เทคฮอร์โมนอย่างไรให้ปลอดภัย ได้ผลจริง

ในยุคสมัยที่ผู้คนมีทางเลือกทางเพศมากขึ้น ก็มีผู้ที่ต้องการเปลี่ยนแปลงเพศสภาพตามความต้องการไม่ว่าจะเป็นชายหรือหญิง ปัจจุบันมีหนทางช่วยตอบสนองเปลี่ยนเพศสภาพตามต้องการจะเป็นได้ ซึ่งก็คือ การเทคฮอร์โมน หนึ่งในวิธีช่วยให้ผู้ที่อยากมีสรีระร่างกายเป็นชาย หรืออยากมีสรีระร่างกายเป็นหญิงสามารถเปลี่ยนแปลงสรีระได้จริง

แต่เมื่อเทคยาฮอร์โมนผู้หญิงหรือผู้ชายก็อาจพบผลข้างเคียงหรืออาการแทรกซ้อนที่อันตรายต่อร่างกายและจิตใจได้หากเทคฮอร์โมนผิดวิธี ในที่นี้ก็จะมาให้ข้อมูลที่ควรทราบเกี่ยวกับการเทคฮอร์โมนมาบอกต่อกับผู้ที่มีความสนใจอยากเปลี่ยนแปลงเพศเพื่อนำไปใช้เป็นข้อมูลอ้างอิงในการประกอบการตัดสินใจ

การเทคฮอร์โมน คืออะไร? เปลี่ยนเพศได้จริงไหม?

Transgender hormone theraphy หรือที่เรียกว่า เทคฮอร์โมน คือ การเปลี่ยนสรีระร่างกายและจิตใจโดยรวมให้กลายเป็นเพศที่ต้องการได้ด้วยการเพิ่มปริมาณฮอร์โมนเพศที่ต้องการเข้าสู่ร่างกาย และลดการหลั่งฮอร์โมนเพศเดิมลงเพื่อให้ร่างกายเกิดการเปลี่ยนแปลง

การเทคฮอร์โมนสามารถใช้ได้ทั้งผู้ที่ต้องการเปลี่ยนสรีระให้มีความเป็นหญิงและผู้ที่ต้องการเปลี่ยนสรีระให้มีความเป็นเพศชาย แต่จำเป็นต้องได้รับการดูแลจากแพทย์อย่างใกล้ชิดเพื่อป้องกันอันตรายจากการเทคฮอร์โมนในปริมาณที่ไม่เหมาะสมเนื่องจากสภาพร่างกายของแต่ละคนมีความต้องการปริมาณยาเทคฮอร์โมนต่างกัน

เทคฮอร์โมนหญิงข้ามเพศ

การเทคฮอร์โมนหญิงข้ามเพศ คือ การนำฮอร์โมนเอสโตรเจน(Estrogen) มาเพิ่มฮอร์โมนเพศหญิงในร่างกายให้สูงขึ้น และในขณะเดียวกันก็ให้ยากดฮอร์โมนเพศชายเพื่อลดความเป็นชายลง เมื่อร่างกายรับยากดฮอร์โมนเพศชาย สิ่งที่แสดงความเป็นชาย เช่น หนวด ขนตามร่างกาย กล้ามเนื้อจะค่อย ๆ ลดลง และแทนที่ด้วยสิ่งที่แสดงความเป็นหญิง เช่น หน้าอก ใบหน้าหวาน เสียงแหลมขึ้น เป็นต้น

เทคฮอร์โมนชายข้ามเพศ

การเทคฮอร์โมนชายข้ามเพศ คือ การนำฮอร์โมนแอนโดรเจน(Androgen) มาเพิ่มฮอร์โมนเพศชายในร่างกายให้สูงขึ้น และลดหรือกำจัดความเป็นหญิงในร่างกายให้หมดไป เมื่อร่างกายรับยาเทคฮอร์โมนชายแล้ว ไขมันบริเวณต่าง ๆ จะลดลง การตกไข่และประจำเดือนก็จะลดลงและหายไปด้วย แต่จะมีสิ่งที่แสดงความเป็นชายเพิ่มขึ้น เช่น กล้ามเนื้อ มีขนและหนวดขึ้นตามร่างกาย เสียงทุ้มลง เป็นต้น

คุณสมบัติของผู้ที่ต้องการเทคฮอร์โมน มีอะไรบ้าง

จากที่กล่าวไปข้างต้นว่าร่างกายแต่ละคนมีความต้องการปริมาณยาเทคฮอร์โมนต่างกัน ซึ่งปริมาณฮอร์โมนก็จะส่งผลต่อร่างกายโดยตรงได้ ดังนั้นถ้าอยากเทคฮอร์โมนเพื่อเปลี่ยนเพศ ในเบื้องต้นจะต้องตรวจสอบคุณสมบัติร่างกายก่อนว่าสามารถเทคฮอร์โมนได้หรือไม่ ดังนี้

• ผู้ที่มีอายุ 20 ปีขึ้นไป (กรณีที่อายุอยู่ในช่วง 18-20 จะต้องได้รับการเซ็นเอกสารยินยอมจากผู้ปกครองก่อน)
• ผู้ที่ผ่านการประเมินว่าเป็นผู้ที่มีภาวะไม่พอใจกับสรีระตนเองโดยจิตแพทย์ไม่น้อยกว่า 2 ท่าน
• ผู้ที่ผ่านการตรวจสุขภาพเรียบร้อยแล้วว่ามีร่างกายแข็งแรง ไม่มีปัญหาสุขภาพที่ส่งผลต่อการเทคฮอร์โมน
• ผู้ที่ไม่มีประวัติการแพ้ยา
• ผู้ที่ไม่อยู่ในระหว่างการตั้งครรภ์
  
  

การเทคฮอร์โมนมีกี่แบบ แบบไหนบ้าง?

ในปัจจุบันการเทคฮอร์โมนแบ่งออกเป็น 3 แบบด้วยกัน ซึ่งการเทคฮอร์โมนแต่ละแบบก็จะมีจุดเด่นและข้อจำกัดแตกต่างกัน ดังนี้

แบบฉีด

เทคฮอร์โมนแบบฉีดเป็นการนำยาเทคฮอร์โมนมาฉีดเข้าสู่กระแสเลือดโดยตรงเพื่อให้ฮอร์โมนไปเปลี่ยนสรีระร่างกายเป็นเพศที่ต้องการได้เร็วที่สุด โดยการเทคฮอร์โมนแบบฉีดจะแบ่งเป็น 2 แบบ คือ ระยะสั้นและระยะยาว 

• ระยะสั้น = ยาจะเพิ่มระดับฮอร์โมนในร่างกายให้สูงขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงสัปดาห์แรก และจะค่อย ๆ ลงในระยะสองสัปดาห์ จึงปรับระดับฮอร์โมนง่ายกว่า แต่จำเป็นต้องฉีดเทคฮอร์โมนบ่อย ๆ 
• ระยะยาว = ยาจะค่อย ๆ เพิ่มระดับฮอร์โมนให้สูงขึ้นและค่อย ๆ ลดลงในระยะ 3 เดือน ทำให้ระดับฮอร์โมนในร่างกายมีความคงที่มากกว่าและไม่จำเป็นต้องฉีดยาเทคฮอร์โมนบ่อย ๆ
  
  

แบบรับประทาน

เทคฮอร์โมนแบบรับประทานเป็นการนำยาเทคฮอร์โมนในรูปแบบเม็ดมาทานเพื่อเพิ่มฮอร์โมนเพศที่ต้องการและกดฮอร์โมนเพศที่เป็นอยู่ให้น้อยลง การทานยาจะทำให้ร่างกายค่อย ๆ เกิดการเปลี่ยนแปลงโดยที่ไม่มีอาการบาดเจ็บและไม่ต้องไปโรงพยาบาลบ่อย ๆ 

อย่างไรก็ตามการทานยาเทคฮอร์โมนจำเป็นต้องได้รับการดูแลจากแพทย์ และเมื่อเริ่มทานยาแล้วจะต้องทานตามที่แพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด ไม่ควรเพิ่มหรือลดปริมาณยาที่จะต้องทานเองเพราะอาจส่งผลข้างเคียงต่อร่างกายระยะยาวได้

แบบทาผิวหนัง

เทคฮอร์โมนแบบทาเป็นการนำยาฮอร์โมนมาบนผิวหนังบริเวณที่มีเส้นขนเบาบาง เช่น หน้าท้อง ต้นแขน ต้นขา เพื่อให้ตัวยาซึมเข้าไปในเนื้อผิวและกระแสเลือดได้ดีโดยไม่ต้องฉีดหรือทานยา แต่ตัวยาจะออกฤทธิ์สั้นเพียง 24 ชั่วโมงจึงต้องทาทุกวัน และหลังทาจำเป็นต้องรอให้ยาซึมเข้าผิวหนังก่อนสวมเสื้อผ้า

การเตรียมตัวให้พร้อมก่อนเทคฮอร์โมน

หลังจากที่ตัดสินใจเทคฮอร์โมนเปลี่ยนเพศแล้ว ก็ควรเตรียมตัวให้พร้อมเพื่อให้การรักษาเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนี้

• อ่านรายละเอียดเกี่ยวกับการเทคฮอร์โมนอย่างละเอียด เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ถูกต้องก่อนรักษา
• ทำความเข้าใจและยอมรับความเสี่ยงของการเทคฮอร์โมนเพื่อดำเนินการรักษาได้อย่างไม่กังวล
• เข้าพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกายว่ามีความพร้อมที่จะเทคฮอร์โมนชายหรือหญิงได้โดยไม่มีปัญหาโรคภัยภายหลังหรือไม่
• รับประทานอาหารให้ครบหมู่ ออกกำลังกายให้ร่างกายมีสุขภาพแข็งแรง
• ดูแลสุขภาพทางจิตให้แจ่มใส พร้อมเทคฮอร์โมน
  
  

ผลข้างเคียงจากการเทคฮอร์โมนมีอะไรบ้าง

หลังจากเทคฮอร์โมนชายเป็นหญิงหรือหญิงเป็นชายแล้ว อาจมีโอกาสเกิดผลข้างเคียงขึ้นได้ ดังนี้

• หลังเทคฮอร์โมนจะมีโอกาสป่วยบ่อยขึ้น
• มีความเสี่ยงที่จะมีไขมันในโลหิตสูง หรือมีโอกาสเกิดลิ่มเลือดอุดตันหัวใจ
• มวลกระดูกภายในร่างกายจะบางลง ทำให้กระดูกพรุนหรือเปราะง่ายขึ้น
• มีโอกาสเป็นความดันโลหิตสูง เบาหวาน โรคตับ โรคไต โรคหัวใจ หรือโรคอื่น ๆ ง่ายขึ้น
• อารมณ์แปรปรวน มีโอกาสเป็นโรคซึมเศร้า
  
  

สรุป เทคฮอร์โมน เปลี่ยนร่างกายให้เป็นเพศที่ต้องการ

เทคฮอร์โมนเป็นวิธีที่ช่วยทำให้ผู้ที่ต้องการเปลี่ยนสรีระร่างกายให้เป็นเพศที่ต้องการได้ด้วยการเพิ่มฮอร์โมนเพศที่อยากเทคฮอร์โมนและลดการหลั่งฮอร์โมนเพศเดิมลง ในปัจจุบันการเทคฮอร์โมนแบ่งออกเป็น 3 แบบ คือ แบบฉีด แบบทาน และแบบทา ซึ่งแต่ละแบบก็จะมีวิธีและมีระยะแสดงผลต่างกัน 

อย่างไรก็ตามเมื่อตัดสินใจเทคฮอร์โมนและเริ่มใช้ยาฮอร์โมนเพื่อเปลี่ยนสรีระร่างกายแล้ว จำเป็นจะต้องปฏิบัติตามที่แพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด เพื่อลดความเสี่ยงที่จะเกิดผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายต่อร่างกายและจิตใจ