อยากซื้อบ้านมือสอง มีขั้นตอนอย่างไรบ้าง

ถ้าพูดถึงบ้านนั้นคือที่อยู่อาศัยที่ใครๆหลายคนนั้นต้องการมี ซึ่งนอกจากบ้านมือหนึ่งที่ขายโดยโครงการต่าง ๆ แล้วนั้นยังมีบ้านมือสองที่เป็นตัวเลือกนิยมอีกด้วย ด้วยเศรษฐกิจตอนนี้ในปัจจุบันที่เหล่าผู้ต้องการเป็นเจ้าของบ้านต้องการมีที่พักอยู่อาศัยในราคาที่ไม่แร่ง ย่อมเยา ไม่เกินงบที่ตั้งไว้ และสามารถเข้าอยู่ได้ทันทีเมื่อเสร็จกระบวนการ มีตัวเลือกมากมายในปัจจุบันไม่ว่าจะเป็นขนาดพื้นที่ ทำเลต่างๆ การเดินทางที่สะดวกและใกล้สิ่งอำนวยสะดวกต่าง ๆ 

เพื่อที่จะได้บ้านมือสองที่ดี ไม่โดนหลอกขาย ได้บ้านที่มือสองคุณภาพไม่ด้วยไปกว่าบ้านมือหนึ่ง จะต้องผ่านขั้นตอนต่าง ๆ และตรวจสอบให้ดี โดยสิ่งที่เราต้องดูและ เตรียมตัวนั้นมีอะไรบ้างก่อนซื้อบ้านมือสอง และมีขั้นตอนการซื้อบ้านมือสองอย่างไรบ้าง บทความนี้มีคำตอบ ไปดูกัน

1.ประเมินความสามารถในการกู้เงิน กู้ได้เท่าไหร่

แน่นอนว่าการซื้อบ้านนั้นจะต้องใช้เงินจำนวนที่ไม่น้อย ดังนั้นก่อนที่จะวางแผนซื้อบ้านมือสองนั้นการประเมินความสามารถในการกู้เงิน เพื่อความสามารถในการผ่อนที่ผู้ซื้อสามารถรับได้ และทางผู้ปล่อยกู้นั้นสามารถปล่อยกู้ได้ โดยเราสามารถยื่นใบเอกสารการกู้สินเชื่อวงเงิน กับสถาบันการเงินต่าง ๆ โดยทางสถาบันจะคำนวณความสามารถในการผ่อนเพื่อที่จะได้ปล่อยกู้ได้ และจำนวนการปล่อยกู้จะขึ้นอยู่กับความสามารถทางการเงินของผู้ซื้อว่ามีคุณสมบัติมากน้อยเพียงใด โดยเกณฑ์ทั่วไปที่ใช้นั่นคือ 35%-40% ของรายได้สุทธิ ซึ่งส่วนใหญ่จะไม่เกิน 1 ใน 3 ของรายได้สุทธิ กรณีหากวงเงินที่ได้รับน้อยกว่าที่ต้องการนั้น มีอีกทางเลือกนั่นคือต้องหาผู้กู้ร่วม หรือหาเงินสดเพิ่มนั่นเอง 

2.เตรียมความพร้อม วางแผนค่าใช้จ่ายเผื่อค่าใช้จ่ายอื่นๆ 

การซื้อบ้านมือสองนั้นไม่เพียงแต่จะต้องเตรียมเงินเพื่อซื้อบ้านแล้วนั้นยังมีค่าใช้จ่ายอื่นๆอีกมากมาย ซึ่งค่าใช้จ่ายนั้นจะค่อนข้างจะมีหลายรายการและซับซ้อนกว่าการซื้อบ้านมือหนึ่งระหว่างผู้ขายและผู้ซื้อ เนื่องจากการซื้อบ้านมือสองหรือการขายนั้นจะดำเนินการทำสัญญาผ่านแบบฟอร์มลายลักษณ์อักษร หรือ อื่น ๆ เพื่อเป็นข้อกำหนดการตกลงก่อนซื้อบ้านมือสองสำหรับทั้งสองฝ่าย โดยมีค่าธรรมเนียมหลัก ๆ ดังนี้คือ

• ค่าจดจำนอง
• ค่าภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
• ค่าอากรแสตมป์ หรือ ค่าภาษีธุรกิจเฉพาะ
• ค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์

โดยค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ที่ได้ยกตัวอย่างไปนั้น ค่าจดจำนอง ผู้ซื้อจะต้องเป็นฝ่ายชำระค่าธรรมเนียมส่วนนี้ ส่วนค่าอื่น ๆ นั้นขึ้นอยู่กับข้อตกลงของผู้ซื้อและผู้ขายกำหนดเอง

3.ดูประเภทของการซื้อบ้านมือสอง มีประเภทอะไรบ้าง

ช่องทางสำหรับการซื้อบ้านมือสองนั้นมีมากและข้อมูลที่มากฏมายให้ผู้ซื้อเลือกดูอีกทั้งในตลาดก็มีบ้านมือสองให้ดูมากมายเช่นเดียวกัน ซึ่งช่องทางที่เป็นที่นิยมในการซื้อบ้านมือสองนั้นมีดังนี้

บ้านมือสองที่เจ้าของบ้านประกาศขายเอง

สำหรับการซื้อบ้านมือสองประเภทที่เจ้าของบ้านลงประกาศเองนั้น หากสนใจซื้อบ้านประเภทนี้สามารถดำเนินการซื้อบ้านมือสองกับเจ้าของบ้านที่เป็นผู้ขายได้โดยไม่ต้องผ่านใคร หรือ คนกลาง สำหรับกรณีนี้ ผู้ซื้อจริงๆแล้วนั้นวิธีนี้เป็นวิธีที่ง่ายและปลอดภัยที่สุดเนื่องจากไม่ต้องกลัวการย้อมขาย ไม่ใช่การขับไล่ หรือหลอก เราติดต่อเจ้าของบ้านโดยตรง วิธีนี้ผู้ซื้อนั้นอาจจะต้องแบ่งเวลามาเพื่อไปดำเนินการขั้นตอนต่าง ๆ เนื่องจากไม่มีคนกลางหรือตัวแทนดำเนินการขั้นตอนต่าง ๆ ให้ ข้อควรทำอีกหนึ่งอย่างนั้นคือการตรวจสอบเอกสารด้วยตนเองอย่างครบถ้วนและตกลงค่าใช้จ่ายให้เรียบร้อย

บ้านมือสองจากธนาคาร

การซื้อบ้านมือสองหรือสินทรัพย์จากธนาคารนั้นเป็นหนึ่งช่องทางที่ได้รับความนิยมเช่นเดียวกันด้วยความสะดวกและรวดเร็วเนื่องจากการดำเนินการนั้นจะผ่านจากธนาคารโดยตรงซื่งมีความปลอดภัยและโดยทั่วไปนั้นราคาตลาดบ้านมือสองที่มาจากธนาคารจะมีราคาที่ต่ำกว่าตลาดทั่วไป และมีตัวเลือกหลายรายการให้เลือก และการที่ซื้อบ้านมือสองจากธนาคารนั้นการขอกู้ซื้อบ้านนั้นจะทำได้ง่ายและรวดเร็วยิ่งขึ้น

บ้านมือสองที่นายหน้าประกาศขาย

หากคุณไม่ค่อยมีเวลาตามหาบ้านที่คุณต้องการ ไม่สันทัดเรื่องการเตรียมเอกสารต่าง ๆ หรือการต่อรอง การจ้างนายหน้าหรือซื้อบ้านมือสองผ่านนายหน้าประกาศขายเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับคุณ สามารถให้นายหน้านั้นเลือกหาพื้นที่เราระบุและต้องการ และการจัดเตรียมเอกสารอย่างครบถ้วนได้

4.เลือกทำเลที่ตั้ง สภาพแวดล้อม และประเภทของบ้านที่เหมาะสม

การเลือกทำเลที่ตั้งของบ้านมือสองสำหรับผู้ซื้อนั้นสิ่งสำคัญนั่นคือ ประวัติของตัวบ้าน และอาณาเขตบริเวณรอบบ้านมือสองนั้นเป็นอย่างไร สภาพแวดล้อมของบ้านมือสองนั้นสอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของผู้ซื้อหรือไม่ ศึกษาการเดินทางที่ใช้ประจำไม่ว่าจะเป็นการทำงาน ไปเรียน หรือทำธุระว่าสะดวกต่อการเดินทางหรือไม่ ซึ่งควรมีตัวเลือกไว้อย่างน้อย 2-3 ที่และพิจารณาตามลำดับและเปรียบเทียบกับราคากับความน่าสนใจ

5.ตรวจสอบข้อมูลทางกฎหมาย

สิ่งสำคัญอย่างมากอีกอย่างหนึ่งนั่นคือการตรวจสอบข้อมูลของบ้านมือสองในทางกฏหมาย อย่างเช่น บ้านมือสองนั้นอยู่ในพื้นที่มีความเสี่ยงการเวนคืนที่ดินหรือไม่ ซึ่งพื้นที่ที่ถูกเวนคืนนั้น จะอยู่ในทรัพย์สินในเครือข่ายของรัฐ กรมทางหลวง และ ถนนสายใหม่ หากเข้าข่ายนั้นให้พิจารณาใหม่อีกครั้ง และความหาบ้านมือสองพื้นที่ที่ไม่เป็นพื้นที่เวนคืนจะขจัดความเสี่ยงและสะดวกกว่า

6.ทำสัญญาและตรวจสอบสัญญาการซื้อขาย

ขั้นตอนการทำสัญญาซื้อขายบ้านมือสอง ก่อนการทำสัญญาซื้อขายต้องตรวจสอบรายละเอียดของสัญญาให้ครบถ้วน ชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นค่าใช้จ่ายต่างๆที่เกี่ยวกับการซื้อบ้าน ค่าธรรมเนียม ค่ามัดจำ ในวันทำสัญญาซื้อบ้านมือสองผู้ขายจะต้องทำสำเนาโฉนดที่ดินพร้อมบัตรประชาชนของผู้ขายให้กับผู้ซื้อบ้านมือสอง เพื่อใช้เป็นเอกสารในการขอสินเชื่อกู้กับธนาคารหรือสถาบันทางการเงินต่อไป

7.นัดโอนบ้าน โดยไปยังกรมที่ดิน

ขั้นตอนสุดท้ายสำหรับการซื้อบ้านมือสองนั่นคือผู้ซื้อกับผู้ขายต้องไปดำเนินการจดทะเบียนการโอนกรรมสิทธิ์พร้อมกันที่สำนักงานกรมที่ดินของที่ดินแปลงนั้นๆที่ต้องการจะซื้อ และชำระค่าใช้จ่ายส่วนต่าง ๆ ที่มีการกำหนดไว้ในวันที่ทำสัญญาซื้อขาย การทำการโอนกรรมสิทธิ์นั้นเพื่อที่จะเปลี่ยนสถานะเจ้าของกรรมสิทธิ์จากชื่อผู้ขายเป็นชื่อผู้ซื้อโดยสมบูรณ์ หากผู้ซื้อกู้สินเชื่อกับสถาบันการเงิน เจ้าหน้าที่จะสำเนาเอกสารโฉนดที่ดินของผู้ซื้อนั้นเก็บไว้เป็นหลักฐาน ส่วนโฉนดฉบับจริงนั้นจะเก็บไว้ที่กรมที่ดินและสถาบันการเงินฝ่ายละฉบับ

บ้านมือสองพร้อมอยู่ ตอบโจทย์ในฝัน

บ้านมือสองนั้นเป็นตัวเลือกหนึ่งที่น่าสนใจเป็นอย่างมากสำหรับใครที่มีงบไม่พอที่จะซื้อบ้านมือหนึ่งหรือไม่ต้องการซื้อบ้านมือหนึ่งเหมาะกับผู้ที่ต้องหาที่อยู่อาศัยหรือนำมาต่อยอดด้วยการลงทุน ด้วยราคาที่ถูกกว่ามือหนึ่งอย่างเห็นได้ชัด และมีตัวเลือกหลากหลายขึ้นในปัจจุบัน ควรเลือกทำเลบ้านที่เหมาะสมกับผู้ซื้อและเตรียมขั้นตอนต่างๆเกี่ยวกับการซื้อบ้านให้ครบถ้วนเพื่อไม่เป็นการเสียเวลาและการดำเนินการที่รวดเร็วเพื่อให้ได้บ้านที่เราต้องการนั่นเอง