วิธีเก็บสเต็มเซลล์เลือดสายสะดือ ปลอดภัย ไม่น่ากลัว | Cryoviva

พาดูวิธีเก็บสเต็มเซลล์จากเลือดสายสะดือ ไม่น่ากลัวอย่างที่คิด

สเต็มเซลล์จากเลือดสายสะดือ (Cord Blood - CB) เป็นอีกแหล่งหนึ่งที่คนนิยมในการเก็บสเต็มเซลล์ อีกทั้งสเต็มเซลล์จากเลือดสายสะดือถือว่าเป็นแหล่งที่มาสำคัญของ “เซลล์ต้นกำเนิดเม็ดเลือด” ที่นำประโยชน์ของ Stem Cell มาใช้ในการฟื้นฟูเม็ดเลือดและระบบภูมิคุ้มกันได้ วิธีเก็บสเต็มเซลล์สามารถทำได้ในวันที่คลอดลูก ซึ่งไม่ทำให้คุณแม่และลูกน้อยเจ็บปวดและเป็นอันตรายอย่างแน่นอน โดยสเต็มเซลล์จากแหล่งนี้มีการใช้สเต็มเซลล์ได้กับทั้งลูกน้อยและคนอื่น ๆ ในครอบครัว

วิธีเก็บสเต็มเซลล์จากเลือดสายสะดือ ต้องทำอย่างไรบ้าง

ระหว่างการตั้งครรภ์สายสะดือนั้นเปรียบเสมือนสายใยที่เชื่อมต่อชีวิตระหว่างแม่และลูกน้อย เนื่องจากสายสะดือเป็นสิ่งที่ช่วยลำเลียงสารอาหารและออกซิเจนไปยังลูก แต่เมื่อคลอดลูกสายสะดือนี้จะถูกทำลายทิ้งไป จึงเป็นที่น่าเสียดายและเป็นการเสียโอกาสในการเก็บรักษาสเต็มเซลล์ไว้สำหรับการรักษาโรคให้ลูกน้อยในอนาคต

การเก็บสเต็มเซลล์จากเลือดสายสะดือจึงถือเป็นการรับประกันว่าคุณแม่จะมีทางเลือกสำหรับการรักษาลูกน้อยในอนาคต หากลูกหรือคนในครอบครัวมีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคที่ต้องใช้การรักษาด้วยการใช้สเต็มเซลล์ การเก็บรักษาสเต็มเซลล์จากเลือดสายสะดือจึงมีความสำคัญอย่างมาก โดยเฉพาะครอบครัวที่มีประวัติเป็นโรคบางชนิดหรือมีความหลากหลายทางเชื้อชาติ  

โดยวิธีเก็บสเต็มเซลล์จากเลือดสายสะดือมีวิธีการดังต่อไปนี้ 

1. ติดต่อกับบริษัทที่คุณใช้บริการในวันที่คลอด เพื่อให้ทีมแพทย์เตรียมตัวเข้าจัดเก็บ
2. ทีมแพทย์จัดเก็บสายสะดือ
3. จัดเก็บเลือดจากสายสะดือแรกคลอดลงในถุง
4. นำเลือดจากสายสะดือที่เก็บได้ส่งไปยังห้องปฏิบัติการภายใน 24 ชั่วโมง
5. ผู้เชี่ยวชาญทำการคัดแยกสเต็มเซลล์ภายในห้องที่ปราศจากการปนเปื้อน
6. ติดตั้งระบบระบุตัวตนที่บรรจุภัณฑ์บรรจุเลือดสายสะดือ ก่อนนำลงถังไนโตรเจน
7. จัดเก็บเลือดสายสะดือในถังไนโตรเจนอุณหภูมิ -196 องศาเซลเซียส

จะเห็นได้ว่าวิธีเก็บสเต็มเซลล์จากเลือดสายสะดือ ไม่มีความเสี่ยงหรืออันตรายใด ๆ ที่จะทำให้ คุณแม่และลูกน้อยเจ็บปวด เพราะเป็นการเก็บเลือดจากสายสะดือหลังจากที่ลูกคลอดออกมา โดยสายสะดือจะถูกมัดและตัดเรียบร้อยแล้ว

ประโยชน์ของสเต็มเซลล์ในการรักษาโรคและฟื้นฟูร่างกาย

ปัจจุบันความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่มีมาอย่างต่อเนื่อง มีหลากหลายองค์กรที่สนใจและทำการศึกษาเกี่ยวกับวิธีเก็บสเต็มเซลล์เพื่อนำมาใช้ในการรักษาและฟื้นฟูโรคต่าง ๆ โดยเฉพาะอาการหรือโรคเรื้อรังที่มีผลกระทบต่อร่างกายและคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย นับว่าเป็นความหวังใหม่สำหรับผู้ป่วยในการฟื้นฟูโรคที่เป็นอยู่ โดยโรคที่สเต็มเซลล์สามารถฟื้นฟูได้ คือ

• โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง : สเต็มเซลล์ช่วยชะลอการเสื่อมสภาพของเซลล์ประสาทสั่งการและปรับปรุงประสิทธิภาพในการทำงานของกล้ามเนื้อให้ดีมากยิ่งขึ้น
• โรคเบาหวานชนิดที่ 1 : สเต็มเซลล์ทำให้ตับอ่อนทำงานได้ดีขึ้น และผลิตอินซูลินได้มากขึ้น
• โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ : เนื่องจากสเต็มเซลล์บางชนิดสามารถพัฒนาไปเป็นกระดูกอ่อนและกระดูก อีกทั้งช่วยควบคุมการอักเสบเรื้อรังของระบบภูมิคุ้มกันได้อีกด้วย

ดังนั้น คุณพ่อคุณแม่คนไหนที่กำลังมีความกังวลเกี่ยวกับวิธีเก็บสเต็มเซลล์จากเลือดสายสะดือ หวังว่าบทความจะช่วยทำให้เห็นแล้วว่าวิธีการเก็บสเต็มเซลล์นั้น ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด อีกทั้งยังปลอดภัยไม่สร้างความเจ็บปวดให้กับคุณแม่และลูกน้อย และจากการเก็บเพียงครั้งเดียวก็สามารถใช้ประโยชน์ของ Stem Cell ได้หลายครั้ง และการใช้สเต็มเซลล์ก็สามารถใช้ได้กับทุกคนในครอบครัวในการฟื้นฟูร่างกายและรักษาโรคต่าง ๆ ที่อาจขึ้นในอนาคต