วิธีรักษาสิว พร้อมเคล็ดลับการดูแลป้องกันสิว ให้ผิวกลับมาสวยใส
การรักษาสิว ช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับคุณได้มาก การดูแลผิวหน้ามีหลากหลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นการดูแลป้องกันด้วยตัวเอง หรือการทำหัตถการโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
สิวเป็นสิ่งที่ทำให้หลายคนหมดความมั่นใจในตัวเอง เพราะหลังจากใช้เวลารักษาสิวให้หายแล้วนั้น ผลที่ตามมายังจะมีเรื่องรอยสิว หลุมสิว ที่เป็นปัญหาผิวที่หลายคนแก้ไม่ตก และสูญเสียเงินไปเยอะมากในการรักษาอย่างผิดวิธี บทความนี้จะมาแนะนำวิธีรักษาสิวด้วยตัวเอง รวมไปถึงการดูแลรักษาสิวและป้องกัน ผ่านคำแนะนำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังโดยตรง
สิว เกิดจากอะไร
ก่อนจะเริ่มรักษาสิวอย่างถูกวิธี ควรทราบที่มาของการเกิดสิว เพื่อหาต้นตอไปสู่วิธีรักษาสิวที่เหมาะสมกับคุณที่สุด สิวคืออะไร? มีสาเหตุจากอะไร? สิวเกิดจากการอักเสบในรูขุมขนที่อาจมีสิ่งสกปรกตกค้างบนใบหน้าหรือมีแบคทีเรียเข้าไปอุดตันร่วมด้วย โดยสิวมีลักษณะเป็นจุดบวมแดงๆ นูนขึ้นมาจากผิวหน้า เมื่อสัมผัสจะรู้สึกเจ็บอาจจะเป็นสิวมีหัวและสิวไม่มีหัวก็ได้ ส่วนใหญ่ที่พบจะเป็นช่วงวัยรุ่น อายุตั้งแต่ 15-22 ปี รวมถึงปัจจัยหลายอย่างที่ทำให้เกิดสิวอุดตันหรือสิวอักเสบขึ้น มีดังนี้
- สภาพผิวที่มีความมัน ง่ายต่อการเกิดการอักเสบและอุดตันของรูขุมขน
- การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในร่างกายที่ไปกระตุ้นการเกิดสิวเพิ่มมากขึ้น รวมถึงฮอร์โมนบางชนิดยังไปกระตุ้นต่อมไขมันให้ผลิตน้ำมันบนใบหน้าจำนวนมาก
- ความเครียด การนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ หรือนอนดึกเป็นประจำ
- รูขุมขนกว้างเป็นปัญหาที่คนเป็นสิวพบได้บ่อย เนื่องจากสิ่งสกปรกสามารถเข้าไปอุดตันภายในรู้ขุมขนได้ง่าย
- เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียบางชนิด เช่น P.acnes
- การทานยาบางประเภทที่ส่งผลต่อการผลิตฮอร์โมน แถมยังไปกระตุ้นการเกิดสิวอีกด้วย
- การรับประทานอาหารจำพวกของทอดของมัน หรืออาหารที่มีน้ำตาลเป็นส่วนประกอบหลัก เช่น เบเกอรี่ ไอศกรีม ยิ่งช่วยกระตุ้นการเกิดสิว เนื่องจากเป็นแหล่งพลังงานของเชื้อสิวอย่างดี
- อยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีความอับชื้น ร้อน หรือเต็มไปด้วยฝุ่นควัน ทำให้ผิวเกิดการระคายเคืองได้ง่าย ก่อให้เกิดสิวได้มากกว่าปกติ
- เซลล์ผิวที่ตายแล้ว เมื่อหลุดลอกออกมาอาจไปอุดตันบริเวณรูขุมขนบนใบหน้าได้
- การสัมผัสใบหน้าจากมือที่ไม่สะอาด รวมถึงข้าวของเครื่องใช้ที่ถูกกับผิวหน้าโดยตรง เช่น หมอน ที่เป็นแหล่งสะสมเชื้อโรค มีโอกาสเกิดเป็นสิวอุดตัน สิวอักเสบได้
- พันธุกรรมที่ถูกส่งต่อมา อย่างเช่น ผิวแพ้ง่าย ผิวมัน เป็นสภาพผิวที่เหมาะกับการเกิดสิวได้ง่ายกว่าคนที่มีผิวแห้ง
11 วิธีป้องกันไม่ให้เกิดสิวด้วยตนเอง
วิธีการดูแลตัวเอง เพื่อป้องกันไม่ให้สิวขึ้นหน้า ลดโอกาสการเกิดสิว มีดังต่อไปนี้
- งดแกะ เกา หรือสัมผัสบริเวณที่เกิดสิว เนื่องจากมือเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคและแบคทีเรียจำนวนมาก หากมีการสัมผัสใบหน้าระหว่างวัน อาจทำให้ผิวเกิดการระคายเคืองได้ง่ายขึ้น ทำให้สิ่งสกปรกเข้าไปอุดตันในรูขุมขน เป็นสาเหตุทำให้เกิดสิวนั่นเอง เพื่อป้องกันการเกิดสิวอุดตัน ควรล้างมือให้สะอาดทุกครั้งก่อนมีการสัมผัสบนใบหน้า
- ทำความสะอาดข้าวของเครื่องใช้ที่สัมผัสใบหน้าของคุณอย่างเป็นประจำ เช่น ที่นอน ปลอกหมอน แปรงแต่งหน้า เป็นต้น เนื่องจากสิ่งของเหล่านี้เป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคที่ก่อให้เกิดสิวที่หน้าได้ง่าย จึงต้องหมั่นซักล้างอย่างน้อยทุกสัปดาห์ เพื่อป้องกันการหมักมมของแบคทีเรียบนใบหน้า เป็นวิธีป้องกันการเกิดสิวด้วยตัวเองง่ายๆ ที่ใครก็สามารถทำได้
- การคลีนหน้าหรือล้างหน้าให้สะอาด เป็นวิธีลดสิวที่ควรทำเป็นประจำทุกวัน เพราะในทุกวันนั้นเราต้องเจอกับสภาพอากาศที่สกปรก ฝุ่น ควัน หรือเครื่องสำอางที่ใช้แต่งหน้าเป็นประจำ สิ่งเหล่านี้เป็นต้นเหตุหลักของการเกิดสิว การทำความสะอาดผิวหน้าควรทำประมาณสองครั้งขึ้นไป หรือทำจนแน่ใจว่าไม่เหลือคราบสกปรกบนใบหน้าแล้ว
- การทายาแต้มสิว เพื่อให้สิวไม่บวมแดงไปมากกว่าเดิม หรือช่วยให้สิวยุบตัวไวขึ้น เป็นวิธีรักษาสิวอักเสบด้วยตัวเองง่ายๆ แต่ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรทุกครั้งก่อนซื้อมาทาเอง เนื่องจากตัวยาบางชนิดอาจส่งผลให้ผิวเกิดการระคายเคือง แสบผิว หรือผลัดเซลล์ผิวหนังให้บางลงได้
- การทานอาหารที่มีประโยชน์ สารอาหารครบถ้วนหรืออาหารที่มีวิตามินเอ, ซี, ดี, อี จะช่วยลดการเกิดสิวใหม่ และช่วยรักษาสิวแบบธรรมชาติได้ด้วย รวมถึงอาหารเสริมบางอย่างที่ช่วยลดการเกิดสิว เช่น สังกะสี (Zinc)
- งดทานของทอด ของมัน เนื่องจากอาหารพวกนี้มีไขมันที่สูงมาก แถมยังกระตุ้นให้ใบหน้าผลิตความมันออกมาเป็นสาเหตุของการเกิดสิว รวมไปถึงของหวานที่มีส่วนประกอบจากน้ำตาล เช่น ชา น้ำอัดลม ขนมเบเกอรี่ต่างๆ เนื่องจากน้ำตาลเป็นแหล่งอาหารชั้นดีของเชื้อสิวนั่นเอง
- ดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8-10 แก้ว เพื่อให้ระบบการทำงานในร่างกายสมดุล แถมยังช่วยขับของเสียต่างๆ ออกด้วย และควรขับถ่ายทุกวันย่างเป็นประจำ
- พักผ่อนให้เพียงพอ เข้านอนให้ไวกว่าเดิม การนอนหลับให้เพียงพอหรือนอนไม่ดึกช่วยให้ร่างกายมีสุขภาพที่แข็งแรงขึ้น จิตใจปลอดโปร่ง ไม่เครียดง่าย ลดโอกาสการเกิดสิว และทำให้ร่างกายสามารถหลั่งฮอร์โมนที่ช่วยซ่อมแซมตัวเองได้ดีขึ้น และลดการสูญเสียคอลลาเจนของผิว
- ไม่ดื่มแอลกอฮอล์ หรือสูบบุหรี่ หรือใช้สารเสพติด และควรหลีกเลี่ยงยาบางประเภทที่อาจทำให้เกิดสิว เช่น ยาต้านโรคซึมเศร้า (antidepressants), ยากันชัก (antiepileptics) และยาสเตียรอยด์(Steroid)
- การใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนกับผิวหน้า ควรใช้ผลิตภัณฑ์รักษาสิวที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติ ไม่ก่อให้เกิดการระคางเคืองง่าย หรือหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของพาราเบน (Paraben) , ซิลิโคน (Silicone) , ฟอร์มัลดีไฮด์ (Formaldehyde) เป็นต้น
- การใช้แผ่นแปะสิว เพื่อดูดสิวออกมาแทนการกดหรือบีบเอง เพราะอาจจะทำให้สิวเกิดการอักเสบลุกลามยิ่งกว่าเดิม
5 วิธีรักษาสิวโดยการทำหัตถการจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
1. รักษาสิวด้วยการกดสิว
การกดสิวเป็นหนึ่งในการทำหัตถการที่นิยมมากที่สุด เนื่องจากวิธีการรักษาสิวในขั้นตอนแรกๆ คือการนำสิวอุดตันออกจากรูขุมขนให้หมดก่อน เพื่อช่วยให้สิวยุบตัวลง แล้วจึงมีการทำหัตถการอื่นๆ ควบคู่กันไป การกดสิวควรทำโดยแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญที่สามารถกดสิวออกจากรูขุมขนได้อย่างหมดจดถึงรากถึงโคน เพื่อไม่เกิดการอักเสบหรือติดเชื้อใต้ชั้นผิวหนังขึ้นได้
2. การทานยารักษาสิว
การรับประทานยาที่มีส่วนผสมที่ช่วยรักษาสิว หรือลดความมันบนใบหน้าได้ เช่น ไอโสเตรติโนอิน (isotretinoin) ที่มีสรรพคุณลดการทำงานของต่อมไขมัน แต่ไม่ควรซื้อมารับประทานเอง ควรออกโดยแพทย์เฉพาะทางด้านผิวหนังเท่านั้น รวมไปถึงการทานวิตามินซีที่ช่วยในการบำรุงผิวพรรณ ลดโอกาสการเกิดสิวได้
3. การเลเซอร์รักษาสิว
การทำหัตถการเลเซอร์รักษาสิว รอยสิว หรือหลุมสิว เป็นวิธีการรักษาสิวที่เห็นผลไว และสะดวกที่สุด เนื่องจากใช้เวลาทำไม่นาน หลังทำสามารถเห็นผลลัพธ์ได้อย่างชัดเจน โดยเลเซอร์รักษาสิวที่นิยมทำในปัจจุบัน ได้แก่ Laser CO2 , Pico Laser , Dual Yellow Laser , Q-Switch Laser
4. การฉีดรักษาสิว
การฉีดสิวเพื่อทำให้สิวยุบตัวลง รวมไปถึงการฉีดผิวที่จะช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงชั้นผิวหนัง เป็นเกราะป้องกันผิว เช่น การดริปวิตามินผิว , ฉีด Radiesses Filler เป็นต้น
5. การรักษาโดย Skin booster
การฉีด Skin Booster เพื่อทำให้ผิวแข็งแรงขึ้น ป้องกันการเกิดสิว เป็นวิธีการรักษาสิวด้วยการฉีดสารอาหารต่าง ๆ เข้าไปที่ผิวโดยตรง แถมยังช่วยให้ผิวสดใสเปร่งปรั่งขึ้นด้วย โดยหัตถการที่เป็นที่นิยม ได้แก่ การฉีด Rejuran , เมโสหน้าใส , มาเด้คอลลาเจน , Sculptra เป็นต้น
สรุป รักษาสิวหลากหลายวิธีมีอะไรบ้าง
สิวเป็นสิ่งที่กวนใจใครหลาย ๆ คน นอกจากจะทำให้สูญเสียความมั่นใจแล้วนั้น ในบางคนอาจจะกระทบไปถึงการใช้ชีวิตประจำวัน หรืองานประจำที่ทำด้วย ปัจจุบันการรักษาสิวสามารถทำได้หลากหลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นสิวอุดตัน สิวผด สิวอักเสบ สิวหัวหนอง สิวหัวช้าง โดยการรักษาสิวด้วยตัวเองผ่านการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ไปจนถึงการทำหัตถการโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังโดยตรง
โพสตอบ
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเโพสตอบได้