ขนาดกล่องพัสดุ ที่นิยม มีกี่ขนาด แตกต่างกันอย่างไร
สำหรับใครที่เริ่มต้นทำธุรกิจขายสินค้าต้องขนส่งสินค้าผ่านผู้ให้บริการต่างๆ ต้องคิดถึงเรื่องการแพ็กของ จำนวนกล่องที่ต้องใช้ ขนาดกล่องพัสดุ หรือขนาดกล่องไปรษณีย์ที่เราต้องใช้ขนาดกล่องพัสดุเพื่อให้ใส่ได้พอดีไม่เล็กไป ใหญ่ไป ต้องคิดถึงค่าใช้จ่ายของกล่อง และกล่องแต่ละขนาดก็มีราคาไม่เท่ากันอีกด้วย ซึ่งในบทความนี้เราจะมาให้ความรู้กันว่า กล่องพัสดุคืออะไร วัสดุทำมาจากอะไร ขนาดกล่องพัสดุมีขนาดอะไรบ้าง มาให้หายสงสัยกัน
ขนาดกล่องพัสดุส่งผลต่อค่าขนส่งอย่างไร
ขนาดกล่องพัสดุ และน้ำหนักนั้นถืออีกหนึ่งในสิ่งที่ต้องคำนวณเพื่อควบคุมค่าใช้จ่ายในการขนส่ง ซึ่งโดยปกติแล้วสำหรับใครที่ส่งของเป็นประจำนั้นจะทราบกันดีว่า ค่าใช้จ่ายในการส่งของนั้นจะคิดจากน้ำหนักของพัสดุ ซึ่งความหมายคือ ถ้าน้ำหนักของพัสดุมาก ราคาในการจัดส่งจะแพงขึ้น กลับกันหากพัสดุมีน้ำหนักน้อย ค่าขนส่งก็จะถูกกว่าพัสดุที่มีน้ำหนักมาก
โดยการคำนวณจากน้ำหนักของพัสดุ ทำให้การขนส่งโดยทั่วไปแล้วเราจึงใช้ขนาดของกล่องพัสดุที่พอดีกับผลิตภัณฑ์หรือสินค้าที่เราต้องการส่ง แต่มีบางกรณีที่สินค้ามีน้ำหนักเบาแต่มีขนาดกล่องที่ใหญ่ ทางผู้ให้บริการขนส่งจะคำนวณค่าขนส่งจากน้ำหนักตามปริมาตร (Volumetric Weight) หรือคิดจากขนาดของกล่องหรือตัวที่บรรจุสินค้า โดยใช้สูตรคำนวณคือ กว้าง x ยาว x สูง หารด้วย 5,000 เพื่อใช้หาน้ำหนักตามปริมาตรเป็นกิโลกรัม และจะใช้ตัวเลขผลลัพธ์เพื่อคิดเป็นค่าขนส่งแทนน้ำหนักของพัสดุ ดังนั้นการขนส่งไม่เพียงแต่คิดถึงน้ำหนักของตัวพัสดุแต่ต้องคำนึงถึงขนาดกล่องของพัสดุด้วย หากเราเลือกขนาดกล่องพัสดุที่เหมาะสมจะทำให้ช่วยลดต้นทุนค่าขนส่งได้เป็นอย่างดี
ขนาดกล่องพัสดุ มีอะไรบ้าง
ขอบคุณรูปภาพจาก RNP Express
ขนาดกล่องพัสดุนั้นถูกผลิตขึ้นเพื่อให้มีหลายขนาดเพื่อที่ผู้ใช้นั้นสามารถเลือกขนาดกล่องที่มีขนาดพอดีกับการบรรจุสินค้า ไม่ใหญ่เกินไปหรือเล็กเกินไป สำหรับการทำธุรกิจ การเลือกขนาดของกล่องเป็นเรื่องที่สำคัญเพราะจะกระทบต่อค่าขนส่งได้โดยตรง โดยขนาดกล่องแต่ละขนาดจะเหมาะสำหรับสินค้าที่แตกต่างกันไป โดยขนาดกล่องไปรษณีย์ใส่สินค้าขนาดไหนเหมาะกับสินค้าประเภทอะไร เรามีรายละเอียดขนาดกล่องต่างๆดังนี้คือ
- เบอร์ A (14 X 20 X 6 ซม.) : เหมาะกับสินค้าขนาดเล็ก เช่น ของชิ้นเล็ก เอกสาร การ์ด
- เบอร์ B (17 X 25 X 9 ซม.) : เหมาะกับสินค้าขนาดกลาง เช่น กระเป๋า รองเท้า เสื้อผ้า
- เบอร์ C (20 X 30 X 11 ซม.) : เหมาะกับสินค้าขนาดปานกลาง เช่น หนังสือที่มีความหนาไม่มาก ของใช้ชิ้นเล็ก
- เบอร์ D (22 X 35 X 14 ซม.) : เหมาะกับสินค้าขนาดใหญ่ เช่น ของใช้ภายในบ้าน
- เบอร์ E (24 X 40 X 17 ซม.) : เหมาะกับสินค้าชิ้นใหญ่ เช่น เสื้อผ้าที่มีความหนา หลายชิ้น กระเป๋า
- เบอร์ F (30 X 45 X 20 ซม.) : เหมาะกับสินค้าชิ้นใหญ่พิเศษ เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็ก
- เบอร์ G (31 X 36 X 26 ซม.) : เหมาะกับสินค้าชิ้นใหญ่พิเศษ เช่น ลังผลไม้ ขวดแก้วขนาดใหญ่ที่ต้องมีการใส่วัสดุกันกระแทก
- เบอร์ H (40 X 45 X 34 ซม.) : เหมาะกับสินค้าชิ้นใหญ่พิเศษ เช่น ทีวี เครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดใหญ่และต้องการใส่วัสดุกันแรงกระแทกจำนวนมาก
- เบอร์ I (หนา 5 ชั้น) (45 X 55 X 40 ซม.) : เหมาะกับสินค้าชิ้นใหญ่พิเศษที่ต้องการความแข็งแรงทนทาน เช่น เฟอร์นิเจอร์ขนาดใหญ่
นอกจากเบอร์และขนาดกล่องที่กล่าวมาก แต่ละผู้ให้บริการนั้นจะมีขนาดกล่อง เบอร์ที่แตกต่างยิบย่อยกันไปเช่น ขนาดเบอร์ 0, เบอร์ 00, เบอร์ 0+4, เบอร์ 2A, เบอร์ C+9 เป็นต้น เพื่อเป็นขนาดตัวเลือกให้ผู้ใช้บริการเลือกขนาดกล่องที่มีขนาดที่พอดีกับการใช้ขนส่ง กล่องพัสดุนั้นถูกผลิตด้วยคุณภาพสูง แข็งแรง เพื่อป้องกันความเสียหายเมื่อถูกกระแทก เนื่องจากการขนส่งจะต้องถูกขนย้ายสินค้าในแต่ละจุดขนส่งเพื่อไปยังปลายทาง โดยเฉพาะการส่งสินค้าไปยังต่างประเทศที่สินค้าต้องมีการขนย้ายผ่านหลายจุดโอนถ่ายสินค้า ทำให้นอกจากขนาดกล่องพัสดุคือสิ่งสำคัญแล้ว คุณภาพของกล่องพัสดุก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาเสียหายชำรุดทั้งขณะขนส่งและถึงปลายทาง
ทำไมจึงควรเลือกขนาดกล่องพัสดุที่เหมาะสม
กล่องพัสดุถือเป็นค่าใช้จ่ายส่วนหนึ่งในการขนส่ง การเลือกขนาดกล่องพัสดุที่พอดีกับสินค้า เลือกกล่องที่มีคุณภาพสูงเพื่อป้องกันการเสียหายของสินค้า ดังนั้นเรามาดูเหตุผลว่าทำไมการเลือกขนาดกล่องพัสดุให้เหมาะสม มีความสำคัญอย่างไรกับการทำธุรกิจกัน
- ลดต้นทุนด้านการขนส่ง - หากคำนวณจากน้ำหนักตามปริมาตร กล่องขนาดเล็กกว่านั้นจะมีราคาขนส่งที่ถูกกว่ากล่องใบใหญ่กว่า หากเราสามารถใช้กล่องขนาดที่พอดีและสามารถบรรจุสินค้าได้ดีไม่เสี่ยงต่อความเสียหายจะทำให้ช่วยลดต้นทุนได้เป็นอย่างดี
- ประหยัดวัสดุ - วัสดุเพื่อการบรรจุภัณฑ์ หากเราขนาดกล่องที่เหมาะสมไม่ใหญ่เกินไป จะช่วยลดวัสดุบรรจุภัณฑ์ได้มาก
- การจัดเก็บมีประสิทธิภาพ - การเลือกขนาดกล่องพัสดุที่เหมาะสม กล่องที่มีคุณภาพ จะช่วยให้การขนย้ายสะดวกมากขึ้น ไม่ต้องระมัดระวังมากเกินความจำเป็น มีพื้นที่ในการเก็บสินค้ามากขึ้น จะทำให้การบริหารสินค้าง่ายขึ้นด้วย
- ลดความเสียหายของสินค้า - การเลือกขนาดกล่องที่เหมาะสมกับตัวสินค้า ไม่เล็กไปหรือใหญ่ไป ใส่วัสดุบรรจุภัณฑ์ได้เหมาะสมจะช่วยป้องกันสินค้าได้ดีขึ้น
สรุป ขนาดกล่องพัสดุ สำคัญอย่างไร
ขนาดกล่องพัสดุ นั้นมีหลายขนาดทั้งกล่องใบเล็กไปจนถึงขนาดใบใหญ่พิเศษ ขนาดกล่องพัสดุแต่ละขนาดจะเหมาะกับการบรรจุสินค้าที่มีขนาดต่างกันไป การที่เราเลือกขนาดกล่องพัสดุให้เหมาะสมกับสินค้าที่เราต้องการบรรจุจะช่วยให้ลดความเสี่ยงที่จะเกิดความเสียหายกับตัวสินค้าและยังเป็นการประหยัดต้นทุนทางด้านขนส่งได้อีกด้วย
โพสตอบ
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเโพสตอบได้