ถั่งเช่า สมุนไพรจีนที่มีสรรพคุณช่วยบำรุงกำลัง

ขอบคุณภาพจาก mgronline.com

ถั่งเช่าเป็นเห็ดราชนิดหนึ่งที่อาศัยอยู่ในหนอนผีเสื้อกลางคืนที่จำศีลอยู่ใต้ดินในช่วงฤดูหนาว ถั่งเช่าถูกใช้เป็นยาบำรุงและรักษาโรคที่มีมานานหลายศตวรรษในแพทย์แผนจีน

ใครที่กำลังมองหาสมุนไพรที่จะช่วยในเรื่องบำรุงพละกำลัง เสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกาย รวมไปถึงป้องกันการเกิดโรคต่างๆ พามาทำความรู้จักกับ “ถั่งเช่า” สมุนไพรจีนที่มีประโยชน์มากมาย พร้อมไปค้นหาคำตอบว่าถั่งเช่าช่วยอะไร? ถั่งเช่ามีประโยชน์และโทษต่อร่างกายอย่างไรบ้าง? รวมถึงข้อควรระวังต่างๆ ก่อนรับประทาน

ทำความรู้จัก “ถั่งเช่า” คืออะไร?

ขอบคุณภาพจาก sanook.com

ถั่งเช่า คืออะไร? ถั่งเช่าเป็นเห็ดราสกุล Ophiocordyceps มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Ophiocordyceps sinensis เป็นสมุนไพรจีนที่มีการใช้มาอย่างยาวนานในวงการแพทย์แผนจีน ส่วนใหญ่มักพบในทุ่งหญ้าบนภูเขาสูงในทิเบต จีน และเนปาล ในช่วงฤดูหนาว ถั่งเช่ามีมานานหลายศตวรรษในแพทย์แผนจีน และใช้เป็นยาบำรุงและรักษาโรคต่างๆ

ถั่งเช่าสามารถรับประทานในรูปแบบของแคปซูล สารสกัดถั่งเช่าเข้มข้น หรือถั่งเช่าสกัดในรูปแบบชาสมุนไพร ปริมาณการรับประทานที่แนะนำขึ้นอยู่กับรูปแบบของผลิตภัณฑ์ และสภาพสุขภาพของผู้ใช้ โดยทั่วไปแล้ว ปริมาณที่แนะนำคือ 500 มิลลิกรัมถึง 1 กรัมต่อวัน ก่อนจะซื้อมารับประทานควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญก่อนการใช้เพื่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพสูงสุด

ถั่งเช่าเหมาะกับใคร?

ถั่งเช่า หรือ Cordyceps sinensis มีสรรพคุณและประโยชน์ที่หลากหลาย ทำให้เป็นสมุนไพรที่เหมาะกับกลุ่มคนดังต่อไปนี้

1. ผู้ที่มีปัญหาการทำงานของปอดและระบบทางเดินหายใจ: ถั่งเช่ามีสรรพคุณในการบำรุงปอด ช่วยให้ระบบทางเดินหายใจทำงานดีขึ้น เหมาะสำหรับผู้ที่มีโรคเกี่ยวกับปอด เช่น หอบหืด หรืออาการไอเรื้อรัง
2. ผู้ที่ต้องการเพิ่มพลังงานและความแข็งแรง: ถั่งเช่าช่วยเพิ่มพลังงาน ลดความอ่อนเพลีย และเพิ่มประสิทธิภาพในการออกกำลังกาย เหมาะสำหรับนักกีฬาและผู้ที่ต้องการเพิ่มความแข็งแรง
3. ผู้ที่ต้องการเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน: ถั่งเช่ามีสารที่ช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน ทำให้ร่างกายสามารถต้านทานโรคได้ดีขึ้น เหมาะสำหรับผู้ที่มักเจ็บป่วยง่าย
4. ผู้สูงอายุ: ด้วยคุณสมบัติที่ช่วยบำรุงร่างกายโดยรวม ถั่งเช่าเหมาะสำหรับผู้สูงอายุที่ต้องการรักษาสุขภาพและเพิ่มพลังงาน
5. ผู้ที่มีปัญหาสมรรถภาพทางเพศ: มีรายงานว่าถั่งเช่าช่วยเพิ่มสมรรถภาพทางเพศและเพิ่มความต้องการทางเพศ เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ เช่น นกเขาไม่ขัน หลั่งเร็ว เป็นต้น
6. ผู้ที่มีปัญหาระบบตับและไต: ถั่งเช่าช่วยบำรุงตับและไต และช่วยลดความเสี่ยงของโรคที่เกี่ยวข้องกับอวัยวะเหล่านี้
7. ผู้ที่เป็นเบาหวาน: ถั่งเช่ามีสรรพคุณที่อาจช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดและเพิ่มความไวต่ออินซูลิน แต่ควรใช้ภายใต้คำแนะนำของแพทย์
   
   

ประโยชน์ของถั่งเช่ามีอะไรบ้าง?

เสริมภูมิต้านทาน

ถั่งเช่ามีสารที่ช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน ช่วยให้ร่างกายต่อสู้กับเชื้อโรคได้ดีขึ้น ช่วยกระตุ้นการทำงานของเม็ดเลือดขาว และเพิ่มการผลิตเซลล์ภูมิคุ้มกันที่สามารถทำลายเชื้อโรคที่เข้ามาในร่างกายได้

เสริมสมรรถภาพทางเพศ

ถั่งเช่าทิเบตเป็นที่รู้จักกันดีในชื่อ "ไวอากร้าแห่งเทือกเขาหิมาลัย" เพราะมีสรรพคุณช่วยเพิ่มสมรรถภาพทางเพศและเพิ่มความต้องการทางเพศในท่านชาย

ลดอาการของโรคเบาหวาน

ถั่งเช่ามีประโยชน์ในการช่วยลดอาการของโรคเบาหวาน เนื่องจากมีสารสำคัญที่อาจช่วยปรับปรุงการทำงานของระบบเผาผลาญน้ำตาลในเลือด ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด เพิ่มความไวต่ออินซูลิน มีสารต้านอนุมูลอิสระที่มีส่วนช่วยลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อนที่เกิดจากเบาหวาน เช่น โรคหัวใจและโรคไต

ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็ง

ต้านการเกิดโรคมะเร็ง มีงานวิจัยบางชิ้นที่บ่งชี้ว่าถั่งเช่าอาจช่วยต้านมะเร็งได้ โดยช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง

ป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือด

สรรพคุณของถั่งเช่า คือช่วยลดความดันโลหิตสูง ลดระดับคอเลสเตอรอล ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด ช่วยให้เลือดไหลเวียนดีขึ้น โดยการลดการเกาะกลุ่มของเกล็ดเลือดและช่วยขยายหลอดเลือด ทำให้เลือดไหลเวียนได้สะดวกยิ่งขึ้น

บำรุงปอดและไต

ถั่งเช่าช่วยบำรุงปอด และรักษาปัญหาที่เกี่ยวข้องกับระบบทางเดินหายใจ อีกทั้งยังมีสรรพคุณช่วยบำรุงไต และช่วยให้การทำงานของไตที่เกี่ยวข้องกับระบบทางเดินปัสสาวะดีขึ้นอีกด้วย

ข้อควรระวังสำหรับการบริโภคถั่งเช่า 

แม้ว่าถั่งเช่าจะมีประโยชน์หลายประการ แต่ก็มีคนบางกลุ่มหรือมีโรคที่ห้ามกินถั่งเช่า ควรระมัดระวังหรือหลีกเลี่ยงการรับประทานถั่งเช่า 

1. สตรีมีครรภ์และให้นมบุตร
2. ผู้ที่มีปัญหาการแข็งตัวของเลือด เนื่องจากถั่งเช่าอาจมีผลในการเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดเลือดออก ดังนั้นผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับการแข็งตัวของเลือดหรือรับประทานยาที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้
3. ผู้ที่มีปัญหาภูมิคุ้มกันอ่อนแอ เนื่องจากถั่งเช่าอาจกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน ซึ่งอาจไม่เหมาะกับผู้ที่มีภาวะภูมิคุ้มกันอ่อนแอหรือรับการรักษาที่ควบคุมระบบภูมิคุ้มกัน เช่น ผู้ป่วยที่ได้รับการปลูกถ่ายอวัยวะ
4. ผู้ที่มีประวัติการแพ้เห็ดหรือเชื้อรา ควรระมัดระวังและปรึกษาแพทย์ก่อนใช้
5. ผู้ที่ใช้ยาต้านการแข็งตัวของเลือด เนื่องจากถั่งเช่าอาจมีผลเสริมฤทธิ์กับยาต้านการแข็งตัวของเลือด เช่น วาร์ฟาริน (Warfarin) ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดเลือดออกมากขึ้น
6. เด็กเล็ก
   
   

ถั่งเช่าโดยทั่วไปปลอดภัยต่อการรับประทาน แต่บางรายอาจมีผลข้างเคียง เช่น คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย และปวดท้องได้ ถั่งเช่าเป็นสมุนไพรที่มีสรรพคุณมากมาย มีงานวิจัยบางชิ้นที่บ่งชี้ว่าถั่งเช่าอาจช่วยรักษาโรคต่างๆ ได้ แต่ยังจำเป็นต้องมีการวิจัยเพิ่มเติม หากสนใจรับประทานถั่งเช่า ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนเสมอ