ภูมิคุ้มกันต่อต้านเซลล์แปลกปลอม nk cell คือระบบรักษาอะไร ?
การตรวจวัดภูมิคุ้มกัน nk cell คืออะไร การทำงานของระบบ nk cell นี้ช่วยรักษาโรคได้อย่างไร
ระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายมีหน้าที่สำคัญที่ช่วยดูแลและป้องกันร่างกายของเรา กัดกินเซลล์ร้ายๆ ไม่ให้เกิดการติดเชื้อแบคทีเรีย ติดเชื้อโรคร้ายแรงหรือเสี่ยงเป็นโรคจากการเติบโตของเซลล์เช่น มะเร็งชนิดต่างๆ โดย NK Cell คือ NK cell (Natural killer cell) เป็นเซลล์เม็ดเลือดขาวในร่างกาย ซึ่งช่วยต้านเชื้อโรคต่างๆ เข้าสู่ร่างกาย เรามาทำความรู้จัก Natural killer cell คืออะไร ให้มากกว่านี้กันดีกว่า ว่าการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันนี้เป็นอย่างไร ทำไมถึงช่วยรักษาโรคร้ายอย่างมะเร็งได้
NK Cell คืออะไร
nk cell คืออะไร Natural Killer Cell เป็นเซลล์เม็ดเลือดขาวที่เกิดขึ้นในระบบภูมิคุ้มกันมีเพียง 5-10% ในร่างกายเท่านั้น หน้าที่สำคัญของ nk cell activity คือต่อต้านเซลล์ผิดปกติที่เกิดจากเชื้อไวรัสหรือเซลล์ที่มีการเติบโตเป็นเซลล์มะเร็ง เซลล์ชนิดนี้จึงสำคัญมากเปรียบเสมือนด่านแรกของร่างกาย คอยป้องกันเชื้อไวรัสที่เข้ามาจากภายนอกและกำจัดเซลล์แปลกปลอม
โดย Nk cell แบ่งได้เป็น 2 ชนิด ได้แก่ ชนิด Dim การทำงานจะเป็นรูปแบบ Natural Cytotoxi สามารถเข้าไปฆ่าเซลล์แปลกปลอมหรือเซลล์มะเร็งโดยตรงและชนิด Bright ในรูปแบบนี้จะเป็นการทำงานแบบเสริมสร้างการหลั่งสารอักเสบ Inflammation เพื่อตอบสนองต่อระบบภูมิคุ้มกันได้ดีขึ้น เมื่อระบบภูมิคุ้มกันเกิดการตอบสนอง โอกาสเจ็บป่วยจากแบคทีเรีย, เชื้อไวรัส, เชื้อโรคขนาดเล็กต่างๆ ก็ลดน้อยลง
การทำงานของภูมิคุ้มกัน NK Cell มีกลไกอย่างไร
การทำงานของ nk cell คือเซลล์ด่านหน้าจะคอยป้องกันเซลล์แปลกปลอม ซึ่งปกติ nk cell มีอยู่ภายในร่างกายประมาณ 2,000-5,000 ล้านเซลล์ เมื่อพบเจอเซลล์แปลกปลอมจะรู้ได้ทันที เซลล์ที่เป็นอันตราย nk cell จะส่งตัวรับสัญญาณ เพื่อให้เกิดกระบวนการทำลายเซลล์แปลกปลอม โดยกระบวนการนี้เกิดขึ้นทันทีภายใน 24 ชั่วโมง
นอกจากนี้ยังมีการทำงานของ nk cell activity คือค่าสะท้อนถึงตัววัดความสามารถในร่างกาย ทำให้เรารับรู้ความแข็งแรงของระบบภูมิคุ้มกัน ผ่านการตรวจประเมินโดยแพทย์และยังรู้ถึงปัจจัยการเกิดโรค เช่น คนที่นอนไม่หลับพักผ่อนไม่เพียงพอ, เครียดสะสม, ทานอาหารไม่ครบ 5 หมู่ อาจมีค่า nk cell activity ต่ำกว่าเกณฑ์ส่งผลให้มีโอกาสเป็นโรคที่เกิดจากการติดเชื้อหรือมีปัญหาสุขภาพตามมา แต่การวัดค่า nk cell ไม่อาจระบุโรคได้ ซึ่งแพทย์จะนำค่าวัดที่ได้มาเป็นการช่วยวินิจฉัยเพิ่มเติมในการตรวจหาโรค
หน้าที่ของ NK Cell
หน้าที่ของระบบภูมิคุ้มกัน nk cell คือเริ่มจากจัดการเซลล์แปลกปลอม เป็นปฏิกิริยาลูกโซ่เรียกว่า Cytotoxicity สามารถฆ่าได้โดยตรง นอกจากนี้ NK Cell หน้าที่ยังสามารถปล่อยสารโปรตีน Cytokine ร่วมกับเซลล์อื่นๆ ในระบบผ่านการเรียกมาช่วยฆ่าเซลล์อันตรายหรือป้องกันการเติบโตของเซลล์เนื้องอกและเซลล์มะเร็ง โดย nk cell ที่มีอยู่แล้วในร่างกายสามารถเกิดขึ้นเองและได้รับมาภายหลัง จึงแบ่งได้เป็น 2 ประเภทดังนี้
- nk cell ที่มีอยู่แล้วในร่างกายตั้งแต่กำเนิด ซึ่งจะเป็นระบบภูมิคุ้มกันที่ผลิตออกมาส่วนไขกระดูก, ผิวหนัง, เม็ดเลือดขาว
- ภูมิคุ้มกันรับมาภายหลังมีทั้งภูมิคุ้มกันก่อเองเป็น active immunity คือ ภูมิคุ้มที่เกิดการกระตุ้นแอนติเจนหรือได้รับเชื้อที่กำลังอ่อนแอ เช่น การฉีดวัคซีน, ติดไข้หวัดรวมไปถึงโรคต่างๆ และภูมิคุ้มรับมาภายหลังเป็น passive immunity เกิดจากการสกัดเลือดของสิ่งมีชีวิตแล้วฉีดต้านโรคเข้าสู่ร่างกาย เช่น น้ำนมแม่, เซรุ่มแก้พิษ, ยาแก้บาดทะยักและโรคคอตีบเป็นต้น
ปัจจัยที่ส่งผลให้ประสิทธิภาพการทำงานของ NK Cell ลดลง
เมื่อเราอายุมากขึ้นจำนวน nk cell ในร่างกายและประสิทธิภาพการทำงานจะลดลง ส่งผลให้ระบบภูมิคุ้มกันต่ำ ผู้สูงอายุส่วนมากจึงมีโอกาสเจ็บป่วยง่ายหรือป่วยหนักหลังได้รับเชื้อและเสี่ยงเป็นโรคมะเร็งมากกว่ากลุ่มคนอายุน้อย nk cell เลยมีประโยชน์มาก เราจึงควรระวังไม่ให้ปัจจัยอื่นมาทำให้การทำงานของ nk cell ลดลงก่อนวัยอันควร ซึ่งมีข้อควรระวัง ดังนี้
- นอนพักผ่อนไม่เพียงพอน้อยกว่า 8 ชม. ต่อวันและนอนไม่เป็นเวลา นอนไม่สม่ำเสมอ
- เครียดมากจนเกินไป เครียดสะสม จนส่งผลต่อระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย
- กินอาหารไม่ครบ 5 หมู่หรือกินอาหารทอด ไขมันสูงบ่อยๆ เค็มจัด หวานจัดและอาหารแปรรูป
- พฤติกรรมการดำเนินชีวิตประจำวัน เช่น ทานอาหารไม่เป็นเวลา, ไม่ออกกำลังกาย, สูบบุหรี่จัดและดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ
- ผู้ที่มีภาวะน้ำหนักเกินเกณฑ์
- มีโรคประจำตัวบางอย่าง เช่น โรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง AIDS, โรคแพ้ภูมิตัวเอง SLE, โรคมะเร็ง
ใครบ้างที่ควรเข้ารับการประเมินระดับภูมิคุ้มกัน NK Cell
nk cell therapy คือการรักษาด้วยเซลล์เม็ดเลือดขาวที่มี Nk cell จากนั้นแพทย์ต้องนำเลือดของผู้รักษา ออกไปเพาะเลี้ยงเพิ่มจำนวนหรือเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเซลล์ ให้กำจัดเชื้อไวรัสและเซลล์มะเร็งได้ดีมากขึ้น แต่ก่อนทำการรักษาด้วย natural killer cells จำเป็นจะต้องทำการตรวจวัดระดับภูมิคุ้มกัน เพื่อวัดค่า interferon gamma โดยการเจาะเลือดจำนวน 1 ซีซี ใช้วัดการทำงานและประเมินความสามารถของ NK Cell ในร่างกาย ซึ่งผู้ที่ควรเข้ารับการประเมินจะแบ่งได้หลายแบบ ได้แก่
- กลุ่มคนที่มีสุขภาพดี ร่างกายแข็งแรง แต่ต้องการตรวจเพื่อวัดการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย ใช้เป็นพื้นฐานข้อมูลด้านสุขภาพหรือหาความเสี่ยงโรคมะเร็ง เพื่อป้องกันในอนาคต
- ผู้ที่มีการติดเชื้อเป็นไข้หวัดหรือโรคต่างๆ บ่อยครั้ง
- ผู้ที่ต้องสัมผัสกับมลพิษหรือทำงานที่มีความเสี่ยงในการสูดดมสารพิษเป็นเวลานาน
- มีความผิดปกติด้านพันธุกรรม
- มีประวัติคนในครอบครัวเคยเป็นโรคมะเร็ง
- ตรวจเพื่อติดตามผลการรักษาหลังจากเป็นโรคมะเร็งหรือรักษาหายแล้ว
- ตรวจเพื่อหาความเสี่ยงสำหรับผู้ที่ไม่ได้ออกกำลังกายเป็นประจำและทานอาหารไม่ครบ 5 หมู่
- ผู้ที่ติดการดื่มแอลกอฮอล์หรือสูบบุหรี่บ่อย
- ผู้ที่มีปัญหาเหนื่อยล้าเรื้อรัง พักผ่อนน้อยและมีความเครียดสะสม
การตรวจประเมินระดับภูมิคุ้มกัน NK Cell อาจไม่ได้บอกโรคที่เป็นอยู่ได้ แต่เป็นการเลือกตรวจเพื่อรักษาสุขภาพ ช่วยให้แพทย์วินิจฉัยว่าควรตรวจโรคเพิ่มเติมหรือปัญหาสุขภาพด้านต่างๆ เป็นการป้องกันความเสี่ยงการเป็นโรคร้ายในเบื้องต้นและอนาคต
การรักษามะเร็งด้วย NK cell ส่งผลอย่างไรบ้าง
การรักษามะเร็งด้วย nk cell ในปัจจุบันมีรายงานการวิจัย nk cell therapy คือสามารถใช้ร่วมการรักษากับทางการแพทย์ในผู้ป่วยโรคมะเร็งระยะต้นได้จริง ผลลัพธ์การรักษาออกมาได้ประสิทธิภาพและไม่ส่งผลข้างเคียงต่อร่างกาย สำหรับกลุ่มมะเร็งระยะลุกลาม nk cell สามารถช่วยลดและควบคุมการลุกลามของเซลล์มะเร็งได้ นอกจากนี้การใช้ NK Cells Therapy ยังใช้รักษาโรคมะเร็งได้อีกหลายชนิด เช่น มะเร็งต่อมลูกหมาก,มะเร็งลำไส้, มะเร็งกระเพาะอาหารและลดความเสี่ยงภาวะแทรกซ้อนจากการเกิดโรคอื่นๆ ตามมา
การรักษามะเร็งด้วย NK Cell คือการนำเลือดส่งห้องแล็บเพื่อคัดแยก nk cell แล้วนำไปเพิ่มจำนวน 1500 เท่า เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการกำจัดไวรัสและใช้ nk cell รักษามะเร็ง ซึ่งระยะเวลาในการเพิ่มจำนวนเซลล์ประมาณ 2-3 สัปดาห์ natural killer cells ที่ได้จะเพิ่มจำนวนมากถึง 5 พันล้านเซลล์ ถึงจะพร้อมใช้งาน ผ่านการให้ทางหลอดเลือดดำคล้ายกับการให้น้ำเกลือ
แต่การรักษาด้วย nk cell ผลลัพธ์นั้นจะขึ้นอยู่กับวิธีเพาะเลี้ยงและการเก็บรักษาเซลล์ เพื่อให้เซลล์มีสภาพพร้อมใช้งานมีประสิทธิภาพสูง โดยการเพาะเลี้ยง nk cell มี 2 แบบคือ
- การเพาะเลี้ยงแบบเซลล์พี่เลี้ยง มีข้อดีคือสะดวกรวดเร็ว ใช้ระยะเวลาน้อยและได้จำนวนมาก ข้อเสียอาจได้ประสิทธิภาพในการทำงานของเซลล์ต่ำกว่าปกติ
- การเพาะเลี้ยงแบบไม่ใช่เซลล์พี่เลี้ยง มีข้อดีคือ เซลล์ที่ได้จะมีประสิทธิภาพสูงพร้อมใช้รักษา เมื่อฉีดเข้าสู่ร่างกาย แต่จะได้จำนวนน้อยกว่าแบบแรก
เสริมสร้างภูมิคุ้มกันด้วย NK Cell ที่ S'RENE คลินิกสุขภาพคนเมือง
ข้อดีของการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันด้วย nk cell คือช่วยให้ร่างกายมีสุขภาพดีขึ้น เพิ่มประสิทธิภาพของเซลล์ให้พร้อมต่อสู้กับเซลล์แปลกปลอมได้ดียิ่งขึ้น โดยจะต้องตรวจวัดระบบภูมิคุ้มกันก่อนเพื่อให้แพทย์ประเมิน หาวิธีรักษาในเบื้องต้น ทำให้ nk cell therapy คืออีกหนึ่งทางเลือกการป้องกันมะเร็งและโรคติดเชื้อต่างๆ ที่คุณสามารถทำได้ตั้งแต่เนิ่นๆ
สำหรับผู้ที่สนใจทำ NK Cell Therapy สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่คลินิกสุขภาพ S'RENE มีหลายสาขาให้คุณเลือกทั้ง สาขาทองหล่อ (โทร 064 184 5237), สาขา Charn แจ้งวัฒนะ (โทร 099 807 7261), สาขา Paradise Park ชั้น 3 (โทร 081 249 7055) หรือจองคิวออนไลน์ผ่าน LINE: @SRENEbySLC
อ้างอิง แบบ APA
โพสตอบ
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเโพสตอบได้