กองทุนรวมลดหย่อนภาษีคืออะไร? ง่ายๆ ที่ใครๆ ก็เข้าใจ

jjasmine

ขีดเขียนฝึกหัด (79)
เด็กใหม่ (0)
เด็กใหม่ (0)
POST:100
เมื่อ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567 10.51 น.

 



การลดหย่อนภาษีเป็นสิ่งที่หลายคนให้ความสนใจ เพราะเป็นการช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้ดี ซึ่งหนึ่งในวิธีที่คนไทยนิยมใช้ในการลดหย่อนภาษีคือการลงทุนในกองทุนรวมที่มีสิทธิประโยชน์ด้านภาษี บทความนี้จะอธิบายง่าย ๆ ถึงกองทุนรวมลดหย่อนภาษีว่าคืออะไร ทำไมถึงได้รับความนิยม และมีกองทุนประเภทไหนบ้างที่สามารถลดหย่อนภาษีได้

 

กองทุนรวมลดหย่อนภาษีคืออะไร?

กองทุนรวมที่มีนโยบายการลงทุนเพื่อให้ผู้ลงทุนได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี ซึ่งหมายความว่าเมื่อลงทุนในกองทุนนี้แล้ว ผู้ลงทุนสามารถนำเงินที่ลงทุนไปหักลดยอดเงินได้จากภาษีที่ต้องจ่ายในแต่ละปีได้ โดยกองทุนรวมลดหย่อนภาษีมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อส่งเสริมการออมและการลงทุนระยะยาวให้กับประชาชน

 

ในประเทศไทยมีกองทุนรวมลดหย่อนภาษีหลักๆ อยู่ 2 ประเภท คือ กองทุนรวมเพื่อการออม (Super Savings Fund หรือ SSF) และกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (Retirement Mutual Fund หรือ RMF) ซึ่งทั้งสองประเภทมีจุดประสงค์และข้อกำหนดที่แตกต่างกันไป

 

กองทุนรวมเพื่อการออม (SSF)

กองทุนรวม SSF เป็นกองทุนที่จัดตั้งขึ้นมาเพื่อส่งเสริมให้ประชาชนไทยมีการออมเงินระยะยาว สามารถลงทุนได้ในหลักทรัพย์หลากหลายประเภทตามนโยบายของกองทุนนั้น ๆ เช่น หุ้น ตราสารหนี้ หรือตลาดเงิน

 

  • สิทธิประโยชน์ทางภาษีของ SSF
    • ผู้ลงทุนสามารถหักลดหย่อนได้สูงสุด 30% ของรายได้ที่ต้องเสียภาษี หรือไม่เกิน 200,000 บาทต่อปี
    • การลงทุนใน SSF ต้องถือหน่วยลงทุนอย่างน้อย 10 ปี ถึงจะสามารถถอนเงินได้โดยไม่เสียสิทธิ์ทางภาษี
  • ข้อดีของ SSF
    • ไม่มีการบังคับลงทุนต่อเนื่องทุกปี ผู้ลงทุนสามารถเลือกลงทุนเฉพาะปีที่ต้องการได้
    • สามารถลงทุนในสินทรัพย์หลากหลายประเภทตามความเสี่ยงที่ยอมรับได้
  • ข้อควรระวัง
    • การถอนเงินก่อนครบ 10 ปี จะทำให้เสียสิทธิประโยชน์ทางภาษีและต้องคืนภาษีที่เคยได้รับคืนไปแล้ว

 

กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF)

กองทุนรวม RMF มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนเตรียมความพร้อมทางการเงินเพื่อการเกษียณอายุ กองทุนนี้มักจะลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ เช่น ตราสารหนี้ หรือกองทุนอสังหาริมทรัพย์

 

  • สิทธิประโยชน์ทางภาษีของ RMF
    • ผู้ลงทุนสามารถหักลดหย่อนได้สูงสุด 30% ของรายได้ที่ต้องเสียภาษี หรือไม่เกิน 500,000 บาทต่อปี ซึ่งรวมกับสิทธิ์ลดหย่อนอื่นๆ เช่น กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ หรือกองทุนบำเหน็จบำนาญ
    • ต้องถือหน่วยลงทุนจนถึงอายุ 55 ปี และลงทุนต่อเนื่องไม่น้อยกว่า 5 ปี ถึงจะสามารถถอนเงินได้โดยไม่เสียสิทธิ์ทางภาษี
  • ข้อดีของ RMF
    • ส่งเสริมการออมเงินเพื่อการเกษียณอายุ ผู้ลงทุนสามารถมั่นใจได้ว่าจะมีเงินสำรองหลังเกษียณ
    • เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการวางแผนทางการเงินในระยะยาวอย่างต่อเนื่อง
  • ข้อควรระวัง
    • มีการบังคับลงทุนต่อเนื่องทุกปีอย่างน้อย 1 ครั้ง มิฉะนั้นอาจจะเสียสิทธิประโยชน์ทางภาษี

 

การเลือกกองทุนรวมลดหย่อนภาษี

การเลือกกองทุนรวมลดหย่อนภาษี ควรพิจารณาจากเป้าหมายการลงทุน ระยะเวลาที่ต้องการออมเงิน และระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ สำหรับผู้ที่ต้องการความยืดหยุ่น ไม่ต้องการลงทุนทุกปี อาจจะเหมาะกับกองทุน SSF แต่ถ้าต้องการลงทุนเพื่อเตรียมตัวสำหรับการเกษียณอายุอย่างจริงจัง RMF อาจจะเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า

 

นอกจากนี้ ควรเลือกกองทุนที่มีนโยบายการลงทุนสอดคล้องกับเป้าหมายของตนเอง เช่น หากต้องการผลตอบแทนสูงและสามารถรับความเสี่ยงได้ อาจเลือกกองทุน SSF ที่ลงทุนในหุ้น หากต้องการความปลอดภัยมากกว่า อาจเลือกกองทุน RMF ที่ลงทุนในตราสารหนี้

 

กองทุนรวมลดหย่อนภาษีเป็นวิธีที่ดีในการลดภาระภาษี และเป็นเครื่องมือในการออมและการลงทุนที่มีประโยชน์ต่ออนาคต ไม่ว่าจะเป็นการเลือกลงทุนใน SSF หรือ RMF ก็ควรพิจารณาให้เหมาะสมกับเป้าหมายทางการเงินและไลฟ์สไตล์ของเรา เพราะไม่เพียงแค่ช่วยลดภาษี แต่ยังเป็นการสร้างวินัยทางการเงินและเตรียมพร้อมสำหรับอนาคตทางการเงินที่มั่นคงอีกด้วย

 

 

โพสตอบ

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเโพสตอบได้

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา