รวมมาให้แล้ว อัตราดอกเบี้ยบ้าน น่าสนใจในปี 2565
ไม่ว่าจะเป็นการขอ กู้เงินทำบ้าน กู้เงินซื้อบ้าน หรือ กู้ซื้อที่ดิน สิ่งสำคัญที่ควรทำก่อนตัดสินใจเลือกธนาคารเพื่อยื่นกู้ นั่นก็คือการเปรียบเทียบ อัตราดอกเบี้ยบ้าน ของธนาคารแต่ละแห่งนั่นเอง วันนี้เราจึงรวบรวม ดอกเบี้ยกู้บ้าน ของบรรดาธนาคารชื่อดังในประเทศไทย ตามข้อมูลล่าสุดเดือน มิ.ย. 2565 มาให้ เพื่อประกอบการตัดสินใจ แต่ก่อนอื่นเราทุกคนควรทำความรู้จัก ดอกเบี้ยกู้บ้าน ให้มากขึ้นก่อนว่ามีทั้งหมดกี่ประเภท และควรใช้วิธีใดเปรียบเทียบเพื่อให้ได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ที่สุด
ประเภทของ ดอกเบี้ยบ้าน โดยทั่วไปจะแบ่งเป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ ได้แก่ ดอกเบี้ยคงที่ และดอกเบี้ยลอยตัว
ดอกเบี้ยคงที่ คือ อัตราดอกเบี้ยซึ่งถูกกำหนดไว้อย่างตายตัว เช่น อัตราดอกเบี้ยบ้าน คงที่ 3 ปีแรก 2.8% ต่อปี หรือ ผ่อนบ้านกับธนาคาร ในปีแรกที่อัตรา 1.90 % ต่อปี ผ่อนปีที่ 2 - 3 ในอัตรา 2.5% ต่อปี ซึ่งดอกเบี้ยคงที่แบบนี้เรามักจะพบในการกำหนดอัตราดอกเบี้ยช่วง 1 - 4 ปีแรก
ดอกเบี้ยลอยตัว คือ ดอกเบี้ยบ้าน ที่มีการเปลี่ยนแปลงไปตามประกาศดอกเบี้ยเงินกู้ มักปรากฏให้เห็นในรูปแบบ “ปีที่ 4 เป็นต้นไปคิดดอกเบี้ย MRR -1.50% ต่อปี ซึ่ง MRR หรืออัตราดอกเบี้ยเงินกู้ขั้นต่ำที่ธนาคารเรียกเก็บจากลูกค้ารายย่อยชั้นดีจะมีการเปลี่ยนแปลงไปตามสถานการณ์และความเหมาะสมในช่วงเวลานั้น ๆ โดยส่วนใหญ่จะเคลื่อนไหวอยู่ระหว่าง 5 - 7% ต่อปี
ต่อมาเรามาดูตารางเปรียบเทียบดอกเบี้ยของแต่ละธนาคารพร้อมกัน อัตราดอกเบี้ยที่ยกมาจะใช้อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรก ซึ่งถูกคำนวณกู้บ้านแบบค่าเฉลี่ยทางคณิตศาสตร์เพื่อเพิ่มความสะดวกในการเปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ยของแต่ละธนาคาร
ธนาคาร |
อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปี |
วงเงินกู้สูงสุด |
ระยะเวลากู้สูงสุด(ปี) |
ธ.อาคารสงเคราะห์ |
1.99% |
1.2 ล้านบาท |
40 |
ธ.กรุงศรีอยุธยา |
2.55% |
100% |
30 |
ธ.กรุงไทย |
3.00% |
100% |
40 |
ธ.กรุงเทพ |
4.30% |
70-100% |
35 |
ธ.ออมสิน |
2.30% |
ไม่เกิน 5 ล้านบาท |
20 |
จะสังเกตได้ว่าอัตราดอกเบี้ย วงเงินกู้ และระยะเวลากู้สูงสุดของธนาคารอาคารสงเคราะห์ และธนาคารกรุงไทยมีความน่าสนใจเป็นพิเศษ ในกรณีที่ผู้กู้ต้องการวงเงินกู้ต่ำกว่า 1.2 ล้านบาท ธนาคารอาคารสงเคราะห์ถือเป็นตัวเลือกที่ดีอันดับหนึ่ง แต่อย่างที่ทราบกันดีว่าราคาบ้านในปัจจุบันมักมีราคาสูงกว่านั้น ดังนั้นการกู้ได้วงเงิน 100% ผ่อนยาวนาน 40 ปี ในแบบของธนาคารกรุงไทย จึงกลายเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว
อย่างไรก็ตามหลักสำคัญในการผ่อนบ้านกับธนาคาร ไม่ได้หยุดอยู่เพียงขั้นตอนเปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ยก่อนยื่นกู้เท่านั้น แต่การผ่อนชำระมากกว่าค่างวด การโปะค่าบ้านด้วยเงินก้อน รวมถึงการขอลดดอกเบี้ย (Retention) และการรีไฟแนนซ์ไปยังสถาบันการเงินอื่นที่มีโปรโมชันพิเศษกว่าในช่วงเวลานั้น ก็ยังถือเป็นเคล็ดลับสำคัญเพื่อช่วยให้เราสามารถผ่อนบ้านหมดได้เร็วกว่ากำหนดอีกด้วย ดังนั้นผู้กู้จึงควรติดตามข่าวสารเกี่ยวกับโปรโมชันพิเศษ รวมถึงมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ของธนาคารต่าง ๆ เป็นประจำ เพื่อช่วยเพิ่มโอกาสดี ๆ ด้านการเงิน และเพื่อเปิดรับประโยชน์ทางการเงินได้อย่างเต็มที่
โพสตอบ
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเโพสตอบได้