รู้ทันสาเหตุการเกิดน้ำกัดเท้า และการรักษาอย่างเหมาะสม
เพราะสุขอนามัยที่เท้า ก็เป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้กับส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย โดยเฉพาะคนที่ต้องใส่รองเท้าเป็นเวลานาน ๆ หรือทำงานในบริเวณพื้นที่ชื้นแฉะ ก็เสี่ยงต่อการเกิดโรคน้ำกัดเท้าได้ เพื่อช่วยให้ทุกคนตระหนักถึงพิษภัยของโรคน้ำกัดเท้ากันมากขึ้น บทความนี้จะมาบอกถึงสาเหตุการเกิดน้ำกัดเท้า และการรักษาอย่างเหมาะสมให้ได้รู้กัน ตามไปดูกันเลย
น้ำกัดเท้าคืออะไร
น้ำกัดเท้า (Athlete's foot) หรือฮ่องกงฟุต เป็นโรคผิวหนังที่พบได้บ่อย โดยเกิดจากเชื้อราที่เจริญเติบโตได้ดีในสภาพแวดล้อมที่ชื้นและอบอุ่น เช่น บริเวณเท้าที่มักมีเหงื่อออก
สาเหตุการเกิดน้ำกัดเท้า
สาเหตุหลักของการเกิดน้ำกัดเท้าคือการไม่รักษาสุขอนามัยที่เท้าอย่างดีเท่าที่ควร ทำให้เท้าทีเชื้อรา ซึ่งสามารถแพร่กระจายจากคนสู่คนผ่านการสัมผัสกับพื้นผิวที่มีเชื้อรา เช่น พื้นห้องน้ำ พื้นสระว่ายน้ำ หรือรองเท้าที่ใส่ร่วมกัน
สาเหตุของน้ำกัดเท้า นอกจากเรื่องของการไม่ได้รักษาสุขอนามัยแล้ว ยังมีปัจจัยอื่น ๆ ที่อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดน้ำกัดเท้า ได้แก่
- การสวมรองเท้าที่คับหรืออับชื้น
- การมีเท้าที่เย็นและชื้นอยู่บ่อยๆ
- การมีภูมิคุ้มกันบกพร่อง
- โรคเบาหวาน
อาการของน้ำกัดเท้า
ก่อนที่จะไปดูว่าน้ำกัดเท้ารักษาอย่างไร เรามาดูอาการของน้ำกัดเท้าที่พบบ่อยกัน ซึ่งได้แก่
- ผิวหนังบริเวณเท้ามีอาการคัน แดง ลอก แตก
- ผิวหนังบริเวณเท้ามีผื่นแดงเป็นแผ่น
- ผิวหนังบริเวณเท้ามีขุยสีขาวหรือสีเหลือง
- เล็บเท้าเปราะหักง่าย
การรักษาน้ำกัดเท้า
น้ำกัดเท้าสามารถรักษาได้ด้วยการใช้ยาทาหรือยารับประทานฆ่าเชื้อรา โดยแพทย์จะเป็นผู้พิจารณาวิธีการรักษาที่เหมาะสม
นอกจากนี้ ผู้ป่วยสามารถดูแลตนเอง เพื่อบรรเทาอาการและป้องกันไม่ให้น้ำกัดเท้ากลับมาเป็นซ้ำได้ จนทำให้ชีวิตวุ่นวายได้อีก ดังนี้
- รักษาความสะอาดเท้าให้แห้งอยู่เสมอ
- หลีกเลี่ยงการเดินเท้าเปล่าในที่สาธารณะ
- สวมรองเท้าที่ระบายอากาศได้ดี
- รักษาความชื้นในอากาศให้เหมาะสม
การป้องกันน้ำกัดเท้า
ในส่วนของวิธีในการป้องกันน้ำกัดเท้าสามารถทำได้ ดังนี้
- รักษาความสะอาดเท้าให้แห้งอยู่เสมอ
- หลีกเลี่ยงการเดินเท้าเปล่าในที่สาธารณะ
- สวมรองเท้าที่ระบายอากาศได้ดี
- รักษาความชื้นในอากาศให้เหมาะสม
- หลีกเลี่ยงการแช่เท้าในน้ำเป็นเวลานาน
- สวมถุงเท้าที่สะอาดและแห้ง
- รักษาเล็บเท้าให้สั้นและสะอาด
และหวังว่าทั้งหมดนี้จะช่วยให้คุณสามารถดูแลตนเองให้ปลอดภัยจากโรคน้ำกัดเท้าได้ และหากมีอาการคัน แดง ลอก แตก บริเวณเท้า ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยและรักษาอย่างเหมาะสมต่อไป
โพสตอบ
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเโพสตอบได้