ตกขาว อาการที่พบได้ในผู้หญิงทุกคน
อาการตกขาว คือมีของเหลวไหลออกจากช่องคลอดแต่ไม่ใช่ประจำเดือน อาการตกขาวของผู้หญิงแต่ละคนก็แตกต่างกันไป ใครที่ยังไม่เข้าใจอาการตกขาว บทความนี้มีคำตอบให้
หนึ่งในปัญหาที่ผู้หญิงทุกคนต้องประสบ คือความไม่รู้และไม่เข้าใจเกี่ยวกับอาการแปลก ๆ ที่เกิดขึ้นกับร่างกายของตน ทำให้หลักสูตรของการศึกษาจำเป็นต้องมีวิชาสุขศึกษา เพื่อช่วยให้ผู้หญิงได้ทำความเข้าใจเกี่ยวกับสรีระร่างกายของตนเองได้ชัดเจนขึ้น ซึ่งบทความนี้จะยกตัวอย่างหนึ่งในอาการที่ผู้หญิงหลายคนอาจจะยังไม่เข้าใจดีพอ ก็คือภาวะตกขาว
โดยเราจะมาเน้นกล่าวถึงว่า ตกขาวคืออะไร ตกขาวเกิดจากอะไร ลักษณะตกขาวเป็นอย่างไร มีวิธีสังเกตและวิธีแก้ตกขาวมั้ย
ตกขาว คืออะไร มีลักษณะอย่างไรบ้าง
ตกขาว หรือ ระดูขาว คือชื่อที่ใช้เรียกของเหลวที่ไหลออกมาจากช่องคลอดของผู้หญิงที่ไม่ใช่เลือดประจำเดือน อาการตกขาวจะเกิดขึ้นเมื่อร่างกายมีการตอบสนองต่อฮอร์โมนเอสโตรเจน โปรเจสเตอโรน หรือ โรคที่มีอยู่ในร่างกาย
สำหรับภาวะตกขาวจะเริ่มตั้งแต่เด็กที่มีเพียงเล็กน้อยแทบสังเกตไม่เห็น ไปจนถึงวัยเจริญพันธุ์ที่เข้าสู่ช่วงมีประจำเดือนโดยจะมีปริมาณที่มากขึ้น กระทั่งเข้าสู่วัยสูงอายุที่จะค่อย ๆ ลดลงจนแทบไม่มีอีกครั้ง
ลักษณะตกขาวจะแตกต่างกันไปในผู้หญิงแต่ละคน และแต่ละช่วงระยะเวลาของการมีประจำเดือน โดยปกติแล้วเซลล์ที่สมบูรณ์ในช่องคลอดจะสร้างสารไกลโคเจนที่ทำปฏิกิริยากับแบคทีเรียชนิดหนึ่งจนกลายเป็นกรดอ่อน ๆ ที่มาช่วยหล่อลื่นช่องคลอด และป้องกันการติดเชื้อโรคชนิดอื่น ๆ ที่เป็นอันตรายได้
ตกขาวปกติจะมีลักษณะขาวใส เหมือนวุ้นใส คล้ายเมือกลื่น หรือ มีสีขาวเหมือนแป้งเปียก
สีตกขาวที่ปกติในแต่ละช่วงรอบเดือน จะมีลักษณะตกขาวดังนี้
- ช่วงก่อนและช่วงหลังมีประจำเดือน มีลักษณะขาวข้นคล้ายแป้งเปียก ปริมาณน้อย
- ช่วงมีประจำเดือน มีลักษณะหนา และเหนียวข้น
- ช่วงกึ่งกลางระหว่างรอบเดือน (ระยะตกไข่) มีลักษณะเหลวใส เป็นเมือกลื่น ปริมาณมาก
หากว่าเป็นภาวะตกขาวผิดปกติจะมีลักษณะข้นเป็นก้อนเล็ก ๆ ส่วนสีจะออกเหลืองเข้มเกือบเขียว บ้างมีสีเท่าอ่อน ในขณะที่มีปริมาณตกขาวออกมากผิดไปจากปกติ แถมมีกลิ่นเหม็นรุนแรง ทั้งยังมีอาการเจ็บร้อน แสบ คัน ตรงบริเวณช่องคลอด ดังนั้นไม่ควรเพิกเฉยแต่ควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อหาทางรักษาด่วน
ตกขาวควรมาก่อนมีประจำเดือนกี่วัน
สำหรับคำถามที่ผู้หญิงเรามักจะสงสัยก็คือ “ตกขาวมาก่อนประจำเดือนกี่วัน” คำตอบก็คือ ปกติตกขาวจะมาก่อนรอบเดือนประมาณ 2-3 วัน เพราะถ้าหากใครก็ตามที่มีตกขาวทุกวันนั่นก็หมายความว่าบุคคลนั้นกำลังมีความผิดปกติเกี่ยวกับช่องคลอด มดลูก ปีกมดลูก ที่เป็นโรคติดเชื้อทางระบบสืบพันธุ์
ตกขาวที่ผิดปกติ เกิดจากสาเหตุอะไรบ้าง รักษาอย่างไร
เมื่อใดที่เกิดความผิดปกติขึ้นตกขาวเป็นยังไง สาเหตุความผิดปกติของตกขาวเกิดจากอะไรนั้นเราพอจะ
จำแนกออกได้เป็น 2 สาเหตุใหญ่ คือ
- ตกขาวผิดปกติที่ไม่เกิดจากการติดเชื้อ เช่น
- ระคายเคืองจากการแพ้สารเคมีในมะเร็งปากมดลูก ช่องคลอด ท่อนำไข่
- มีสิ่งแปลกปลอมในช่องคลอด เช่น แท่งผ้าอนามัย ฯลฯ
- การรักษาตกขาว - พบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุพร้อมรักษาให้ตรงจุดอย่างเร่งด่วน
- การรักษาตกขาว - พบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุพร้อมรักษาให้ตรงจุดอย่างเร่งด่วน
- ตกขาวผิดปกติที่เกิดจากการติดเชื้อต่าง ๆ เช่น
- เชื้อไวรัสที่เกิดจากการมีเพศสัมพันธ์กับผู้ที่มีเชื้อ เช่น โรคเริม
- อาการติดเชื้อ - มีตุ่มเล็กใส แตกเป็นแผลแสบ มีตกขาวสีเหลือง มีกลิ่น
- รักษาตกขาว - ให้แพทย์หาสาเหตุและทำการรักษาโรคที่ติดต่อทางเพศ
- เชื้อแบคทีเรียจากการมีเพศสัมพันธ์ เช่น โรคหนองใน
- อาการติดเชื้อ - มีอาการคัน ตกขาวสีเหลืองเขียว หรือ สีเทาอ่อน มีกลิ่นคาวปลา ปัสสาวะแสบขัด
- รักษาตกขาว - พบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุพร้อมรักษาโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
- เชื้อราในช่องคลอด
- อาการติดเชื้อ - ตกขาวสีขาวขุ่น ลักษณะเป็นก้อนแป้งเปียกเล็ก ๆ คล้ายโยเกิร์ต มีอาการคันช่องคลอด มีกลิ่นอับ
- วิธีรักษาตกขาว - แพทย์จะแนะนำให้รักษาด้วยยากิน และยาเหน็บ โคลไทรมาโซล
- เชื้อพยาธิในช่องคลอดเป็นโรคติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์อีกชนิดหนึ่ง
- อาการติดเชื้อ - ตกขาวสีเหลือง เป็นฟอง มีอาการคันช่องคลอด มีกลิ่นเปรี้ยวเล็กน้อย
- วิธีรักษาตกขาว - แพทย์จะให้ใช้ยากิน เมโทรนิดาโซล เพื่อรักษา
- เชื้อไวรัสที่เกิดจากการมีเพศสัมพันธ์กับผู้ที่มีเชื้อ เช่น โรคเริม
ตกขาวมีกลิ่นเหม็นเกิดจากอะไร ควรทำอย่างไร
ธรรมดาตกขาวในภาวะที่ปกติจะมีกลิ่นเฉพาะของแต่ละบุคคล แต่สามารถอนุมานได้ว่าไม่มีกลิ่นผิดปกติจากเดิม แต่ถ้าเมื่อใดที่เกิดอาการตกขาวผิดปกติ คือมีกลิ่นเหม็น นั่นก็หมายความว่าเกิดมีการติดเชื้อขึ้นภายในร่างกายตรงบริเวณอวัยวะสืบพันธุ์ ดังนั้นควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อหาสาเหตุและรักษาตกขาวก่อนที่จะเรื้อรังจนเกิดอันตรายได้
ตกขาวผิดปกติ กระทบสุขภาพ เป็นอันตรายต่อชีวิต
ตกขาวผิดปกติเป็นสัญญาณเตือนให้รู้ถึงปัญหาสุขภาพที่เกิดขึ้นภายในร่างกาย วิธีสังเกตง่าย ๆ ว่ามีอาการตกขาวผิดปกติหรือไม่นั้น ก็คือ สีตกขาว ลักษณะตกขาว กลิ่น และปริมาณนั่นเอง เช่น
- ตกขาวมีสีออกเหลืองเข้มจนถึงเหลืองเขียว เทาอ่อน ชมพู น้ำตาล
- ตกขาวมีกลิ่นเหม็นผิดปกติ คล้ายเนื้อเน่า ปลาเน่า คาวมาก
- ตกขาวมีปริมาณเพิ่มมากขึ้นกว่าที่มีตามปกติ
- ตกขาวมีลักษณะข้น เป็นก้อน ปนหนอง มูกเลือด มีฟอง
- ตกขาวมีติดต่อกันนานเกิน 2 สัปดาห์
- มีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น คัน ปวดแสบปวดร้อนบริเวณปากช่องคลอด, แสบๆ ขัดๆ เวลาปัสสาวะ, รู้สึกเจ็บเวลามีเพศสัมพันธุ์, มีแผลบริเวณอวัยวะเพศ, ปวดท้องน้อย, มีไข้ เป็นต้น
อาการตกขาวที่กล่าวข้างต้นนี้บ่งบอกว่าร่างกายมีการติดเชื้อ หรือเป็นโรคร้ายซึ่งย่อมเป็นอันตรายต่อชีวิต และสุขภาพของคนนั้น ทำให้ระดับคุณภาพการใช้ชีวิตตกต่ำลงเพราะมีอาการเจ็บปวดบริเวณปากช่องคลอด เจ็บปวดเวลาปัสสาวะ ทำให้อักเสบเรื้อรังกระทบระบบสืบพันธุ์ หรือ ช็อกจากพิษเข้ากระแสเลือด
สรุปเกี่ยวกับภาวะตกขาว
ภาวะตกขาวเป็นเรื่องปกติของผู้หญิงทุกคนไม่จำเป็นต้องตื่นตระหนกตกใจ แนะนำให้สังเกตว่ามีอาการตกขาวที่ผิดแผกไปจากปกติหรือไม่ ขณะเดียวกันควรดูแลสุขอนามัยให้ถูกวิธี เช่น ทำความสะอาดบริเวณช่องคลอดด้วยน้ำหรือสบู่อ่อน ๆ เช็ดให้แห้ง ใส่ชั้นในสะอาด ขนาดพอดี ไม่อับชื้น และหากพบความผิดปกติก็ควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อรักษาแต่เนิ่น ๆ
โพสตอบ
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเโพสตอบได้