AI เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์กับการช่วยเหลือมนุษย์ในงานต่าง ๆ
ในยุคปัจจุบันที่เทคโนโลยีได้มีความสำคัญในทุก ๆ ด้าน ด้วยปัญญาประดิษฐ์อย่าง AI ที่เข้ามามีส่วนช่วยในการพัฒนาระบบต่าง ๆ ทั้งประมวลผล ออกแบบ และอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ให้กับผู้ใช้งาน AI เป็นสิ่งที่หลาย ๆ คนอาจได้มีการใช้งานอยู่ในทุก ๆ วัน แต่อาจจะไม่รู้ว่าจริง ๆ แล้วAI คืออะไร เพื่อทำความรู้จักกับ AI กันให้มากขึ้น วันนี้เราไปดูกันว่า AI หรือ ปัญญาประดิษฐ์นี้คืออะไร มีส่วนช่วยในด้านใดบ้าง ทำไมถึงกลายมาเป็นส่วนหนึ่งในการทำงานของมนุษย์ในปัจจุบัน
AI มีความเป็นมาอย่างไร ทำไมถึงเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของมนุษย์ในปัจจุบัน
AI ย่อมาจาก Artificial Intelligence หรือ ในภาษาไทยก็คือ ปัญญาประดิษฐ์ เป็นโปรแกรมที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อให้เลียนแบบสติปัญญาของมนุษย์ผ่านการเรียนรู้อัลกอริทึม ขั้นตอนและกระบวนการที่จะช่วยแก้ไขปัญหา ให้เหตุผลเพื่อปรับปรุงผลลัพธ์ต่าง ๆ ให้ออกมามีประสิทธิภาพมากที่สุด ทำให้ AI กลายมาเป็นส่วนหนึ่งของหลาย ๆ องค์กร โดยเฉพาะอุตสาหกรรม และธุรกิจขนาดเล็กไม่จนถึงขนาดใหญ่
AI คือ สมองที่ได้รับการ Train ข้อมูลและประมวลผลออกมาได้อย่างรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ โดยผ่านกระบวนการเรียนรู้จากข้อมูลเพื่อนำมาสร้างโมเดลที่สามารถนำมาทำนายผลลัพธ์จากข้อมูลต้นฉบับได้อย่างแม่นยำ อาศัยการประมวลผลทางคณิตศาสตร์ และสถิติเพื่อหาความสัมพันธ์ระหว่างข้อมูล
AI กับความสำคัญในยุคปัจจุบัน
หลายคนที่ยังไม่รู้จัก AI อาจมองภาพไม่ออกว่า AI คืออะไร มีความสำคัญอย่างไร โดยจุดประสงค์ของ AI จะช่วยให้มนุษย์ตัดสินใจในสิ่งที่ซับซ้อนได้ง่ายขึ้น ช่วยให้มนุษย์ทำงานลดน้อยลง โดยผลลัพธ์ก่อนที่ AI จะประมวลผลออกมานั้นจะมาจากการสกัดของ AI ออกมาให้มนุษย์ได้ทำความเข้าใจง่ายขึ้น นอกจากนี้ AI จะช่วยทำงานที่เสี่ยงต่อชีวิตมนุษย์ ลดอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นจากการทำงาน เช่น งานก่อสร้างตึก การทำงานในที่สูง หรือแม้กระทั่งการช่วยเหลือคนในเหตุการณ์ต่าง ๆ
ประโยชน์ของ AI ซึ่งเป็นมากกว่าการทำงานของคอมพิวเตอร์ โครงสร้างนั้นมีขนาดใหญ่เปรียบได้ว่าเป็นซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการทำงานของเครื่องจักรได้อย่างมีประสิทธิภาพ ให้มีความคล้ายคลึงกับการทำงานของมนุษย์ได้ และพัฒนาให้มีความคืบหน้าในยุคต่อไป จนนำไปสู่การเป็นระบบอัตโนมัติแบบ end-to-end ช่วยประสานงานการทำงานที่ซับซ้อนต่าง ๆ ทำให้ช่วยลดการทำงานที่ผิดพลาดได้
AI มีองค์ประกอบ อะไรบ้าง
รูปแบบของ AI นั้นจะแบ่งออกมายิบย่อยได้หลายองค์ประกอบด้วยกัน ซึ่งแต่ละซับเซตของ AI หรือที่เรารู้จักกันในนาม ปัญญาประดิษฐ์ คือฟังก์ชันและหน้าที่การทำงานโดยมีจุดประสงค์เพื่อช่วยเหลือมนุษย์ มุ่งเน้นไปในเรื่องของการทำงานของมนุษย์ให้มีความสะดวก รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อให้ผู้ใช้งานได้เข้าใจถึงการทำงานของ AI ซับเซตย่อย ๆ ที่ถูกแบ่งออกมาโดยทำงานเกี่ยวข้องกันเป็นระบบเอไอ และสามารถนำไปใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ วันนี้เราไปดูกันว่ารูปแบบของระบบ AI ที่แบ่งย่อยออกมานั้นมีประเภทอะไรบ้าง
1. Machine Learning (ML)
AI Machine learning หรือ AI ML คือ ซับเซตของ AI โดยเปรียบเสมือนเป็นสมองของ AI โดยการใช้ Machine Learning จะเรียนรู้กระบวนการอัลกอริทึมด้วยชุดข้อมูลที่มีอยู่แล้ว ประมวลผลและสร้างผลลัพธ์ออกมา อีกทั้งยังคาดการณ์ผลลัพธ์จากข้อมูลที่ป้อนให้ เพื่อให้มีการใช้งานที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น
2. Deep Learning
AI Deep Learning คือ เทคโนโลยีที่มีการพัฒนาต่อยอดมาจาก Machine Learning เป็นวิธีการสอนคอมพิวเตอร์ให้สามารถเรียนรู้และตัดสินใจที่ซับซ้อนมากขึ้นได้ และสามารถเรียนรู้ผ่าน Dataset ใหญ่กว่า เป็นรูปแบบของ AI ที่ใช้โครงข่ายประสาทเทียมเพื่อเรียนรู้และสร้างโมเดลการจำแนกและการทำนายที่มีความซับซ้อน
3. Expert System
ซับเซตย่อยของ Artificial Intelligence AI คือ Expert System ระบบผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งเปรียบเสมือนเป็นคนที่คอยให้คำแนะนำในการจัดการปัญหา โดยเลียนแบบกระบวนการความเป็นเหตุเป็นผลของผู้เชี่ยวชาญในการแก้ปัญหาซับซ้อน และ Expert System นี้ได้รับความนิยมอย่างมากในศาสตร์ของ AI ซึ่งถูกนำมาใช้ในแวดวงธุรกิจทั้งน้อยใหญ่เป็นจำนวนมาก
4. Natural Language Processing (NLP)
Natural Language Processing เป็นเทคโนโลยีประเภทหนึ่งของ AI ที่จะช่วยให้คอมพิวเตอร์หรือโปรแกรมต่าง ๆ เข้าใจภาษาของมนุษย์ได้ เพื่อให้เข้าใจความหมาย และแปลความหมายเป็นข้อมูลที่เครื่องคอมพิวเตอร์สามารถเข้าใจได้ ตัวอย่างการใช้งานที่นิยม อย่างเช่น ChatGPT หรือ Siri
5. Computer Vision
Computer Vision เป็นอีกหนึ่งแขนงของ AI ที่ช่วยให้เครื่องคอมพิวเตอร์สามารถมองเห็นและประมวลผลข้อมูลที่เป็นรูปภาพ หรือวิดีโอ แยกแยะวัตถุ รูปร่าง และคุณสมบัติต่าง ๆ ของภาพนั้น ๆ ตัวอย่างเช่น การค้นหาสิ่งของผ่านรูปภาพหรือวิิดีโอ หรือการแปลภาษาจากภาพถ่าย
6. Robotics
Robotics คือ เครื่องกลที่ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อให้สามารถทำงานบางอย่างแทนมนุษย์ได้ เริ่มตั้งแต่งานง่าย ๆ ที่ไม่มีความซับซ้อน ไม่จนถึงงานที่มีความซับซ้อน วางแผนและตัดสินใจในงานต่าง ๆ ได้ แถมยังสามารถสร้างปฏิสัมพันธ์กับมนุษย์ผ่านการพูดคุยได้อีกด้วย ซึ่งการทำงานดังกล่าว Robotics จะอาศัย AI ซึ่งนับได้ว่าเป็นหัวใจสำคัญที่สามารถให้ Robotics ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ตัวอย่างการนำเทคโนโลยี AI มาใช้งาน ในปัจจุบัน
AI Algorithm คือ ปัญญาประดิษฐ์ที่ถูกนำมาใช้งานในปัจจุบันซึ่งช่วยเหลือมนุษย์ในทุก ๆ ด้าน จนทำให้กลายมาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน เช่น AI Accounting คือ การประยุกต์ใช้ AI กับงานด้านบัญชี หรือ AI ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการสร้างอาชีพอย่าง AI Engineer คือ วิศวการที่ปรับปรุงซอฟต์แวร์ให้มีประสิทธิภาพต่อการทำงานมากขึ้น นอกจากนี้การนำเทคโนโลยี AI มาใช้ในชีวิตประจำวันกับการทำงานในด้านต่าง ๆ จะสามารถพบเห็นได้ ดังนี้
- AI มีส่วนช่วยในการดูแลความปลอดภัยในการทำงานของมนุษย์ เช่น ระบบจดจำใบหน้าเพื่อสแกนจับคนแปลกหน้าในองค์กรเป็นการสร้างความปลอดภัยให้กับบุคลากร และสถานที่ทำงาน การนำ AI เข้ามาตรวจจับและแจ้งเตือนต่อพนักงานที่ใส่อุปกรณ์รักษาความปลอดภัยไม่ครบหรือไม่เหมาะสมในการทำงานพื้นที่ต่าง ๆ โดยเฉพาะพื้นที่ทำงานที่มีความเสี่ยงสูง
- AI กับการตลาด โดย AI นั้นมีบทบาทที่ช่วยพัฒนากลยุทธ์การขาย การดูแล และการบริการลูกค้า โดยการดูความต้องการของลูกค้าจากข้อมูลประวัติการซื้อขาย ความพึงพอใจต่าง ๆ AI จะช่วยประมวลผลและวิเคราะห์ข้อมูล เพื่อนำมาใช้ในการโฆษณาทางออนไลน์
- AI มีส่วนร่วมในงานด้านวิจัยและพัฒนา เนื่องจาก AI มีระบบการทำงานที่ค่อนข้างมีประสิทธิภาพ สามารถวิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมากได้ ทำให้เกิดข้อผิดพลาดน้อย AI จะถูกนำมาใช้งานร่วมกับงานด้านการวิจัยและพัฒนา เพื่อให้ได้ข้อมูลที่มีประสิทธิภาพ
- ระบบ AI กับแวดวงธุรกิจ E-Commerce ที่จะช่วยสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าที่มาซื้อของบนแพลตฟอร์มออนไลน์ และมีการกลับมาซื้อสินค้าอีกครั้ง โดย AI นั้นจะใช้ข้อมูลต่าง ๆ ของลููกค้า โดยการวิเคราะห์ข้อมูลยอดขาย และพฤติกรรมการซื้อสินค้า เพื่อนำข้อมูลต่าง ๆ เหล่านี้มาปรับปรุงและพัฒนาประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าได้
AI เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ที่เป็นประโยชน์ต่อมนุษย์
AI อาจมีความหมายมากกว่าที่หลายคนเคยรู้จัก และวันนี้เราก็ได้รู้จักกับ AI แล้วว่าคือโปรแกรมอะไร สามารถทำอะไรได้บ้าง อีกทั้งแขนงของ AI ที่แบ่งได้ออกเป็นหลากหลายแขนง พร้อมฟังก์ชันการทำงานเพื่อสร้างความสะดวกสบายให้กับมนุษย์ ความปลอดภัยในการทำงานหรือการใช้ชีวิตในประจำวัน การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก รวมไปถึงการทำงานที่ซับซ้อนที่บางครั้งมนุษย์อาจทำความเข้าใจได้ยาก การทำงานของ AI Artificial Intelligence คือ การทำงานได้ครอบคลุมหลายด้าน ไม่เพียงแต่ด้านใดด้านหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็น ด้านการเงิน ด้านการตลาด อุตสาหกรรม ด้านความรู้ และอื่น ๆ ทำให้ปัจจุบันธุรกิจทั้งเล็กและใหญ่ได้มีการนำระบบ AI เข้าไปใช้งานกันอย่างมากมาย
โพสตอบ
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเโพสตอบได้