กาแฟคั่วอ่อน คั่วกลาง คั่วเข้ม รสชาติต่างกันอย่างไร แบบไหนถึงจะถูกปาก

nemophilanie

ขีดเขียนดีเด่น (354)
เด็กใหม่ (0)
เด็กใหม่ (0)
POST:465
เมื่อ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2566 01.22 น.

การดื่ม กาแฟ แพร่หลายได้รับความนิยมไปทั่วโลก เพราะเป็นเครื่องดื่มที่เต็มไปด้วยเสน่ห์มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวตามแต่ละพื้นที่ เมล็ดกาแฟที่มาจากแหล่งปลูกต่างกันย่อมให้รสชาติแตกต่างกันไปด้วย รวมถึงกลิ่นหอมอ่อน ๆ ที่ช่วยเพิ่มความสดชื่นทุกครั้งที่ดื่ม จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่คนจำนวนมากตกหลุมรักเครื่องดื่มชนิดนี้ แต่ทราบกันหรือไม่ว่าก่อนจะถูกนำมาทำเป็นเครื่องดื่ม เมล็ดจะถูกนำไปคั่วจนกลายเป็นสีน้ำตาลแบบที่เราเห็นกัน โดยแบ่งเป็น คั่วเข้ม คั่วกลาง และคั่วอ่อน เรามาดูกันว่า กาแฟคั่วเข้มคือ อะไร แตกต่างจาก 2 แบบที่เหลืออย่างคั่วกลางและคั่วอ่อนอย่างไรบ้าง เพื่อการดื่มกาแฟได้ถูกปากมากขึ้น

 

ทำความรู้จักการคั่วประเภทต่าง ๆ เพื่อการชงให้อร่อยถูกใจ

ก่อนจะไปรู้จักการคั่วแบบต่าง ๆ ต้องบอกก่อนว่าการที่เมล็ดจะเป็นสีน้ำตาลแบบที่เราเห็นกันนั้นจะต้องผ่านขั้นตอนการคั่ว โดยระดับการคั่วของกาแฟนับได้เป็นการคั่วอ่อน คั่วกลาง และคั่วเข้ม จะมีขั้นตอนการคั่วเหมือนกัน แต่จะแตกต่างตรงการนับเสียงการแตกตัวของเมล็ดกาแฟ หรือที่เรียกว่าการนับ Crack เพื่อให้รู้การคั่วอยู่ในระดับใด สำหรับ กาแฟคั่วอ่อน มีการแตกตัว 1 ครั้ง หลังจากนั้นคั่วต่ออีกไม่นานก็ถือว่าเสร็จสิ้น เป็นการคั่วที่ใช้เวลาน้อยที่สุด เมล็ด กาแฟคั่วอ่อน จะมีสีน้ำตาลอ่อน ผิวเมล็ดจะดูแห้ง รสชาติจะเปรี้ยว แต่ได้รสชาติดั้งเดิมของถิ่นกาแฟนั้น ๆ เหมาะสำหรับคนที่อยากลิ้มลองรสชาติคลาสสิก ไม่ปรุงแต่ง จึงเหมาะกับการนำมาทำอเมริกาโน่ หรือกาแฟดริปต่าง ๆ เพื่อรับรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์

สำหรับ กาแฟคั่วกลาง ถือเป็นการคั่วที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เพราะระดับความเข้มของกาแฟ ไม่ขมไม่เปรี้ยวจนเกินไป มาพร้อมความกลมกล่อมกำลังดี อีกทั้งยังคงรสชาติแบบดั้งเดิมเอาไว้พอสมควร การคั่วรูปแบบนี้จะให้สีน้ำตาลเข้มกว่าการคั่วอ่อน และสัญญาณว่าเข้าสู่ระดับการคั่วกลางแล้วคือต้องหยุดการคั่วก่อนที่จะมีเสียงการแตกตัวของเมล็ดครั้งที่ 2 การคั่วกลางจึงอาจยากกว่าการคั่วแบบอื่น ๆ โดย กาแฟคั่วกลาง เหมาะกับนำมาทำอเมริกาโน่ เอสเปรสโซ รวมถึงพวกกาแฟดริป

ปิดท้ายกันที่ กาแฟคั่วเข้ม เมล็ดที่ได้ต้องมีสีเข้ม เพราะระยะเวลาการคั่วที่นานกว่าประเภทอื่น ๆ ผิวเมล็ดจะค่อนข้างมัน รสชาติจะแทบไม่มีความเปรี้ยวหลงเหลือ แต่ค่อนข้างขม และสัญญาณว่าเข้าสู่ระดับการคั่วเข้มแล้วคือเสียงการแตกตัวของเมล็ดจะเกิดขึ้น 2 ครั้ง เหมาะสำหรับคนที่จะนำไปทำเมนูกาแฟแบบใส่นมหรือใส่น้ำตาล แน่นอนว่าต้องเลือกเมล็ด กาแฟคั่วเข้ม ซึ่งเหมาะที่สุด นอกจากนี้ยังเหมาะกับการออกแบบเมนูเอสเพรสโซ่อีกด้วย

 

เมื่อทราบแล้วว่ากาแฟแต่ละแบบต่างกันอย่างไรบ้าง เชื่อว่าการชง กาแฟ ครั้งต่อไปจะต้องเลือกเมล็ดได้อย่างเหมาะสม รับรองว่าทุกคนจะได้รสชาติที่ถูกใจแน่นอน

 

ชมข้อมูลเพิ่มเติมที่

https://www.nespresso.com/th/th/coffee-roast-levels

โพสตอบ

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเโพสตอบได้

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา