ศัลยกรรมดึงหน้า ข้อควรรู้ก่อนผ่าตัด
กาลเวลาเป็นสิ่งที่ไม่อาจหยุดยั้ง ริ้วรอยและความหย่อนคล้อยบนใบหน้าล้วนเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงวัยที่มากขึ้น การดึงหน้าหรือศัลยกรรม ยกกระชับหน้าจึงเป็นเสมือนทางลัดสู่ความอ่อนเยาว์ที่หลายคนใฝ่ฝันบทความนี้จะพาทุกท่านไปรู้จักกับเทคนิคการผ่าตัดดึงหน้า วิเคราะห์ข้อดี ข้อเสีย ผลลัพธ์ที่คาดหวัง รวมไปถึงแนวทางการตัดสินใจว่าเหมาะกับคุณหรือไม่
การดึงหน้าคืออะไร
การผ่าตัดดึงหน้า (Rhytidectomy หรือ Face Lift surgery) คือ การทำศัลยกรรมเพื่อยกกระชับกล้ามเนื้อและไขมันใต้ผิวหนังให้กลับไปยังตำแหน่งที่เหมาะสม และตัดผิวหนังส่วนเกินเพื่อให้ใบหน้ากระชับและเรียบเนียนขึ้น ซึ่งการศัลยกรรมดึงหน้าจะช่วยคืนความอ่อนเยาว์ ดูเป็นธรรมชาติ โดยจะช่วยลดริ้วรอย ความหย่อนคล้อยของใบหน้า และด้วยเทคนิคการผ่าตัดในปัจจุบันที่ทันสมัย ช่วยให้ศัลยกรรมดึงหน้าได้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ ฟื้นตัวไวและอยู่ได้นาน
การดึงหน้าแบบไหน ใช่สำหรับคุณ? แก้ไขจุดไหนได้บ้าง เริ่มต้นอายุเท่าไหร่ดี?
- Full Facelift (การดึงหน้าแบบเต็มใบหน้า) เหมาะสำหรับผู้ที่มีริ้วรอย และความหย่อนคล้อยชัดเจนทั่วใบหน้า ต้องการยกกระชับโครงหน้าแบบองค์รวม ตั้งแต่ดึงหน้าผาก คิ้ว แก้ม จนถึงลำคอ มักเริ่มทำเมื่ออายุ 40 ปีขึ้นไป หรือเมื่อรู้สึกว่าใบหน้าหย่อนคล้อยมาก จนวิธีอื่นๆ ไม่สามารถแก้ไขได้
- Mini Facelift (การดึงหน้าแบบแผลเล็ก) เหมาะสำหรับผู้ที่มีริ้วรอย และความหย่อนคล้อยไม่มาก ส่วนใหญ่บริเวณแก้ม และแนวกราม ต้องการแก้ไขแบบเจาะจง เช่น ดึงหางตา ดึงร่องแก้ม โดยใช้แผลผ่าตัดขนาดเล็ก ช่วยลดระยะเวลาพักฟื้น มักนิยมในกลุ่มอายุ 35 ปีขึ้นไป
- Endoscopic Facelift (การดึงหน้าแบบส่องกล้อง) เหมาะสำหรับผู้ที่มีอายุไม่มาก ความหย่อนคล้อยอยู่ในระดับน้อยถึงปานกลาง โดยใช้กล้องขนาดเล็ก สอดผ่านแผลผ่าตัดบริเวณไรผม ช่วยลดขนาดแผลเป็น เหมาะสำหรับผู้ที่มีอายุ 30 ปีขึ้นไป
"อายุเท่าไหร่ถึงเริ่มดึงหน้าได้?" คำถามนี้ไม่มีคำตอบตายตัว ขึ้นอยู่กับสภาพผิว ระดับความหย่อนคล้อย และความต้องการของแต่ละบุคคล
เตรียมความพร้อมก่อน "ศัลยกรรมดึงหน้า" สู่ผลลัพธ์สวย ปลอดภัย ไร้กังวล
ช่วง 3 เดือนก่อนผ่าตัด
- ควรปรึกษาแพทย์อย่างละเอียด แจ้งประวัติสุขภาพ โรคประจำตัว ยาที่ทานประจำ วิตามิน อาหารเสริม รวมถึงประวัติการผ่าตัดที่เคยทำ
- งดสูบเพราะบุหรี่ส่งผลเสียต่อการไหลเวียนเลือด ทำให้แผลหายช้า และเพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ
- งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เพราะแอลกอฮอล์ทำให้เลือดไหลง่าย และเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดภาวะแทรกซ้อน
- ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสมเพราะน้ำหนักตัวที่มากเกินไป อาจส่งผลต่อการผ่าตัดและการหายของแผล
- ตรวจร่างกาย ตรวจเลือด เพื่อประเมินความพร้อมของร่างกายก่อนเข้ารับการผ่าตัด
- พักงานเลเซอร์ & ร้อยไหม งดการทำทรีตเมนต์ที่ส่งผลต่อผิวหน้า อย่างน้อย 3 เดือนก่อนการผ่าตัด
- เริ่มต้นดูแลตัวเองจากภายใน รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ครบ 5 หมู่ ดื่มน้ำมากๆ พักผ่อนให้เพียงพอ
7-10 วันก่อนผ่าตัด
- งดยาและอาหารเสริมที่มีผลกับการแข็งตัวของเลือด
- งดอาหารและน้ำ ตามคำแนะนำของแพทย์
- อาบน้ำชำระร่างกายให้สะอาด
- พักผ่อนให้เต็มที่ เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการผ่าตัด
วิธีการผ่าตัดดึงหน้า
ขั้นตอนทั่วไปของการผ่าตัดดึงหน้ามักจะประกอบด้วยขั้นตอนต่อไปนี้
- การให้ยาสลบ ผู้ป่วยจะได้รับยาสลบหรือยาชาเฉพาะเพื่อลดความรู้สึกเจ็บปวดและทำให้ผู้ป่วยได้ผ่อนคลายในระหว่างการผ่าตัด
- การกรีดแผล แพทย์จะกรีดแผลตามแนวขมับบนใบหน้าลงมาบริเวณแก้ม และบางครั้งอาจเลยไปที่บริเวณลำคอ โดยมุมต่างๆ ของใบหน้าจะถูกปรับแต่งตามความต้องการของผู้ป่วย
- การดึงกระชับ แพทย์จะทำการดึงกระชับผิวหนัง กล้ามเนื้อ และไขมันใต้ผิวหนังให้ตึงขึ้น โดยใช้เทคนิคต่างๆ เช่น การยกกระชับเนื้อเยื่อด้วยการตัดออกหรือเพิ่มเนื้อเยื่อผ่านกระบวนการอื่นๆ
- ตัดผิวหนังส่วนเกิน แพทย์จะตัดผิวหนังส่วนเกินออก เพื่อให้ใบหน้ามีลักษณะที่ต้องการและเป็นเหมือนที่ผู้ป่วยต้องการ
- เย็บแผล แพทย์จะเย็บแผลปิดให้แน่นหรือได้แต่กว่าระยะเวลาที่จำเป็น ใช้เทคนิคการเย็บแผลแบบต่างๆ ตามความต้องการของผู้ป่วยและแพทย์
การดูแลตนเองหลังดึงหน้า ควรดูแลอย่างไร
สัปดาห์แรก
- ทานยาตามที่แพทย์สั่ง เพื่อลดบวม แก้ปวด และป้องกันการติดเชื้อ
- ประคบเย็นอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะ 24-48 ชั่วโมงแรก เพื่อช่วยลดบวมและอาการฟกช้ำ
- นอนหนุนหมอนสูง เพื่อลดอาการบวม
- ทำความสะอาดแผลด้วยน้ำเกลือหรือน้ำยาทำความสะอาดแผลตามที่แพทย์แนะนำ
- หลีกเลี่ยงการสัมผัส แกะ เกา แผล
- งดแต่งหน้าจนกว่าแผลจะหายดี
- รับประทานอาหารอ่อนๆ เน้นอาหารที่ย่อยง่าย และดื่มน้ำมากๆ
- พักผ่อนให้เพียงพอในบริเวณที่อากาศถ่ายเทสะดวก
- งดสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 2 สัปดาห์
- หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ต้องใช้แรง เช่น ออกกำลังกายหนักๆ ยกของหนัก
- พบแพทย์ตามนัด เพื่อติดตามผลและตรวจเช็คแผล
สัปดาห์ที่ 2-4 เริ่มกลับไปใช้ชีวิต... อย่างค่อยเป็นค่อยไป
- ทาครีมกันแดดเป็นประจำทุกครั้งที่ออกแดด
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับความร้อน เช่น อบซาวน่า
- ทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายเบาๆ และพักผ่อนให้เพียงพอ
- ดูแลผิวหน้าเป็นพิเศษ เช่น ทาครีมบำรุง มาร์คหน้า
- ปรึกษาแพทย์หากมีอาการผิดปกติ เช่น แผลบวม แดง มีหนอง
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดหลังดึงหน้า
ผลข้างเคียงของการดึงหน้า เป็นเรื่องที่อาจเกิดขึ้นได้ เช่น
- อาการบวมและช้ำบริเวณใบหน้าและลำคอ เป็นผลจากการกระตุ้นของกระบวนการผ่าตัดที่ทำให้เกิดการบวมและการเลือนระบายของเลือดใต้ผิวหนัง ซึ่งจะหายไปเองภายใน 2-4 สัปดาห์ตามปกติ
- อาการปวดบริเวณแผลผ่าตัด เป็นผลจากการตัดแผลและกระบวนการฟื้นตัวของร่างกาย ซึ่งส่วนใหญ่จะลดลงในช่วงเวลาไม่กี่สัปดาห์
- รู้สึกชาบริเวณใบหน้าและลำคอ เป็นอาการที่เกิดจากการกระตุ้นของระบบประสาทที่อยู่ใกล้เคียงกับพื้นที่ที่ทำการผ่าตัด
- ผมร่วงบริเวณรอบๆ แผลผ่าตัด อาจเกิดได้เนื่องจากกระบวนการผ่าตัดที่เกี่ยวข้องกับระบบรากผม แต่มักจะเริ่มหายไปเมื่อแผลหายไปและร่างกายเริ่มฟื้นตัว
- ผิวหนังไม่เรียบเนียนเป็นอาการที่บางครั้งอาจเกิดขึ้นเมื่อผิวหนังยังไม่ได้ฟื้นตัวอย่างเต็มที่ แต่มักจะช่วยประสานผิวหนังเรียบเนียนกลับมาในระยะเวลาไม่กี่สัปดาห์ตามปกติ
สรุปเกี่ยวกับดึงหน้า
"ศัลยกรรมดึงหน้า" เป็นขั้นตอนการผ่าตัดเพื่อยกกระชับกล้ามเนื้อ จัดเรียงไขมัน และตัดผิวหนังส่วนเกินบนใบหน้า เพื่อแก้ไขปัญหาความหย่อนคล้อย ริ้วรอยแห่งวัย คืนความอ่อนเยาว์ และปรับรูปหน้าให้ดูเรียวสวยอย่างเป็นธรรมชาติ หากคุณกำลังพิจารณา "ศัลยกรรมดึงหน้า" ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อประเมินความเสี่ยง และวางแผนการรักษาที่เหมาะสม
โพสตอบ
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเโพสตอบได้