ReLEx นวัตกรรมใหม่เลสิกไร้ใบมีด มีจุดเด่นอย่างไรบ้าง ?

ReLEx คือการทำเลสิครูปแบบใหม่ด้วยเลเซอร์เป็นวิธีการรักษาผ่าตัดแบบไร้ใบมีด เลสิค ReLEx ดีไหม ? ใครบ้างที่เหมาะกับการทำ ReLEx

เชื่อได้ว่าหลาย ๆ คนน่าจะต้องเคยได้ยินกับการทำเลสิก ที่เป็นวิธีการรักษาความผิดปกติของดวงตา โดยการทำเลสิกนั้นมีความจำเป็นที่จะต้องมีการใช้ใบมีดผ่าตัด อาจทำให้บางคนรู้สึกกลัว ว่าในการรักษาจะรู้สึกเจ็บ หรือส่งผลกระทบในการใช้ชีวิต แต่ในตอนนี้ได้มีนวัตกรรมใหม่ที่เรียกว่า ReLEx หรือ ReLEx  ที่เป็นการรักษาด้วยการใช้เลเซอร์ทุกขั้นตอน เป็นการรักษาแบบไร้ใบมีด ลดความกังวล เพิ่มประสิทธิภาพในการรักษาให้ดียิ่งขึ้น ซึ่งในบทความนี้จะมาแนะนำทุกคนที่มีความสนใจให้รู้จักกับ ReLEx  ให้มากขึ้น ทั้งประโยชน์ของการทำเลสิค ReLEx  ไปจนถึงการเตรียมความพร้อมก่อนทำ-หลังทำ ReLEx ให้กับผู้ที่มีความสนใจทุกคน

ReLEx คืออะไร ?

ReLEx หรือ ReLEx คือนวัตกรรมใหม่ของการรักษาภาวะผิดปกติของดวงตา เช่น สายตาสั้น, สายตาเอียง มีชื่อย่อมาจากคำว่า Refractive Lenticule Extraction, Small Incision Lenticule Extradition เป็นนวัตกรรมที่ได้รับการพัฒนามาจาก LASIK และ FemtoLASIK โดยการรักษาด้วยวิธีเลสิค ReLEx จะใช้นวัตกรรมแสงเลเซอร์ความเร็วสูง (Femtosecond Laser) ในการผ่าตัดทุกขั้นตอน เป็นการรักษาแบบไร้ใบมีด จึงทำให้เกิดแผลผ่าตัดมีขนาดที่เล็กเพียง 2-4 mm. มีความแม่นยำสูง ลดภาวะเสี่ยงที่จะเกิดฝากระจกตาเคลื่อน

ReLEx เหมาะกับใครบ้าง/ไม่เหมาะกับใคร ปัญหาสายตาแบบไหนควรทำ ?

ReLEx ในตอนนี้ยังถือเป็นนวัตกรรมที่มาใหม่ ในบางคนอาจจะยังไม่รู้จักกับ ReLEx เท่าไหร่นัก ยิ่งสำหรับคนที่มีความสนใจที่จะรักษาสายตาด้วยการผ่าตัดแบบ LASIK อาจจะมีข้อสงสัยว่า ReLEx จะเหมาะภาวะความผิดปกติของตนเอง หรือไม่ ซึ่งในหัวข้อนี้ก็จะมาแนะนำผู้ที่เหมาะกับการทำ และผู้ที่ไม่เหมาะ รวมถึงปัญหาสายตาแบบไหนถึงควรทำเลสิก ReLEx

ReLEx เหมาะกับผู้ที่ประสบกับภาวะความผิดปกติทางสายตาแบบไหนบ้าง ?

• ภาวะสายตาสั้น
• ภาวะสายตาเอียง หรือพบปัญหาร่วมกับภาวะสายตาสั้น
  
  

ใครที่เหมาะกับการทำเลสิก ReLEx

• ผู้ที่เข้ารับการรักษาจะต้องมีอายุ 20 ปี ไม่เกิน 55 ปี และต้องมีค่าสายตาที่คงที่อย่างต่ำ 1 ปี และสำหรับผู้ที่มีภาวะสายตาสั้นจะต้องอายุไม่เกิน 40 ปี
• ผู้ที่มีปัญหาค่าสายตาสั้นจะต้องไม่เกิน 1000 (-10.00 D) และสายตาเอียงต้องไม่เกิน 500(-5.00 D)
  
  

ใครที่ไม่เหมาะกับการทำเลสิค ReLEx

• ผู้ที่มีโรคเกี่ยวกับกระจกตา และโรคที่เกี่ยวกับการมองเห็น เช่น โรคตาแห้งรุนแรง, โรคกระจกตาย้วย, จอประสาทตาเสื่อม เป็นต้น
• ผู้ที่อยู่ในช่วงการตั้งครรภ์ หรืออยู่ในช่วงให้นมบุตร
• ผู้ที่มีโรคประจำตัวที่ส่งผลต่อการรักษา เช่น โรคแพ้ภูมิตัวเอง (SLE), โรครูมาตอยด์, โรคเบาหวาน
  
  

ประโยชน์ของการทำเลสิกแบบ ReLEx มีอะไรบ้าง มีข้อจำกัดไหม ?

เมื่อได้ทำความรู้กับ ReLEx แล้วในหัวข้อนี้ก็จะมาแนะนำข้อดีของ ReLEx คืออะไร และข้อจำกัดของการทำ ReLEx เพื่อเป็นตัวเลือกในการตัดสินสำหรับผู้ที่มีความสนใจ ดังนี้

ข้อดีของการทำ ReLEx คือ

• ReLEx เป็นวิธีการผ่าตัดไร้ใบมีด ไม่รู้สึกเจ็บเมื่อทำการรักษา
• ReLExให้ความรู้สึกหลังผ่าตัดที่สบายตามากกว่าการทำ LASIK แบบอื่น ๆ 
• ไม่มีปัญหาภาวะแทรกซ้อนที่เกิดจากการแยกชั้นของฝากระจกตา
• มีความแม่นยำสูง ใช้เวลาในการผ่าตัดที่น้อย
• แก้ปัญหาสายตาได้มากสุดที่ 1000 (-10.00 D) สายตาเอียงได้สูงสุดที่ 500 (-5.00 D)
• ReLEx คือทางเลือกสำหรับผู้ที่มีข้อจำกัดกระจกตาบาง สามารถเลือกใช้เลสิค ReLEx ในการรักษาได้
  
  

ReLEx ข้อเสีย หรือข้อจำกัด

• ReLEx ในปัจจุบันยังไม่สามารถรักษา ผู้ที่มีภาวะสายตายาวโดยกำเนิด รวมถึงสายตายาวตามอายุได้
  
  

การตรวจวิเคราะห์สภาพตา ก่อนเข้ารับการทำ ReLEx มีกี่วิธี อะไรบ้าง ?

ก่อนเข้ารับการทำ ReLEx ผู้ที่มีความสนใจที่จะเข้ารับการรักษาสายตาด้วยวิธีนี้ มีความจำเป็นที่จะต้องมีการตรวจวิเคราะห์สภาพตาก่อน เพื่อที่แพทย์จะตรวจถึงสุขภาพของดวงตา รวมถึงวิเคราะห์โอกาสสำเร็จของการรักษา และเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดผลข้างเคียงต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ ซึ่งในการตรวจจะมีการตรวจทั้งหมด 8 รายการ โดยจะมีรายการตรวจทั้งหมดก่อนที่จะทำการรักษาด้วย ReLEx มีดังนี้

• ตรวจวัดค่าสายตาเบื้องต้นด้วยคอมพิวเตอร์
• การหยอดยาเพื่อขยายม่านตา
• ทดสอบการมองเห็นของดวงตา
• วัดความดันของลูกตา
• ตรวจวัดค่าสายตาอย่างละเอียดโดยจักษุแพทย์
• ตรวจวัดปริมาณของน้ำตา
• วัดความหนากระจกตา และถ่ายภาพพื้นผิวกระจกตา
• ตรวจสภาพจอประสาทตาอย่างละเอียด 
  
  

เมื่อทราบถึงรายการการตรวจแล้ว ต่อมาจะเป็นวิธีการเตรียมตัวก่อนการทำ ReLEx สำหรับผู้ที่ต้องการเข้ารับการรักษาจะต้องมีการปฏิบัติอย่างเคร่งครัด

• ก่อนวันที่ต้องเข้ารับการตรวจวิเคราะห์สภาพตาก่อนทำเลสิค ReLEx ต้องงดใส่คอนแทคเลนส์เป็นเวลาตามประเภทของคอนแทคเลน์คือ คอนแทคเลนส์ชนิดนิ่ม (Soft Lens) งด 3 วัน คอนแทคเลนส์ชนิดกึ่งแข็งกึ่งนิ่ม (Semi Hard Lens) หรือ ชนิดแข็ง (Hard Lens) งด 14 วัน
• หยุดใช้ยาในกลุ่ม Isotretinoin เช่น Acnotin, Isotret, Roaccutane 1 เดือนก่อนเข้ารับการตรวจวิเคราะห์สภาพตา หากเป็นยารักษาโรคประจำตัวควรปรึกษาแพทย์ทุกครั้ง
• การผ่าตัด ReLEx จักษุแพทย์ที่เป็นผู้ตรวจ จะเป็นแพทย์คนเดียวกันกับผู้ที่ต้องผ่าตัด หากผู้ที่เข้ารับการรักษาต้องการจักษุแพทย์คนใดเป็นพิเศษ จะต้องมีการนัดกับจักษุแพทย์เอง
  
  

การเตรียมตัวก่อนเข้ารับการทำ ReLEx ที่ถูกต้อง

ข้อแนะนำการเตรียมตัวให้พร้อมก่อนที่จะเข้ารับการทำ ReLEx เพื่อที่จะป้องกันภาวะต่าง ๆ หลังการผ่าตัด และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการรักษา โดยจะมีข้อแนะนำ คือ

• งดการใส่คอนแทคเลนส์ล่วงหน้าก่อนเข้ารับการทำ ReLEx สำหรับคอนแทคเลนส์ชนิดแข็งอย่างน้อย 3 วัน ชนิดแข็ง 7 วัน
• ก่อนวันที่จะเข้ารับการรักษาเลสิก ReLEx ควรงดการใช้สายตาหนัก เพราะอาจทำให้ตาแห้ง
• ก่อนการรักษา 1 วัน ควรสระผม หรือล้างหน้าก่อน
• งดการแต่งหน้า, เขียนขอบตา, ใส่น้ำหอม, ใส่เจลผม
  
  

ขั้นตอนการทำ ReLEx ทั้งหมด 5 ขั้นตอน

แนะนำขั้นตอนในการรักษาด้วยการ ReLEx ทั้งหมด 5 ขั้นตอน

1. จักษุแพทย์ที่เป็นผู้ผ่าตัด จะทำการหยอดยาชาไปในบริเวณตาของผู้เข้ารับการรักษา
2. เมื่อยาชาออกฤทธิ์ แพทย์จะทำการผ่าตัด โดยจะใช้แสงเลเซอร์ที่มีชื่อว่า Femtosecond Laser ที่เป็นเลเซอร์ที่ใช้เฉพาะการรักษาแบบ ReLEx ซึ่งจะใช้ในการตัดแยกชั้นเนื้อกระจกตาเป็นรูปเลนส์ ตามขนาดที่ได้คำนวณไว้
3. แพทย์จะใช้เครื่องมือพิเศษในการเปิดแผลที่มีขนาดเล็กประมาณ 2 - 4 mm. ที่กระจกตา แล้วใช้เครื่องมือในการดึงเลนส์ที่ตัดออกมา
4. เมื่อดึงเลนส์ออกมาแล้ว จะทำให้กระจกตาเกิดการปรับเปลี่ยนความโค้ง 
5. เสร็จสิ้นขั้นตอนการรักษาด้วยวิธีเลสิค ReLEx แพทย์จะทำการปิดที่ครอบตา และผู้เข้ารับการรักษาสามารถกลับบ้านได้ทันที โดยที่ไม่ต้องมีการนอนพักฟื้น
   
   

การดูแลตนเองหลังทำ ReLEx ที่ดี

หลังจากทำ ReLEx จะส่งผลให้บริเวณดวงตามีความไวต่อสิ่งต่าง ๆ ได้ง่าย หลังจากการผ่าตัดจึงจะต้องมีการดูแลตนเอง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของการรักษา และป้องกันภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ โดยจะมีข้อแนะนำหลังทำ ReLEx ดังต่อไปนี้.

• ระวังไม่ให้น้ำ หรือฝุ่นละอองเข้าตาเด็ดขาดในช่วง 1 สัปดาห์แรกหลังการรักษา หากมีความจำเป็นต้องปรึกษาแพทย์ก่อน
• งดการขยี้ตา หรือบีบตา ในช่วง 2 สัปดาห์หลังการทำ ReLEx
• สวมใส่ที่ครอบตาเมื่อนอน เพื่อป้องกันการขยี้ตาโดยไม่รู้ตัวในช่วง 1 สัปดาห์แรก
• หากตาแห้งสามารถใช้น้ำตาเทียมหยอดได้
• ต้องใช้ยาหยอดตาให้ครบจำนวนที่จักษุแพทย์สั่ง
• งดการจ้อง เพ่งเล็ง สิ่งต่าง ๆ เป็นเวลานาน ควรมีการพักสายตา
• เมื่อต้องออกไปบริเวณที่มีแสงแดด ควรมีการใส่แว่นกันแดด
• งดแต่งหน้าทุกประเภทในช่วง 2 สัปดาห์แรกหลังทำเลสิก ReLEx
• ห้ามว่ายน้ำ 2 สัปดาห์ และห้ามดำน้ำ 4 สัปดาห์
  
  

สรุป ReLEx สำคัญขนาดไหน ?

ReLEx ถือเป็นนวัตกรรมใหม่ที่มีความน่าสนใจมาก สำหรับผู้ที่มีภาวะสายตาสั้น หรือสายตาเอียง เป็นนวัตกรรมที่เข้ามาแก้ปัญหารักษาปัญหานี้ได้อย่างตรงจุด ใช้เวลาในการรักษาที่ไม่นาน มีขั้นตอนการรักษา รวมไปถึงขั้นตอนการดูแลตนเองหลังทำที่น้อย ถือเป็นการรักษาทางเลือกหนึ่งที่มีความน่าสนใจ สุดท้ายนี้สำหรับผู้ที่สนใจอยากทำเลสิค ReLEx ควรปรึกษาจักษุแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ หรือมองหารีวิว ReLEx จากผู้อื่น หรือจากคลินิกที่มีความน่าเชื่อถือ เพื่อความปลอดภัย และประสิทธิภาพในการรักษา