สำรวจสาเหตุของโรคต้อลม เกิดจากอะไร?

 

ต้อลมเกิดจาก

 

โรคต้อลมเกิดจากการเสื่อมของเยื่อบุตา (Conjunctiva) ซึ่งเป็นเยื่อบางๆ ที่ปกคลุมตาขาว โดยสาเหตุสำคัญมักเกี่ยวข้องกับปัจจัยกระตุ้นจากสิ่งแวดล้อมและพฤติกรรมที่ทำให้ดวงตาระคายเคืองหรืออักเสบเรื้อรัง เช่น

  • การสัมผัสกับแสงแดดและรังสีอัลตราไวโอเลต (UV)
    การสัมผัสแสงแดดโดยตรงโดยไม่มีการป้องกัน เช่น การไม่สวมแว่นกันแดดที่มีคุณสมบัติป้องกันรังสี UV สามารถทำลายเยื่อบุตาและทำให้เกิดการสะสมของโปรตีนและแคลเซียม จนเกิดเป็นต้อลมขึ้นได้
  • การสัมผัสกับลมและฝุ่นละออง
    การอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีลมแรง ฝุ่นละออง หรือมลพิษในอากาศบ่อยๆ จะเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดต้อลม เนื่องจากปัจจัยเหล่านี้ทำให้เยื่อบุตาระคายเคืองและเกิดการอักเสบ
  • ตาแห้งและการระคายเคืองจากการใช้งานดวงตา
    การจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ หรือการทำกิจกรรมที่ต้องใช้สายตาเป็นเวลานานโดยไม่พัก อาจทำให้ดวงตาขาดความชุ่มชื้น ซึ่งเป็นปัจจัยกระตุ้นให้เยื่อบุตาเสื่อมสภาพได้เร็วขึ้น
  • การสัมผัสกับสารเคมีหรือควัน
    การสัมผัสควันจากการเผาไหม้ หรือสารเคมีที่ก่อให้เกิดการระคายเคือง เช่น ควันบุหรี่ ควันจากโรงงาน หรือมลภาวะในสิ่งแวดล้อม ล้วนเป็นตัวกระตุ้นที่ทำให้เกิดการเสื่อมของเยื่อบุตา
  • อายุและพันธุกรรม
    ผู้ที่มีอายุมากขึ้นมักมีโอกาสเกิดต้อลมได้สูงกว่า เนื่องจากเนื้อเยื่อดวงตาเสื่อมสภาพตามวัย นอกจากนี้ บางคนอาจมีความไวต่อปัจจัยกระตุ้นต่างๆ มากกว่าคนทั่วไปจากพันธุกรรม

 

วิธีป้องกันโรคต้อลม

การป้องกันการเกิดปัญหาดวงตาตั้งแต่ต้น สามารถช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นโรคต้อลม และช่วยปกป้องสุขภาพดวงตาให้มีสภาพดีอยู่กับเราไปนานๆ โดยวิธีป้องกันการเกิดโรคต้อลม มีดังนี้

  • สวมแว่นกันแดดเมื่อออกกลางแจ้ง ควรเลือกแว่นกันแดดที่มีคุณสมบัติป้องกันรังสีอัลตราไวโอเลต (UV) เพื่อปกป้องดวงตาจากแสงแดดที่เป็นตัวการสำคัญของการเกิดต้อลม
  • หลีกเลี่ยงการอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีลมแรงและฝุ่นละออง หรือใส่แว่นตาป้องกันฝุ่นในกรณีที่ต้องอยู่ในพื้นที่ที่มีลมหรือฝุ่นมาก เช่น บริเวณก่อสร้าง หรือพื้นที่กลางแจ้ง
  • ดูแลดวงตาให้ชุ่มชื้นอยู่เสมอ โดยอาจใช้น้ำตาเทียมหรือสารหล่อลื่นตาในกรณีที่ตาแห้ง หรือเมื่อรู้สึกระคายเคือง เพื่อช่วยปกป้องเยื่อบุตาจากการเสื่อมสภาพ ในกรณีที่เป็นต้อลมแล้วนั้นแพทย์จะทำการรักษาต้อลมระยะแรกโดยใช้ยาหยอดตาต้อลมก่อน
  • พักสายตาระหว่างการใช้งานดวงตาเป็นเวลานาน โดยการพักสายตาทุกๆ 20 นาที มองสิ่งที่อยู่ไกลๆ เป็นเวลา 20 วินาที เพื่อลดความเมื่อยล้าของดวงตา
  • หลีกเลี่ยงการสัมผัสดวงตาบ่อยๆ อย่างเช่น การขยี้ตาที่อาจทำให้ดวงตาระคายเคือง และเพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อหรือการอักเสบ
  • ใช้เครื่องกรองอากาศในบ้านหรือที่ทำงาน สามารถลดปริมาณฝุ่นและสารก่อการระคายเคืองในอากาศที่อาจกระทบดวงตาได้นั่นเอง
  • สวมแว่นป้องกันในพื้นที่อันตราย เช่น การทำงานในโรงงานอุตสาหกรรม หรือการใช้สารเคมีที่อาจกระเด็นเข้าตา

 

คำถามที่พบบ่อย

เป็นต้อลมใช้น้ำตาเทียมได้ไหม

สามารถใช้ได้ เนื่องจากน้ำตาเทียมสามารถเพิ่มความชุ่มชื้นให้ดวงตา ลดอาการแสบตาหรือระคายเคืองได้ และช่วยลดโอกาสการเกิดต้อลมในอนาคตได้อีกด้วย

เป็นต้อลมใส่แว่นได้ไหม

ใส่ได้ โดยแนะนำให้ใส่แว่นกันแดดหรือแว่นป้องกันฝุ่นที่อาจเข้าตา เพื่อลดการระคายเคืองบริเวณดวงตาจากแสงแดด ลม และฝุ่นละออง

 

รู้จัก “ต้อลม” โรคตาที่พบได้บ่อย

ต้อลม คือ ภาวะที่เกิดจากการเสื่อมสภาพของเยื่อบุตาขาว ทำให้เกิดเนื้อเยื่อสีขาวเหลืองนูนขึ้นมาบริเวณตาขาว มักพบใกล้กับขอบกระจกตา โดยเฉพาะบริเวณหัวตา ต้อลมเกิดจากปัจจัยหลายอย่าง โดยเฉพาะแสงแดด ลม เชื้อโรคหรือแบคทีเรียในอากาศ และฝุ่น ซึ่งเป็นปัจจัยภายนอกที่เราสามารถควบคุมได้ ดังนั้น การดูแลดวงตาให้ห่างจากปัจจัยกระตุ้นเหล่านี้ จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดต้อลมได้

โพสตอบ

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเโพสตอบได้

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา