โรคชักในเด็กอันตรายหรือไม่ มีวิธีป้องกันและรักษาอย่างไร

jjasmine

ขีดเขียนชั้นมอต้น (105)
เด็กใหม่ (0)
เด็กใหม่ (0)
POST:133
เมื่อ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2567 17.56 น.

 

 

โรคชักในเด็ก เป็นภาวะทางระบบประสาทที่พบได้บ่อยในเด็ก มักแสดงอาการชักเกร็งทั้งตัว แขนขากระตุก เหม่อลอย ตาลอย ซึ่งอาจเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น พันธุกรรม สมองได้รับความกระทบกระเทือน การติดเชื้อในสมอง พ่อแม่และผู้ปกครองจะต้องใส่ใจและรีบพาเด็กเข้ารับการรักษา 


 

โรคชักในเด็กคืออะไร 

โรคลมชักในเด็ก หรือโรคชักในเด็ก เป็นภาวะทางระบบประสาทที่พบได้บ่อยในเด็ก มักแสดงอาการชักเกร็งทั้งตัว แขนขากระตุก เหม่อลอย ตาลอย ซึ่งอาจเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น พันธุกรรม สมองได้รับความกระทบกระเทือน การติดเชื้อในสมอง และสาเหตุอื่น ๆ 

 

อันตรายของโรคชักในเด็ก

ที่จริงแล้ว โรคชักในเด็กค่อนข้างเป็นอันตราย เนื่องจากจะทำให้เกิดความเจ็บป่วยตามมาหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นอาการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ เนื่องจากอาการชักเกร็งอาจทำให้เด็กหกล้มและได้รับบาดเจ็บได้ 

นอกจากนี้เด็กอาจจะมีปัญหาการเรียนรู้ ซึ่งโรคลมชักอาจส่งผลต่อพัฒนาการทางสมองและการเรียนรู้ของเด็ก การเกิดภาวะแทรกซ้อนทางระบบประสาท เนื่องจากโรคลมชักที่รุนแรงและไม่ได้รับการรักษาอาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนทางระบบประสาท เช่น โรคลมชักเรื้อรัง ความพิการทางปัญญาได้ 

 

การป้องกันโรค 

การเกิดโรคชักในเด็ก สามารถเกิดได้จากหลากหลายปัจจัย ทั้งในช่วงก่อนคลอดและหลังคลอด โดยสามารถป้องกันได้ดังนี้ 

  • ก่อนคลอด คุณแม่ควรดูแลสุขภาพให้แข็งแรง ควบคุมโรคประจำตัว งดสูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ และสารเสพติด รับประทานยาตามแพทย์สั่ง และตรวจก่อนคลอดตามนัด เพื่อป้องกันความผิดปกติจนเกิดโรคชักในเด็กได้ 
  • หลังคลอด พ่อแม่และผู้ปกครองควรดูแลทารกอย่างใกล้ชิด ป้องกันอุบัติเหตุต่าง ๆ อย่างการหกล้ม การได้รับความรุนแรงบริเวณศีรษะ รวมถึงการได้รับวัคซีนป้องกันโรคติดต่อตามกำหนด และพาเด็กไปพบแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพตามนัด

 

การรักษาโรคลมชักในเด็ก

การรักษาโรคลมชักในเด็กขึ้นอยู่กับสาเหตุและความรุนแรงของโรค โดยทั่วไปแพทย์จะรักษาด้วยยาต้านชัก  ร่วมกับการรักษาสาเหตุที่ทำให้เกิดโรค  ในบางกรณีอาจจำเป็นต้องผ่าตัดสมองเพื่อทำการรักษา

 

เมื่อพบเด็กชักควรทำอย่างไร 

หากพ่อแม่หรือผู้ปกครองพบว่าเด็กกำลังชัก ให้ดำเนินการดังนี้ 

  • จัดท่าให้เด็กนอนตะแคง เพื่อป้องกันไม่ให้สำลัก
  • เอาสิ่งของอันตรายออกจากบริเวณใกล้เคียง
  • ปลดเสื้อผ้าที่รัดแน่น
  • วางผ้าเย็นประคบหน้าผาก
  • พูดปลอบโยนเด็ก

 

เมื่อเด็กชักหยุด ให้นอนพักต่ออีกสักพัก สังเกตอาการ และพาไปพบแพทย์โดยเร็วที่สุด และถ้าเป็นไปได้ควรจับเวลาที่เด็กชัก เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการรักษา 

 

โรคชักในเด็กสามารถเกิดขึ้นได้ แต่ก็สามารถป้องกันได้เช่นเดียวกัน พ่อแม่จึงต้องป้องกันและดูแลตั้งแต่ตั้งครรภ์ไปจนถึงหลังคลอด เพื่อลูกน้อยจะได้มีสุขภาพที่แข็งแรงและปลอดภัย

แก้ไขครั้งที่ 2 โดย jjasmine เมื่อ12 กรกฎาคม พ.ศ. 2567 17.56 น.

โพสตอบ

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเโพสตอบได้

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา