ผนังชื้น อันตรายที่แอบแฝงอยู่ในบ้านของคุณ

ผนังชื้นเป็นปัญหาที่พบบ่อยในบ้านเรือนและอาคารต่าง ๆ โดยเฉพาะในประเทศที่มีอากาศร้อนชื้นอย่างประเทศไทย ปัญหาผนังชื้นไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบต่อความสวยงามของอาคารเท่านั้น แต่ยังอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพของผู้อยู่อาศัยได้ด้วย เช่น การเกิดเชื้อราและแบคทีเรีย ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการภูมิแพ้หรือปัญหาระบบทางเดินหายใจ นอกจากนี้ ผนังชื้นยังอาจทำให้โครงสร้างของอาคารเสื่อมสภาพเร็วขึ้น ส่งผลให้ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมมากขึ้นในระยะยาว ดังนั้น การแก้ปัญหาผนังชื้นจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม

ผนังชื้นเกิดจากสาเหตุใด?

ผนังชื้นเป็นปัญหาที่สร้างความกังวลให้กับเจ้าของบ้านและอาคารหลายคน นอกจากจะทำให้บ้านดูไม่สวยงามแล้ว ยังส่งผลเสียต่อสุขภาพและโครงสร้างของตัวอาคารอีกด้วย แต่ก่อนที่เราจะเรียนรู้วิธีแก้ผนังชื้น เรามาทำความเข้าใจถึงสาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหานี้กันก่อน

สาเหตุหลักที่ทำให้เกิดผนังชื้นมีดังนี้:

• ความชื้นจากภายนอก: ฝนตกหนักหรือน้ำท่วมขังบริเวณรอบบ้านอาจทำให้น้ำซึมผ่านผนังเข้ามาได้ โดยเฉพาะหากผนังปูนหรือผนังบ้านไม่ได้รับการเคลือบสารกันชื้นอย่างเหมาะสม ทำให้ผนังบ้านชื้น
• ความชื้นจากใต้ดิน: น้ำใต้ดินสามารถซึมขึ้นมาตามรอยแตกของฐานรากและผนังได้ ปัญหานี้มักพบในบ้านที่สร้างในพื้นที่ที่มีระดับน้ำใต้ดินสูง
• การระบายอากาศไม่ดี: ห้องที่อับชื้นและมีการระบายอากาศไม่เพียงพอ เช่น ห้องน้ำหรือห้องครัว มักเป็นแหล่งสะสมความชื้นและทำให้เกิดผนังห้องน้ำชื้นได้ง่าย
• การรั่วซึมของท่อน้ำ: ท่อน้ำที่แตกหรือรั่วซึมภายในผนังเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดผนังชื้น สีบวม และอาจนำไปสู่การเกิดเชื้อราได้
• การควบแน่นของไอน้ำ: เมื่ออากาศร้อนชื้นสัมผัสกับพื้นผิวที่เย็นกว่า เช่น ผนังห้องแอร์ จะทำให้เกิดหยดน้ำและความชื้นสะสมบนผนัง
• วัสดุก่อสร้างที่ไม่เหมาะสม: การใช้วัสดุที่ดูดซับความชื้นได้ง่ายหรือไม่มีคุณสมบัติในการป้องกันความชื้น อาจทำให้ผนังปูนชื้นและเสื่อมสภาพเร็วกว่าปกติ

วิธีแก้ไขผนังชื้นเบื้องต้น

การแก้ไขปัญหาผนังชื้นเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรละเลย เพราะนอกจากจะทำให้บ้านดูไม่สวยงามแล้ว ยังอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพของผู้อาศัยและโครงสร้างของตัวอาคารในระยะยาว วิธีแก้ผนังห้องชื้นมีหลากหลายวิธี ขึ้นอยู่กับสาเหตุและความรุนแรงของปัญหา วิธีแก้ผนังชื้นที่สามารถทำได้ไม่ยากที่บ้าน มีดังนี้

1. ปรับปรุงการระบายอากาศ

• เปิดหน้าต่างหรือประตูให้อากาศถ่ายเทสะดวก
• ติดตั้งพัดลมระบายอากาศในห้องน้ำหรือห้องครัว
• ใช้เครื่องดูดความชื้นในพื้นที่ที่มีความชื้นสูง

2. แก้ไขปัญหาการรั่วซึม

• ตรวจสอบและซ่อมแซมหลังคาที่รั่ว
• อุดรอยแตกหรือรูรั่วบนผนังด้วยวัสดุกันน้ำ
• ซ่อมแซมท่อน้ำที่รั่วซึมภายในผนัง ไม่ให้ผนังชื้น

3. ป้องกันความชื้นจากภายนอก

• ทาสีกันน้ำหรือสารกันชื้นบนผนังภายนอก
• ติดตั้งรางน้ำฝนเพื่อระบายน้ำออกจากตัวอาคาร
• ปรับปรุงการระบายน้ำรอบ ๆ บ้านเพื่อป้องกันน้ำขัง

4. การใช้วัสดุกันชื้น

• ทาสารกันชื้นบนผนังก่อนทาสีทับ ป้องกันผนังชื้นสีบวม
• ใช้วัสดุปูพื้นที่มีคุณสมบัติกันชื้นในห้องน้ำหรือห้องที่มีความชื้นสูง
• เลือกใช้สีที่มีคุณสมบัติกันชื้นสำหรับทาผนังภายในและภายนอก

5. ปรับอุณหภูมิภายในบ้าน

• ใช้เครื่องปรับอากาศหรือเครื่องทำความร้อนเพื่อควบคุมอุณหภูมิและความชื้น
• หลีกเลี่ยงการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิอย่างรวดเร็วเพื่อลดการควบแน่นของไอน้ำ

ไม่แก้ไขปัญหาผนังชื้นจะส่งผลเสียอย่างไร

หลายคนอาจมองข้ามปัญหาผนังชื้น คิดว่าเป็นเพียงปัญหาเล็กน้อยที่ไม่จำเป็นต้องรีบแก้ไข แต่ความจริงแล้ว การปล่อยให้ผนังชื้นโดยไม่จัดการแก้ไขอาจนำไปสู่ปัญหาที่ร้ายแรงกว่าที่คิด ลองมาดูกันว่าหากเราละเลยปัญหาผนังชื้น อะไรจะเกิดขึ้นบ้าง

• การเสื่อมสภาพของโครงสร้างอาคาร

ความชื้นที่สะสมในผนังเป็นเวลานานจะทำให้วัสดุก่อสร้างเสื่อมสภาพเร็วขึ้น โดยเฉพาะในกรณีของผนังปูนชื้น อาจทำให้เหล็กเสริมในคอนกรีตเกิดสนิมและขยายตัว ส่งผลให้คอนกรีตแตกร้าวและความแข็งแรงของโครงสร้างลดลง

• การเกิดเชื้อราและแบคทีเรีย

ผนังชื้นเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ที่ดีของเชื้อราและแบคทีเรีย ซึ่งไม่เพียงแต่ทำให้ผนังเกิดคราบดำน่าเกลียด แต่ยังส่งผลเสียต่อสุขภาพของผู้อยู่อาศัย โดยเฉพาะผู้ที่มีภูมิแพ้หรือโรคระบบทางเดินหายใจ

• ปัญหาสุขภาพของผู้อยู่อาศัย

การอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นสูงและมีเชื้อราเป็นเวลานานอาจทำให้เกิดอาการแพ้ ระคายเคืองตา จมูก และลำคอ หรือแม้แต่โรคปอดบางชนิด โดยเฉพาะในกลุ่มเด็ก ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ

• ความเสียหายต่อเฟอร์นิเจอร์และข้าวของ

ความชื้นไม่เพียงแต่ทำลายผนังเท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบต่อเฟอร์นิเจอร์ไม้ เสื้อผ้า หนังสือ และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ทำให้เกิดความเสียหายและอาจต้องเสียค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมหรือซื้อใหม่

• กลิ่นอับชื้น

ผนังชื้นมักก่อให้เกิดกลิ่นอับไม่พึงประสงค์ ซึ่งนอกจากจะทำให้รู้สึกไม่สบายแล้ว ยังอาจเป็นสัญญาณของการเกิดเชื้อราที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า

• ค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมที่สูงขึ้น

การละเลยปัญหาผนังชื้นในระยะแรกอาจทำให้ปัญหาลุกลามจนยากแก่การแก้ไข ส่งผลให้ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมสูงกว่าที่ควรจะเป็นหากแก้ไขตั้งแต่เนิ่น ๆ

สรุปผนังชื้น ปัญหาที่ไม่ควรละเลย

ปัญหาผนังชื้นเป็นสิ่งที่เจ้าของบ้านหรืออาคารไม่ควรมองข้าม การทำความเข้าใจถึงสาเหตุและวิธีการแก้ไขที่ถูกต้องจะช่วยให้เราสามารถจัดการกับปัญหานี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นการปรับปรุงการระบายอากาศ การใช้วัสดุกันชื้น หรือการแก้ไขปัญหาการรั่วซึม ล้วนเป็นวิธีที่สามารถช่วยแก้ปัญหาผนังชื้นได้ การรีบดำเนินการแก้ไขตั้งแต่เนิ่น ๆ ไม่เพียงแต่จะช่วยรักษาสภาพบ้านให้สวยงามและน่าอยู่เท่านั้น แต่ยังช่วยป้องกันปัญหาสุขภาพและประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาวอีกด้วย