5 เหตุผลที่คุณควรทำประกันรถยนต์ชั้น 1 คุ้มค่าแค่ไหน มีคำตอบ
ในยุคสมัยที่รถยนต์กลายเป็นปัจจัยสำคัญในชีวิต การขับขี่บนท้องถนนย่อมมีความเสี่ยงอยู่เสมอ อุบัติเหตุไม่คาดฝันสามารถเกิดขึ้นไดทุกเมื่อ การมีประกันรถยนต์ไว้จึงเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ แต่ประกันรถยนต์ก็มีหลายประเภท โดยแต่ละประเภทล้วนให้ความคุ้มครองที่แตกต่างกัน หลายคนจึงสงสัยว่า หากทำประกันรถยนต์ชั้น 1 ไปเลยจะคุ้มค่าแค่ไหน และควรทำหรือไม่
บทความนี้จะมาไขข้อสงสัยดังกล่าว พร้อมนำเสนอ 5 เหตุผลสำคัญที่คุณควรทำประกันรถยนต์ชั้น 1 ไปดูกันเลยว่าประกันประเภทนี้คุ้มหรือไม่คุ้ม !
5 เหตุผลว่าทำไมจึงควรทำประกันรถยนต์ชั้น 1 ?
- คุ้มครองครอบคลุมทุกกรณี
ประกันรถยนต์ชั้น 1 ให้ความคุ้มครองที่ครอบคลุมที่สุดในบรรดาประกันรถยนต์ทุกประเภท ทำให้มั่นใจได้ว่าหากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น ประกันจะช่วยเหลือคุณได้อย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็น
- อุบัติเหตุ : เฉี่ยวชน พลิกคว่ำ ไฟไหม้ น้ำท่วม ลักขโมย
- ภัยธรรมชาติ : แผ่นดินไหว ลมพายุ น้ำท่วม
- การสูญเสียหรือเสียหายของรถ : ไม่ว่าจะเกิดจากอุบัติเหตุ ภัยธรรมชาติ หรือการโจรกรรม
- ความรับผิดชอบต่อบุคคลภายนอก : ชดเชยค่ารักษาพยาบาล ค่าเสียหายต่อทรัพย์สิน
- บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน : บริการลากจูง เปลี่ยนยาง แบตเตอรี่
- เหมาะกับมือใหม่และผู้ขับขี่ที่มีความเสี่ยงสูง
สำหรับมือใหม่หัดขับ หรือผู้ขับขี่ที่มีความเสี่ยงสูง เช่น ขับรถบ่อย เดินทางไกล ประกันรถยนต์ชั้น 1 ถือเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด เพราะช่วยลดความเสี่ยงทางการเงินได้หากเกิดอุบัติเหตุ
- อุ่นใจไร้กังวล หมดปัญหาเรื่องค่าซ่อมแซม
ประกันรถยนต์ชั้น 1 ให้ความคุ้มครองค่าซ่อมแซมเต็มจำนวน โดยไม่ต้องหักค่าเสื่อมราคา กรณีรถเสียหายหนัก
- เผื่อไว้ดีกว่าแก้
เพราะอุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ การมีประกันรถยนต์ชั้น 1 จึงเปรียบเสมือนการซื้อความอุ่นใจ เผื่อไว้สำหรับเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน ช่วยให้คุณและครอบครัวปลอดภัย ไร้กังวลเรื่องค่าใช้จ่าย
- เบี้ยประกันไม่แพงอย่างที่คิด
ในปัจจุบัน มีบริษัทประกันภัยมากมายที่เสนอประกันรถยนต์ชั้น 1 ในราคาที่แข่งขันกัน โดยคุณสามารถเปรียบเทียบเบี้ยประกันจากหลาย ๆ บริษัท แล้วเลือกแผนที่เหมาะกับความต้องการและงบประมาณของคุณมากที่สุดได้
สรุปว่า การทำประกันรถยนต์ชั้น 1 จะคุ้มค่าหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น งบประมาณ ประวัติการขับขี่ ระยะทางการใช้งาน ฯลฯ โดยหากคุณมีงบประมาณจำกัด อาจจะลองพิจารณาประกันรถยนต์ชั้น 2+ หรือชั้น 3 ซึ่งให้ความคุ้มครองที่ใกล้เคียงกัน แต่เบี้ยประกันถูกลง หรือหากคุณใช้รถยนต์แค่ในระยะทางสั้น ๆ ไม่ค่อยเดินทางไกล อาจจะลองพิจารณาประกันประเภทอื่น ๆ ที่ให้ความคุ้มครองเฉพาะบางกรณีแทน เป็นต้น
โพสตอบ
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเโพสตอบได้