ประกันสุขภาพมีกี่แบบ แล้วเลือกซื้อประกันอย่างไรดี
สำหรับใครที่กำลังมองหาเรื่องของประกันสุขภาพ หรือยังไม่แน่ใจว่าเราควรทำประกันแบบใด เพราะหากเป็นพนักงานออฟฟิศทำงานบริษัทเอกชนก็มีประกันแบบเหมาจ่าย หรือประกันสังคมอยู่แล้ว แต่เมื่อคุณไม่สบายจำเป็นต้องพักรักษาอยู่หลายวัน ประกันสุขภาพจะเริ่มมีความสำคัญขึ้นมาทันที เนื่องจากความคุ้มครองสูงกว่านั่นเอง ทำให้หลายคนเริ่มอยากซื้อประกันเพื่อความคุ้มครองเพิ่มเติม แต่จะต้องพิจารณาอะไรบ้าง วันนี้ประกันสุขภาพ กรุงไทยเราพามาดูกัน
1.รายละเอียดของกรมธรรม์
กรมธรรม์ของประกันสุขภาพจะระบุรายละเอียดขอบเขตของวงเงิน รวมทั้งค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล ซึ่งประกันแต่ละฉบับให้ความคุ้มครองในการรักษาต่างกัน เช่นประกันสุขภาพเหมาจ่ายกรุงไทย ประกัน IPD ที่เน้นการรักษาผู้ป่วยในให้สามารถเบิกเงินประกันสำหรับค่าห้อง ค่ารักษา หรือเงินชดเชยรายวัน โดยแผนประกันสุขภาพก็มีรายละเอียดต่างกันไป อาทิ ประกันที่จ่ายเงินเคลมในกรณีที่ค่ารักษาเกินขอบเขตที่กำหนด บริษัทจะจ่ายให้ทั้งหมด หากต่ำกว่านั้นผู้เคลมประกันต้องเสียค่าใช้จ่ายเอง และอีกประเภทคือ ประกันสุขภาพแบบเหมาจ่ายที่ค่าเบี้ยประกันรายเดือนสูง แต่ความคุ้มครองหลากหลายกว่า วงเงินคุ้มครองอาจเกิน 1 ล้านบาท
2.เงื่อนไขด้านการเงินส่วนบุคคล
แม้ว่าทุกคนควรทำประกันสุขภาพเพื่อป้องกันความเสี่ยงต่อโรคร้ายที่อาจเกิดขึ้น แต่ก็มีบางคนที่มีเงื่อนไขด้านการเงินส่วนบุคคล เช่น ค่าใช้จ่ายต่อเดือนสูงจนไม่มีเงินเก็บ ทำให้ไม่สามารถทำประกันสุขภาพแบบเหมาจ่ายที่ค่าใช้จ่ายสูง อาจต้องพิจารณาเลือกแผนประกันชนิดแยกค่าใช้จ่ายตามอาการโรค ซึ่งเป็นกรมธรรม์ที่ค่าใช้จ่ายถูกกว่า การกำหนดวงเงินของประกันชนิดนี้แยกความคุ้มครองออกเป็นด้านต่าง ๆ เช่น ค่าผ่าตัด หรือ ค่าห้อง จึงเหมาะสำหรับคนที่ไม่มีโรคประจำตัวมากนัก
แนะนำประกันสุขภาพ ที่เริ่มต้นทำได้
1.ประกัน OPD
ประกันสุขภาพสำหรับผู้ป่วยนอก ให้ความคุ้มครองแก่โรคอายุรกรรมทั่วไปไม่มีความรุนแรงมากจนต้องแอดมิต เช่น เกิดอุบัติเหตุเล็ก หรือไข้ทั่วไป เป็นต้น ซึ่งประกันชนิดนี้ช่วยอำนวยความสะดวกรวดเร็วในการรักษาอย่างมาก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนวัยทำงานที่ไม่ต้องการลางานทั้งวัน ถ้าเข้ารับการรักษากับสถานพยาบาลที่เข้าร่วมประกัน OPD ของแผนบริษัท เรียกได้ว่าตรวจเร็วใช้เวลาไม่นาน แต่มีข้อควรรู้ คือ OPD บางแผนจะมีการจำกัดจำนวนครั้งของการเคลมประกัน ส่วนมาก 30 ครั้งต่อปี
2.ประกันมะเร็งใจแตก
ประกันที่จำหน่ายบนแอปพลิเคชัน Krungthai Next ให้ความคุ้มครองมะเร็งทุกระยะ รวมไปถึงโรคกล้ามเนื้อหัวใจตาย และโรคหลอดเลือดสมอง ซึ่งแผนความคุ้มครองมีอยู่ 3 แผน ตั้งแต่ 100,000 บาท 200,000 บาท และ 300,000 บาท เบี้ยประกันภัยรายปีต่ำสุดสำหรับวัย 20 ปีอยู่ที่ 423 บาท หรือผู้สูงอายุเกิน 60 ปี ค่าเบี้ยประกันรายปีต่ำสุด คือ 4,650 บาท เหมาะสำหรับคนทุกวัยที่มีความเสี่ยงด้านหลอดเลือดและหัวใจเป็นพิเศษ หากอยู่ในกลุ่มเสี่ยง เช่น นอนหลับไม่เพียงพอ หรือทานอาหารมีคอเลสเตอรอลสูง เป็นต้น
สำหรับใครที่ยังไม่แน่ใจว่าประกันแบบไหนที่เหมาะกับคุณ ธนาคารกรุงไทยยังมีผลิตภัณฑ์ประกันแบบอื่นอีก เช่น ประกัน Health DIY และ ประกันสุขภาพเหมาจ่าย ที่ช่วยออกแบบให้ความครอบคลุมมากขึ้น ทำให้หากเจ็บป่วยเมื่อใดก็อุ่นใจเพราะมีประกันสุขภาพ ประกันอุบัติเหตุ กรุงไทย หรือจะสอบถามกับเจ้าหน้าที่ก็ได้เช่นกัน
โพสตอบ
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเโพสตอบได้