ศัลยกรรมดึงหน้า ข้อควรรู้ก่อนผ่าตัด

GUEST1649747579

สุดยอดขีดเีขียน (486)
เด็กใหม่ (0)
เด็กใหม่ (0)
POST:882
เมื่อ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2567 17.41 น.

ผ่าตัดดึงหน้า

กาลเวลาเป็นสิ่งที่ไม่อาจหยุดยั้ง ริ้วรอยและความหย่อนคล้อยบนใบหน้าล้วนเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงวัยที่มากขึ้น การดึงหน้าหรือศัลยกรรม ยกกระชับหน้าจึงเป็นเสมือนทางลัดสู่ความอ่อนเยาว์ที่หลายคนใฝ่ฝันบทความนี้จะพาทุกท่านไปรู้จักกับเทคนิคการผ่าตัดดึงหน้า วิเคราะห์ข้อดี ข้อเสีย ผลลัพธ์ที่คาดหวัง รวมไปถึงแนวทางการตัดสินใจว่าเหมาะกับคุณหรือไม่

 

การดึงหน้าคืออะไร

การผ่าตัดดึงหน้า (Rhytidectomy หรือ Face Lift surgery) คือ การทำศัลยกรรมเพื่อยกกระชับกล้ามเนื้อและไขมันใต้ผิวหนังให้กลับไปยังตำแหน่งที่เหมาะสม และตัดผิวหนังส่วนเกินเพื่อให้ใบหน้ากระชับและเรียบเนียนขึ้น ซึ่งการศัลยกรรมดึงหน้าจะช่วยคืนความอ่อนเยาว์ ดูเป็นธรรมชาติ โดยจะช่วยลดริ้วรอย ความหย่อนคล้อยของใบหน้า และด้วยเทคนิคการผ่าตัดในปัจจุบันที่ทันสมัย ช่วยให้ศัลยกรรมดึงหน้าได้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ ฟื้นตัวไวและอยู่ได้นาน 

 

การดึงหน้าแบบไหน ใช่สำหรับคุณ? แก้ไขจุดไหนได้บ้าง เริ่มต้นอายุเท่าไหร่ดี?

ดึงหน้า

  • Full Facelift (การดึงหน้าแบบเต็มใบหน้า) เหมาะสำหรับผู้ที่มีริ้วรอย และความหย่อนคล้อยชัดเจนทั่วใบหน้า ต้องการยกกระชับโครงหน้าแบบองค์รวม ตั้งแต่ดึงหน้าผาก คิ้ว แก้ม จนถึงลำคอ มักเริ่มทำเมื่ออายุ 40 ปีขึ้นไป หรือเมื่อรู้สึกว่าใบหน้าหย่อนคล้อยมาก จนวิธีอื่นๆ ไม่สามารถแก้ไขได้
  • Mini Facelift (การดึงหน้าแบบแผลเล็ก) เหมาะสำหรับผู้ที่มีริ้วรอย และความหย่อนคล้อยไม่มาก ส่วนใหญ่บริเวณแก้ม และแนวกราม ต้องการแก้ไขแบบเจาะจง เช่น ดึงหางตา ดึงร่องแก้ม โดยใช้แผลผ่าตัดขนาดเล็ก ช่วยลดระยะเวลาพักฟื้น มักนิยมในกลุ่มอายุ 35 ปีขึ้นไป
  • Endoscopic Facelift (การดึงหน้าแบบส่องกล้อง) เหมาะสำหรับผู้ที่มีอายุไม่มาก ความหย่อนคล้อยอยู่ในระดับน้อยถึงปานกลาง โดยใช้กล้องขนาดเล็ก สอดผ่านแผลผ่าตัดบริเวณไรผม ช่วยลดขนาดแผลเป็น เหมาะสำหรับผู้ที่มีอายุ 30 ปีขึ้นไป

"อายุเท่าไหร่ถึงเริ่มดึงหน้าได้?" คำถามนี้ไม่มีคำตอบตายตัว ขึ้นอยู่กับสภาพผิว ระดับความหย่อนคล้อย และความต้องการของแต่ละบุคคล

 

เตรียมความพร้อมก่อน "ศัลยกรรมดึงหน้า" สู่ผลลัพธ์สวย ปลอดภัย ไร้กังวล

ช่วง 3 เดือนก่อนผ่าตัด

  • ควรปรึกษาแพทย์อย่างละเอียด แจ้งประวัติสุขภาพ โรคประจำตัว ยาที่ทานประจำ วิตามิน อาหารเสริม รวมถึงประวัติการผ่าตัดที่เคยทำ 
  • งดสูบเพราะบุหรี่ส่งผลเสียต่อการไหลเวียนเลือด ทำให้แผลหายช้า และเพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ 
  • งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เพราะแอลกอฮอล์ทำให้เลือดไหลง่าย และเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดภาวะแทรกซ้อน 
  • ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสมเพราะน้ำหนักตัวที่มากเกินไป อาจส่งผลต่อการผ่าตัดและการหายของแผล
  • ตรวจร่างกาย ตรวจเลือด เพื่อประเมินความพร้อมของร่างกายก่อนเข้ารับการผ่าตัด
  • พักงานเลเซอร์ & ร้อยไหม งดการทำทรีตเมนต์ที่ส่งผลต่อผิวหน้า อย่างน้อย 3 เดือนก่อนการผ่าตัด
  • เริ่มต้นดูแลตัวเองจากภายใน รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ครบ 5 หมู่ ดื่มน้ำมากๆ พักผ่อนให้เพียงพอ

 

7-10 วันก่อนผ่าตัด

  • งดยาและอาหารเสริมที่มีผลกับการแข็งตัวของเลือด
  • งดอาหารและน้ำ ตามคำแนะนำของแพทย์
  • อาบน้ำชำระร่างกายให้สะอาด
  • พักผ่อนให้เต็มที่ เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการผ่าตัด

 

วิธีการผ่าตัดดึงหน้า

วิธีดึงหน้า

ขั้นตอนทั่วไปของการผ่าตัดดึงหน้ามักจะประกอบด้วยขั้นตอนต่อไปนี้

  1. การให้ยาสลบ ผู้ป่วยจะได้รับยาสลบหรือยาชาเฉพาะเพื่อลดความรู้สึกเจ็บปวดและทำให้ผู้ป่วยได้ผ่อนคลายในระหว่างการผ่าตัด
  2. การกรีดแผล แพทย์จะกรีดแผลตามแนวขมับบนใบหน้าลงมาบริเวณแก้ม และบางครั้งอาจเลยไปที่บริเวณลำคอ โดยมุมต่างๆ ของใบหน้าจะถูกปรับแต่งตามความต้องการของผู้ป่วย
  3. การดึงกระชับ แพทย์จะทำการดึงกระชับผิวหนัง กล้ามเนื้อ และไขมันใต้ผิวหนังให้ตึงขึ้น โดยใช้เทคนิคต่างๆ เช่น การยกกระชับเนื้อเยื่อด้วยการตัดออกหรือเพิ่มเนื้อเยื่อผ่านกระบวนการอื่นๆ
  4. ตัดผิวหนังส่วนเกิน แพทย์จะตัดผิวหนังส่วนเกินออก เพื่อให้ใบหน้ามีลักษณะที่ต้องการและเป็นเหมือนที่ผู้ป่วยต้องการ
  5. เย็บแผล แพทย์จะเย็บแผลปิดให้แน่นหรือได้แต่กว่าระยะเวลาที่จำเป็น ใช้เทคนิคการเย็บแผลแบบต่างๆ ตามความต้องการของผู้ป่วยและแพทย์

 

การดูแลตนเองหลังดึงหน้า ควรดูแลอย่างไร

สัปดาห์แรก

  • ทานยาตามที่แพทย์สั่ง เพื่อลดบวม แก้ปวด และป้องกันการติดเชื้อ
  • ประคบเย็นอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะ 24-48 ชั่วโมงแรก เพื่อช่วยลดบวมและอาการฟกช้ำ
  • นอนหนุนหมอนสูง เพื่อลดอาการบวม
  • ทำความสะอาดแผลด้วยน้ำเกลือหรือน้ำยาทำความสะอาดแผลตามที่แพทย์แนะนำ
  • หลีกเลี่ยงการสัมผัส แกะ เกา แผล
  • งดแต่งหน้าจนกว่าแผลจะหายดี
  • รับประทานอาหารอ่อนๆ เน้นอาหารที่ย่อยง่าย และดื่มน้ำมากๆ
  • พักผ่อนให้เพียงพอในบริเวณที่อากาศถ่ายเทสะดวก
  • งดสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 2 สัปดาห์
  • หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ต้องใช้แรง เช่น ออกกำลังกายหนักๆ ยกของหนัก
  • พบแพทย์ตามนัด เพื่อติดตามผลและตรวจเช็คแผล

 

สัปดาห์ที่ 2-4 เริ่มกลับไปใช้ชีวิต... อย่างค่อยเป็นค่อยไป

  • ทาครีมกันแดดเป็นประจำทุกครั้งที่ออกแดด
  • หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับความร้อน เช่น อบซาวน่า
  • ทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายเบาๆ และพักผ่อนให้เพียงพอ
  • ดูแลผิวหน้าเป็นพิเศษ เช่น ทาครีมบำรุง มาร์คหน้า
  • ปรึกษาแพทย์หากมีอาการผิดปกติ เช่น แผลบวม แดง มีหนอง

 

ผลข้างเคียงที่อาจเกิดหลังดึงหน้า

ผลข้างเคียงของการดึงหน้า เป็นเรื่องที่อาจเกิดขึ้นได้ เช่น

  • อาการบวมและช้ำบริเวณใบหน้าและลำคอ เป็นผลจากการกระตุ้นของกระบวนการผ่าตัดที่ทำให้เกิดการบวมและการเลือนระบายของเลือดใต้ผิวหนัง ซึ่งจะหายไปเองภายใน 2-4 สัปดาห์ตามปกติ
  • อาการปวดบริเวณแผลผ่าตัด เป็นผลจากการตัดแผลและกระบวนการฟื้นตัวของร่างกาย ซึ่งส่วนใหญ่จะลดลงในช่วงเวลาไม่กี่สัปดาห์
  • รู้สึกชาบริเวณใบหน้าและลำคอ เป็นอาการที่เกิดจากการกระตุ้นของระบบประสาทที่อยู่ใกล้เคียงกับพื้นที่ที่ทำการผ่าตัด
  • ผมร่วงบริเวณรอบๆ แผลผ่าตัด อาจเกิดได้เนื่องจากกระบวนการผ่าตัดที่เกี่ยวข้องกับระบบรากผม แต่มักจะเริ่มหายไปเมื่อแผลหายไปและร่างกายเริ่มฟื้นตัว
  • ผิวหนังไม่เรียบเนียนเป็นอาการที่บางครั้งอาจเกิดขึ้นเมื่อผิวหนังยังไม่ได้ฟื้นตัวอย่างเต็มที่ แต่มักจะช่วยประสานผิวหนังเรียบเนียนกลับมาในระยะเวลาไม่กี่สัปดาห์ตามปกติ

 

สรุปเกี่ยวกับดึงหน้า

"ศัลยกรรมดึงหน้า" เป็นขั้นตอนการผ่าตัดเพื่อยกกระชับกล้ามเนื้อ จัดเรียงไขมัน และตัดผิวหนังส่วนเกินบนใบหน้า เพื่อแก้ไขปัญหาความหย่อนคล้อย ริ้วรอยแห่งวัย คืนความอ่อนเยาว์ และปรับรูปหน้าให้ดูเรียวสวยอย่างเป็นธรรมชาติ หากคุณกำลังพิจารณา "ศัลยกรรมดึงหน้า" ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อประเมินความเสี่ยง และวางแผนการรักษาที่เหมาะสม

แก้ไขครั้งที่ 1 โดย GUEST1649747579 เมื่อ19 ธันวาคม พ.ศ. 2567 17.43 น.

โพสตอบ

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเโพสตอบได้

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา